📸(6/11/63)📸วัดธรรมาราม ตั้งอยู่ตำบลบ้านป้อมอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เยื้อง ๆ เจดีย์ศรีสุริโยทัย ใกล้กับวัดกษัตราธิราช เดิมชื่อ วัดธรรมา เรียก วัดธรรมาวาศ บ้าง วัดราชธรรมาวาศวรวิหาร บ้างวัดธรรมาราม ปรากฎชื่อครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระมหินทราธิราช ครั้งพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.2112 กองทัพบางส่วนตั้งมั่นอยู่ที่วัดธรรมาราม แสดงให้เห็นว่าวัดธรรมารามได้สร้างขึ้นแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา คือ เป็นสถานที่จำพรรษาของพระอุบาลีมหาเถระ กับพระอริยมุนีมหาเถระ ซึ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์แห่งวัดพุทไธศวรรย์แต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาจารย์ออกไปลังกาทวีป เมื่อ พ.ศ.2296 เพื่อให้อุปสมบทกุลบุตรชาวลังกา เนื่องจากพุทธศาสนาได้เสื่อมหายไปจากดินแดนแห่งนี้ ตามพระราชโองการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทำให้พระพุทธศาสนาลัทธิสยามวงศ์อุบัติขึ้น ณ ลังกาทวีปตั้งแต่นั้นมา.ปัจจุบันวัดธรรมารามเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนคือเขตพุทธาวาส ประกอบด้วยเจดีย์ทรงระฆังเป็นประธาน มีวิหารอยู่ทางทิศตะวันออก และอุโบสถอยู่ทางทิศตะวันตก ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ส่วนเขตสังฆาวาส ประกอบด้วย หอไตร หอระฆัง หมู่กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ และศาลาท่าน้ำวัดธรรมาราม เป็นพระอารามเล็ก ๆ สร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่มีข้อมูลว่าผู้ใดสร้าง ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นศิลปะอยุธยาตอนปลาย บานประตูแกะสลักเป็นลวดลายต้นไม้ นก อันวิจิตรด้วยฝีมือชั้นครู ก่อผนังหุ้มกลองหน้าหลังเชื่อมผนังเป็นหน้าบันยันอกไก่ และปั้นปูนเป็นรูปลายเครือเถา ประดับถ้วยชาม และปั้นปูนลวดลายในตรงที่เป็นช่อฟ้า ใบระกา
เป็นวัดที่สงบร่มรื่น สะอาด บริเวณวัดแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งที่ประกอบด้วย โบสถ์ สถูปเจดีย์ วิหาร กับฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถและด้านหลังของลานจอดรถจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังของทางวัดให้ศึกษาวันที่ไปทางวัดเปิดแค่วิหารให้เข้ากราบสักการะ ทางด้านหน้าของวิหารมีพระพุทธรูปที่ได้รับมาจากประเทศศรีลังกาประดิษฐานอยู่ให้สักการะ และอย่าลืม้ดินไปทางด้านหลังขององค์พระประธานจะมีห้องเล็กอีกห้องมีพระพุทธรูปอีกองค์ประดิษฐานอยู่ด้วยวิหารของวัดธรรมารามยังคงรูปแบบเดิมๆตั้งแต่ได้สร้างมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา อยากให้ไปชมจั่ว ประตูทำจากไม้และแกะสลักอย่างสวยงาม
ถ้าชอบความเงียบสงบที่นีถือว่าใช่
วัดธรรมาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม หมู่ที่ ๖ นอกเกาะเมืองด้านทิศตะวันตกอยู่ติดกับ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเยื้องๆ กับเจดีย์ศรีสุริโยทัยใกล้กับวัดกษัตราธิราช ปัจจุบันหากมองจากบนฝั่งเกาะเมืองตรงบริเวณเจดีย์ศรีสุริโยทัย จะเห็นกุฏิโบราณก่ออิฐถือปูนหลังหนึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำภายในวัดมีเจดีย์ประธานทรงกลมบนฐานประทักษิณสี่เหลี่ยมเป็นประธานของวัด มีพระวิหารตั้งอยู่ทางทิศดะวันออก และพระอุโบสถตั้งอยู่ทางดัานหลังของเจดีย์ประธานทางทิศตะวันตก ส่วนหอไตรและหอระฆังดั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทางทิศดะวันออก ในเขตสังฆาวาส
เงียบสงบ งดงาม วัดของพระอุบาลีเถระผู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในลังกา จนได้ชื่อว่า สยามวงศ์
16/1/2563 วัดที่2กับทริปทำบุญ9วัด ชอบวัดนี้มากค่ะ วัดสวย
เป็นวัดที่ไม่มีพาณิชย์ เงียบสงบมาก เหมาะกับการไปไหว้พระทำสมาธิจริงๆ อยู่ติดแม่น้ำ ให้ความเย็นตาสบายใจ แถมยังมีเครื่องดื่มไว้บริการท่านที่ไปไหว้พระทำบุญฟรีอีกด้วย
สวยงาม สงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ ชอบอาคารริมน้ำมากๆเลยครับ มีภาพเขียนโบราณด้วย
สะอาด.สงบ.เงียบมากครับ
สวยงามเงียบสงบมาก มีพิพิธภัณฑ์ด้วยบรรยากาศร่มเย็นสบาย
วัดก่าแ่สมัยอยุธยา ดูแลอย่างดี สะอาดตา งดงาม
สถานที่สวยงาม สงบ ร่มเย็น ติดแม่น้ำ วัดเก่าโบราณ มีประวัติ ตำนาน ควรมากราบไหว้ บูชา เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต เดินทางเข้ามาจากถนนใหญ่ เลี้ยวเข้ามาไม่ไกลค่ะ อยากให้มาแวะกัน
เงียบสงบสะอาดเหมาะสมกับการอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ของการเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศไทย
เป็นวัดที่มีความร่มรื่น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
สวยงามร่มรื่นเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มีพิพิธภัณฑ์ ให้ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์
วัดธรรมารามเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าสนใจมาก เป็นวัดที่จำพรรษาของพระอุบาลีมหาเถระ ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์แห่งวัดพุทไธศวรรย์แต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาจารย์ออกไปลังกาทวีป เพื่อสถาปนาศาสนาพุทธกลับคืนสู่ลังกาทวีปมีความสงบสวยงามทั้งทางฝั่งพุทธาวาสและทางฝั่งสังฆาวาส ที่หอไตรริมน้ำซึ่งอยู่ในฝั่งสังฆาวาสนั้นมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมาก ถึงแม้จะเขียนขึ้นใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 แต่ก็ใช้รูปแบบเดิมสมัยอยุธยา
วัดเก่าสร้างสมัยอยุธยา เก่าและขลัง
เป็นวัดที่สงบ สะอาดมาก วัดธรรมารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลางเป็นที่จำพรรษาของพระอุบาลีมหาเถระกับพระอริยมุนีมหาเถระ เป็นพระสงฆ์รูปสำคัญที่ได้ถูกแต่งตั้งไปเป็นพระอุปัชฌาจารย์ไปศรีลังกาเพื่ออุปสมบทให้กับชาวศรีลังกาทำให้เกิดลัทธิสยามวงศ์ขึ้นในดินแดนลังกา ด้านหน้าพระวิหารจึงมีพระพุทธรูปที่ประธานาธิบดีศรีลังกามอบให้แก่รัฐบาลไทยและปวงชนชาวไทยในโอกาสครบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต สิ่งที่หน้าสนใจของพระวิหารก็คือหน้าบันด้านหน้าและหลังเป็นลายสลักไม้จำหลักเป็นลวดลายก้านขด ประตูไม้ที่แกะสลักลวดลายงดงามมาก
วัดเงียบสงบดีครับ
งดงาม เงียบ สงบ
เงียบ สงบ สวยงาม วัดที่สมกับเป็นวัดไม่มีความเป็นวัดพุทธพาณิชย์เหมาะสมแก่การทำบุญสังฆทานหลวงพี่เจ้าอาวาสจะชวนสนทนาธรรมเสมอ
สงบ สวย สะอาด ไม่พาณิชย์เตรียม ดอกไม้ธูปเทียน ไปเองนะคะประวัติ ยาวนาน แนะนำเพื่อนค่ะ
สอาดมีวินัย
ไปทำกฐินมาคนเยอะมากร้านก็เยอะเช่นกันสนุกมากพื้นที่กว้างติดแม่น้ำที่จอดรถเยอะห้องน้ำมีหลายจุดค่ะ
ไลฟ์สไตล์แบบง่ายๆๆ
อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา เงียบสงบ
เป็นวัดที่ร่มรื่นน่าเข้ามากราบนมัสการหลวงพ่อ และเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆวัด
สงบร่มเย็นมีต้นไม้เยอะดีค่ะ หลวงพ่อใจดี คุยสนุกค่ะ
วัดนี้สงบเงียบ, เป็นธรรมชาติคนมาน้อย, กำลังก่อสร้างโบสถ์อยู่จ้า
สงบและเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
เงียบสงบ บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เยอะไม่ร้อน เสียงนกร้องหลากหลาย ห้องน้ำสะอาด วัดสะอาด
วัดสงบ มีความเรียบง่าย สวยงามมาก
สงบ ร่มรื่น
สงบ น่าจะเป็นวัดต้นแบบได้เลย
วัดร่มรื่น วิวถ่ายรูปริมน้ำสวย หลวงพ่อสอนหลักธรรมดีมาก
สะอาด เงียบ สงบดีคับ
มูลหมาเยอะไปหน่อย...นอกนั้น..ดีครับ...ให้3ดาวก่อนครับ.
เงียบ สงบ สะอาด ร่มรื่นน่าปฏิบัติธรรม
เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ให้กำเนิดสยามลังกาวงศ์ในประเทศศรีลธงหาและท่านเจ้าอาวาสเป็นที่เคารพศรัทธาในวัตรปฏิบัติที่น่าเคารพของชาวบ้านอย่างมาก
เหมาะสมเป็นศาสนสถานมากๆ สงบ ร่มเย็น สะอาด สุข
เป็นวัดเก่าแก่ เหมาะแก่การแวะไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สงบ ร่มเย็น
ร่มเย็นมากหลวงพ่อใจดีมากแบบสบายสบายไม่บังคับโยมมาร่วมบุญกฐิน10พยนี้ค่ะทอดกฐินใครว่างเชิญที่วัดแต่ต้องแย่งที่จอดรถกันหน่อยขอบอกแน่นมาก
กฐิน มหาชน ปี2562
เป็วัดที่มีอัตลักษ์ในย่านนี้ ถึงอยุธยาจะมีวัดมากมายกว่า600วัด แต่ที่นี่แตกต่างกับวัดอื่นในอยุธยาตรงที่มีช่อฟ้า ใบระกาของพระอุโบสถที่ทำจากไม้ เอ่ยกันว่าเป็นหนึ่งในสองวัดที่มีในประเทศไทย
นอกจากมาไหว้พระที่เก่าแก่แล้ว.ยังเหมาะที่จะมาปฎิบัติธรรมอีกด้วยครับ
เรียบง่าย สะอาด สงบ
วัดใหญ่ต้นไม่เยอะ ร่มรื่น มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ จัดแสดง เข้าชมฟรี สะอาดแอร์เย็น จัดฉายวีดิทัศน์ถ้าเข้าชมตั้งแต่ 3 คน แนะนำว่าถ้าผ่านมาแวะเลยได้ความรู้และพักผ่อน
เป็นวัดที่สงบร่มเย็นเหมาะแก่การเจริญวิปัสนา
เป็นวัดที่อยู่ไม่ใกล้จากตัวเมืองอยุธยามากนั้น ก่อนถึงวัดท่าการ้องเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เป็นวัดที่สงบร่มรื่นย์ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมรอบพื้นที่ วัดมีความเก่าขลัง และบบรยากาศทำให้เกิดสมาธิอย่างบอกไม่ถูก เดินชมรอบๆตัววัดอย่างสงบ สถาปัตยกรรมมีรายละเอียดที่งดงาม สักการะพระประธานและเดินรอบๆโบสถ์ จากนั้นเดินไปยังริมน้ำเพื่อชมวิวเจดีย์พระศรีสุริโยไทย ก่อนกลับ ณ บริเวณลานจอดรถมักจะมีไอศกรีมรถเข็นมาขาย กินซักนิด ช่วยให้รู้สึกสดชื่น
ขอเชิญท่านที่เคยไปไหว้พระแบบ ไม่เคยรับรู้ประวัติศาสตร์ หรือธรรมชาติ ธรรมมะ เชิญที่วัดนี้ครับ
เป็นวัดที่สะอาดที่สุดในโลก
วัดธรรมาราม เป็นวัดที่สร้างสมัยอยุธยา สงบเงียบ ร่มรื่น ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระอุบาลีเป็นสมณทูตไปเผยแผ่ศาสนาพุทธ ลัทธิสยามวงศ์ในศรีลังกาและเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ชาวลังกา เพราะศาสนาพุทธได้เสื่อมหายไปมีพิพิธภัณฑ์พระอุบาลีมหาเถระ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระอุบาลีและมีหอไตร สร้างสมัยรัชกาลที่ 5
เป็นวัดที่ร่มรื่นขนาดเล็ก มีพระจำวัดไม่ถึง 5 รูป สถานที่สะอาดสวยงามเหมาะแก่การนั่งปฏิบัติธรรมมาก ไปเมื่อไหร่ก็ทำให้จิตใจแจ่มใสสดชื่นทุกครั้ง
20ปีก่อนที่เคยไปทำบุญกับแฟน
สะอาดเงียบสงบบรรยกาศดีหลวงพ่อใจดีนะครับ
ทำบุญที่วัดนี้มาเป็นสิบกว่าปี สงบ สะอาด สะดวก สบาย ได้สิ่งดีๆกลับมาปฎิบัติ แล้วเจริญรุ่งเรืองกับตัวเองมาตราบเท่าทุกวันนี้
เป็นวัดที่สะอาด สงบ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ ธรรมะจากพระอาจารย์ ประสาท
เป็นวัดที่สงบ ร่มรื่นมาก ส่วนตัวกุฏิติดแม่น้ำ มีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเดินทางไปเผยแผ่ศาสนาพุทธที่ศรีลังกาด้วย
วัดเก่าแก่ ความขลังค์ ของวัด เหมือนได้กลับบ้าน
วัดสงบร่มรื่นห้องน้ำสะอาดมากโบสถ์หอไตรสมัยร5
สงบดีมาก ดีเวลาปิดเปิดเป็ยทางกานเลยนะครับ
สถานที่สวยงามสะอาดเงียบสงบ
เงียบสงบ ในสมัยอยุธยาได้มีภิกษุชื่อ พระอุบาลี ได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ท่านได้พำนักที่วัดแห่งนี้
สงบสะอาดร่มเย็นสัมผัสได้ถึงความขลังและบารมีธรรมอันเก่าแก่คะ
เขตพุทธาวาสของวัด ประกอบด้วยเจดีย์ทรงระฆังเป็นประธาน มีวิหารอยู่ทิศตะวันออก และอุโบสถอยู่ทางตะวันตกล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว
วัดนี้ สงบเงียบและมีความสำคัญในการส่งพระไปสานต่อพระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ตอนเกิด ส่งพระไทยไปช่วยบวช พระสยามวงศ์
สวยสบงครับมาอยุธยาต้องเข้ามาชม
วัดธรรมาราม เป็นวัดโบราณสร้างแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่ปรากฎว่าสร้างมาแต่รัชสมัยใด ใครเป็นผู้สร้าง แต่สันนิษฐานว่าสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 414 ปี โดยที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่าทุกครั้งที่ยกทัพเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยา เพื่อใช้ควบคุมเส้นทางคมนาคมทางน้ำ เพราะเหนือวัดนี้ไปเพียงเล็กน้อยคือ บริเวณปากน้ำลพบุรีที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง และป้องกันการเคลื่อนย้ายกำลังของไทยมาจากภายนอกเสริมกำลังในเมืองหลวงได้เป็นอย่างดี เพราะด้านหลังวัดธรรมารามเป็นทุ่งกว้างมีชื่อว่า “ทุ่งประเชต” อันเป็นหนึ่งในสามของทุ่งที่มีการสัปประยุทธกันอย่างโชกโชนระหว่างไทยกับพม่า ทุ่งทั้งสามมีนามดังนี้ คือ ทุ่งพุดเลา ทุ่งชายเคือง และทุ่งประเชต มีเส้นทางไปสุพรรณบุรีและวิเศษชัยชาญ เนื่องจากวัดตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกตรงข้ามกับพระราชวังหลวง จึงเป็นหนึ่งในสี่ของท่าเรือข้ามฟากในสมัยนั้น อันได้แก่ ท่าข้ามวัดธรรมาราม ท่าข้ามวัดกษัตราธิราช ท่าข้ามวัดราชพีร์ และท่าข้ามวัดไชยวัฒนาราม
เป็นวัดที่สงบเงียบ สะอาด เป็นระเบียบ หลวงพ่อสนทนาธรรม ให้คำสอน ข้อคิดดี ๆ ในการดำเนินชีวิต รู้สึกสุขใจที่ได้ไป
ห้องน้ำสะอาดมากเป็นต้นแบบวัดสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยเลยครับ
วัดสวยสงบร่มเย็นมาก
วัดที่ยังคงความสงบ
ชอบมากเงียบ/สงบ/นิ่งแบบลึกๆต้องมาเอง
มื่พระแค่สองรูปมาหลายปืแล้ว
มาวัดนี้เป็น 10 กว่าปี วัดสะอาด สงบ เงียบ ร่มรื่น เจ้าอาวาสท่านใจดี ชอบสอนธรรมะที่เข้าใจง่าย
คือดีมาก
บรรยากาศสงบร่มรื่น
สถานที่สวยงามที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
สถานที่พรรมชาติมาก
สะอาด ไม่คอยสงบ ระเบียบเยอะ
สงบร่มเย็นเจ้าอาวาสใจดีเป็นกันเองกับคน
สงบ เงียบ และน่าสนใจ
สาธุ.....
ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมืองครับ ไม่ใช่ที่อำเภอวังน้อยครับคนละวัดกันครับ
เงียบ สงบ เย็นๆสบายๆ
วัดเล็กๆ สวย สงบ เงียบ
วัดเล็ก อบอุ่น ฟังธรรม