วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายและถูกทิ้งร้างลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2

อยุธยาอาจเคยมีปราสาทหิน คือ พระปรางค์วัดมหาธาตุมีหลักฐานอยู่ชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจเกียวกับรูปทรงขององค์พระปรางค์วัดมหาธาตุ กลางพระนครศรีอยุธยานี้ คือความใน พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาเป็นเรื่องราวในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมว่าพระปรางค์เคยพังลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑกาลต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่โดยเสริมพระมหาธาตุให้สูงขึ้นเป็น 25 วา ความว่า ศักราช ๙๙๕ ปีระกา เบญจศก ทรงพระกรุณาให้สถาปนา พระปรางค์วัดพระมหาธาตุอันทำลายลงเก่าเดิมในองค์สูง ๑๙ วายอดนภศูลสูง ๓ วาจึงดำรัสว่าทรงเก่าล่ำนัก ให้ก่อใหม่ไห้องค์สูงเส้น ๒ วายอดนภศูลคงไว้ เข้ากันเป็นเส้น ๕ วาก่อแล้วเห็นเพรียวอยู่ ให้เอาไว้มะค่ามาแทรก ตามอิฐเอาปูนบวก ๙ เดือนสำเร็จให้กระทำการฉลองเป็นอันมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าพระปรางค์ประฐานองค์เดิมเป็นทรวดทรงล่ำแบบปรางค์ขอม คล้ายกับพระมหาธาตุเมืองลพบุรี..........สำหรับหลักฐานเรื่องอายุการก่อสร้างนั้นปรากฎในพระราชพงศาวดารว่า สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาที่ 1 (ขุนหลวงพ่องั่ว) เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่มาสำเร็จในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร เมื่อปี พ.ศ.1927กาลต่อมาองค์พระปรางได้พังทลายลง ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (ห้วงปี พ.ศ. 2153 - 2171)และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อปี พ.ศ. 2176ดังที่ได้นำเสนอไปแล้วในเบื้องต้นเป็นเหตุการณ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและองค์พระปรางค์ได้พังทลายลงอีกครั้ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ 25 พ.ค. 2447

... วัดมหาธาตุ : ... วัดมหาธาตุ : สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 และพระมหาเถรธรรมากัลญาณทรงจัดสร้างในปี พ.ศ.1917 เป็นพระอารามหลวงที่มีความสำคัญในด้านวัฒนธรรมประเพณี และเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัด....ปัจจุบัน ปูชียสถาน และสิ่งปลูกสร้างภายในวัด ชำรุดหักพักจากคราเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 และทรุดโทรมตามกาลเวลา ทั้งพระปรางค์ เจดีย์ วิหาร พระพุทธรูป บางส่วนหลงเหลือเพียงโครงสร้าง ฐาน ชั้นมุข แต่ยังคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การเยี่ยมชม* บริเวณผนังวิหารเล็ก รากไม้แผ่รากยึดผนัง และล้อมเศียรพระพุทธรูป เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องการเยี่ยมชม.*ค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท *เนื่องจากบริเวณเกี่ยวเนื่องยังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ชาวไทย/ชาวต่างประเทศที่สนใจ สอบถาม บัตรเข้าชมรวมเพื่อความสะดวกและประหยัด*

วัดมหาธาตุเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ใกล้วัดราชบูรณะ ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่ไม่แล้วเสร็จ ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน และได้สร้างเพิ่มเติมจนเสร็จ ในสมัย สมเด็จพระราเมศวร โดยได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ประธาน และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 1927 ซึ่งปรากฏในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ปรางค์ของวัดองค์เดิมที่สร้างด้วยศิลาแลง ยอดพระปรางค์ได้ทลายลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ แต่จะด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ จึงยังมิได้ซ่อมแซมให้คืนดีดั้งเดิมในรัชกาลนั้น ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงบูรณะใหม่รวมเป็นความสูง 25 วา เมื่อปี พ.ศ. 2176 และในสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ เมื่อปี พ.ศ. 2275 - 2301 จนถึงช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 วัดมหาธาตุโดนทำลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพังและถูกทิ้งร้าง ต่อมายอดพระปรางค์ได้พังทลายลงมาอีกครั้งในรัชสมัยรัชกาลที่ 5

วัดตอนนี้ปิดบูรณะอยู่ จะเปิดอาทิตย์หน้านะคะ เลยแวะชิลๆร้านคาเฟ่ ในเขตวัดก่อน เพิ่งเปิดใหม่

ได้เดินเที่ยว ดูอารยธรรมสมัยก่อนได้ใกล้ชิดมากขึ้น ไม่เหมือนดูทีวี และประทับใจมากค่ะ

ความงดงาม ที่ธรรมชาติรังสรรค์ มาชื่นชมกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ 🙏🏻

รูปไปเที่ยวนานแล้ว พึ่งมีโอกาสได้ลงรูป วัดมหาธาตุ เป็นวัดเก่าเศียรพระที่มีต้นโพขึ้นคลุม มีแต่บริเวณพระพักตร์ของพระพุทธรูปโผล่ออกมาให้เห็น นับเป็นไฮไลท์ของวัดมหาธาตุ โดยสันนิษฐานกันว่าเศียรพระน่าจะหักเมื่อครั้งเสียกรุง ในเวลาต่อมามีต้นโพขึ้นบริเวณนั้น รากโพจึงโอบล้อมเศียรเอาไว้ เศียรพระเป็นศิลปะอยุธยาตอนกลาง สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 21 แต่ลำตัวของพระกลับสูญหายไป เศียรพระดังกล่าวอยู่ข้างวิหารเล็กซึ่งมีรากโพปกคลุม กรมศิลปากรไม่สามารถโค่นโพออกได้เพราะรากโพมีส่วนในการช่วยพยุงวิหารเอาไว้A long time travel photo I just had the opportunity to have a picture of Wat Mahathat, an old temple.The head of a monk covered with a tree Only the face of the Buddha image emerged to be seen. It is the highlight of Wat Mahathat. It was assumed that the head of the monk was likely to be broken when the city was lost In the next moment, there was a tree in that area. So the roots surrounded the head. The head of the Buddha is a central Ayutthaya art. It was assumed that it was built in the 21st century, but the body of the monk was lost. The head of the said monk was beside a small vihara, which was covered by the root The Fine Arts Department was unable to overthrow the temple because the roots were involved in supporting the temple

เป็นวัดที่งดงาม ใหญ่โต อลังการมากๆAmazing Thailand ^^

วัดมหาธาตุในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534 มีการเก็บค่าเข้าชมสำหรับคนไทย คนละ 10 บาท คนต่างชาติ คนละ 50 บาทจากที่คะเนด้วยสายตาโดยไม่ต้องอ่านประวัติ วัดนี้ในอดีตต้องเป็นวัดที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะ มีโบสถ์ เจดีย์ พระปรางค์ อยู่มากมายตลอดพื้นที่ที่กว้างใหญ่ แต่ในเหตุการณ์เสียกรงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ได้รับความเสียหายจากการถูกไฟไหม้อย่างมาก พระปรางค์ พระวิหาร และพระอุโบสถต่างๆ ถูกทำลายจนเหลือเพียงซากโครงสร้างและส่วนฐาน ทำให้ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาทำการสำรวจและอนุรักษ์ไว้จุดที่น่าสนใจ ก็มี เศียรพระพุทธรูปโบราณในรากของต้นโพธิ์ ซึ่งเป็น Unseen ของที่นี่ , พระปรางค์ทรงแปดเหลี่ยมที่มีที่นี่ที่เดียวในสมัยอยุธยา, พระพุทธรูปหน้าพระปรางค์หลักที่โค่นทลายลงมาในสมัย ร.5เป็นโบราณสถานที่ทรงคุณค่า ให้เราตระหนักถึงความรักสามัคคีในชาติ ไม่ให้ต้องถูกทำลายย่อยยับเหมือนในอดีต แนะนำให้มาอย่างยิ่งครับ

มางานโขนกรุงศรี เลยได้มีโอกาสเชยชมบรรยากาศรอบวัดตอนกลางคืน(เข้าข้างในไม่ได้ละครับ) ท่ามกลางกลิ่นไอประวัติศาสตร์เมืองกรุงศรีฯ ได้อีกฟิลนึงของการเดินเล่นรอบวัดตอนกลางคืน ไฟแสงสว่างจัดได้ดีครับ ใครมีกล้องโปร เอามาจัดภาพงามๆได้เลย ส่วนคนที่ใช้กล้องมือถือธรรมดา แสงไฟของวัดจัดมาเพื่อให้ถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีเช่นกันครับ #โขนกรุงศรี

บรรยากาศ​ร่มรื่นเงียบสงบ​ สวย​ เหมือนย้อนไปในยุคเก่า​ มีอันซีนเศียรพระอยู่ในต้นไทร​

ช่วงนี้ยังปิดให้เข้าชมช่วงโควิด 😔 21 กย.2564

ไปหลังฝนตก ท้องฟ้าเลยมืดนิดๆบรรยากาศเย็นสบาย คนเข้าชมก็เข้ามาเรื่อยๆ จ่ายค่าบัตรเข้า ๑๐ บาทบำรุงโบราณสถาน

วัดที่สำคัญมากในกรุงศรีอยุธยา วันมหาธาตุยังคงเป็นฉากหลังของการเเสดงแสงสีเสียง ในงานสำคัญๆในหลายโอกาส เช่น งานสงกรานต์ งานลอยกระทง งานแสดงโขนกรุงศรี และอื่นๆอีกหลายงาน ไปช่วงค่ำไฟสวยมากๆ แต่ถ้าใครจะเข้าชมข้างในต้องมาก่อน17.00น

💦🍃 วัดมหาธาตุในวันที่คนค่อนข้างน้อย ได้เดินชมบริเวณรอบ ๆ เพื่อระลึกถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองอโยธยา เหล่าซากปรักหักพังของโบราณสถานแห่งนี้ยังคงบ่งบอกถึง อารยธรรมอันงดงามที่เคยมีในอดีตได้อย่างดียิ่ง

วัดมหาธาตุ​วัดเก่าแก่​โบราณ​น่าสนใจรูปแบบ​สถาปัตยกรรม​โบราณสถานบริเวณ​กว้าง​ขวางไฮไลต์​จุดเข้าชมหนึ่ง​ใน​นั้น​มีเศียร​พระพุทธ​รูปที่รากไม้หุ้มพันเอาไว้เป็น​ที่ไม่ควรพลาด​ชมแนะนำไปช่วงเช้าช่วงเย็น​จะได้ไม่ร้อนมาก

สิ่งที่อยากไปดูที่สุดคือ​ เศียร​พระในต้นโพธิ์​ มีความสวยงามมากค่ะ

เสียดายที่ไปเยนเกินไปเลยหมดเวลาเข้า มีโอกาสจะเข้าไปถ่ายข้างในใหม่

สวยมากค่ะ​ คงความ​โบราณ​สถานไว้​ วันที่ไปไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว​

ค่าเข้า 10 สำหรับคนไทย ต่างชาติ 50 สวยงามคุ้มค่าในการเข้าชม Highlight มีเศียระพระอยู่ในต้นไม้

The staff at Wat Mahatat spoke impolitely, and shout an order to tourist. He probably thought of himself as an officer for a long time, and He could speak whatever he wanted. Its a pity for a world heritage city, but the staff are low attitude and uneducated without service mind.เจ้าหน้าที่พูดจาไม่สุภาพ แหกปากโวยวาย วางอำนาจบาดใหญ่ ใส่นักท่องเที่ยว คงคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ อยู่มานาน จะพูดจายังไงก็ได้ เสียดายเมืองท่องเที่ยว เมืองมรดกโลก แต่กลับเอาเจ้าหน้าที่ทัศนคติแย่ ไร้การศึกษามาดูแล

เป็นวัดที่สวย​ มีเศียรพระในรากไม้ด้วย​ และมีร้านกาแฟหน้าวัดด้วย​ได้แวะดื่มกาแฟและขนม​ด้วยค่ะ​ ไปเที่ยวได้ค่ะ​

ไปตอนเย็นสวย นึกถึงบรรยากาศแบบย้อนยุคเลย ตอนเย็นมีตลาดนัดด้านหน้าด้วย

ดินแดนประวัติศาสตร์ไทยยยตลาดนำ้ท่าเสด็จเดินไปชิวๆๆๆ

จุดเด่นของวัดนี้ ก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นั่นคือ เศียรพระ หน้าวิหารเล็ก ลักษณะเด่นคือ มีต้นไม้ล้อมรอบกับเศียรพระพุทธรูป ที่ดูแปลกตามากๆ โดยเศียรพระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียรสำหรับองค์พระนั้นหายไป และเป็นเศียรพระพุทธรูปเป็น ศิลปะอยุธยา วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตากลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและ เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป สิ่งที่น่าสนใจในวัดมหาธาตุ1 พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบรูปเหล่านี้อาจ หมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล2 เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก ซึ่งเจดีย์องค์นี้ จัดว่าเป็นเจดีย์ที่แปลกตา พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา3 วิหารที่ฐานชุกชี ของพระประธานในวิหารกรมศิลปากรพบว่ามีผู้ลักลอบขุดลงไปลึกถึง 2 เมตร จึงดำเนินการขุดต่อไปอีก 2 เมตร พบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ บรรจุแผ่นทองเบาๆรูปต่างๆ4 วิหารเล็ก วิหารเล็กแห่งนี้ มีรากไม้แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนัง รากไม้ส่วนหนึ่งได้ล้อมเศียรพระพุทธรูปไว้ธรรมดากรมศิลปากรจะต้องตัดต้นไม้ออกแต่ที่นี่ดูจะว่าเป็นที่ยกเว้น5 พระปรางค์ขนาด กลางภายในพระปรางค์ มีภาพจิตรกรรม เรือนแก้วซึ่งเป็นตอนหนึ่งในพุทธประวัติ5 ตำหนักพระสังฆราช บริเวณพื้นที่ว่างทางด้านทิศตะวันตก เป็นสถานที่ที่เป็นที่ตั้งพระตำหนักพระสังฆราช ราชทูตลังกาได้บอกไว้ว่า เป็นตำหนักที่สลักลวดลายปิดทอง มีม่านปักทอง พื้นปูพรมมีขวดปักดอกไม้เรียงราย เป็นแถวเพดานแขวนอัจกลับ (โคม) มีบังลังก์ 2 แห่ง

เป็นวัดเก่าแก่มากกา่า538ปีจนถึงปัจจุบันหากไม่ถูกทำลายก็คงงดงามเห็นถึงวิธีการก่อสร้างในสมัยโบราณว่ามีความสามารถมากแค่ไหน ถึงวันนี้ควรอนุรักษ์ไว้ให้ศึกษาหาความรู้ อีกหนึ่งไฮไลท์คือเศียรพระพุทธรูปที่ติดอยู่บริเวณรากต้นโพธิ์ ดีใจที่เห็นนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยี่ยมชมและประทับใจกับความเป็นมาของอาณาจักรไทยสมัยอยุธยาหรือก่อนหน้านั้น

มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เดินชมเพลินๆ

ขอให้ตัวข้าประสพความสำเร็จในหน้าที่และการงาน ตลอดไปเทอญ มุมนี้เข้าถึงความรู้สึกของศาษดาได้อย่างดีเยี่ยม สาธุ สาธุ สาธุ

ค่าเข้าชม 10 บาท ไปยามเย็นบรรยากาศดี ไปถึงซัก 4 โมง สถานที่ปิด 16:30 (ตามป้ายบอก)

บรรยากาศดีคะแต่ร้อน แนะนำไปช่วงเช้าจะดี

ก่อนมาหากแวะ พิพิธภัณฑ์ เจ้าสามพระยา ได้รับคำแนะนำ อธิบายจากน้องๆ นศ.การท่องเที่ยวที่มาฝึกงาน แล้วไปดูสถานที่จริงจะสนุกมากเหมือนผมครับ

ที่สุดของกรุงเก่า

ร่มรื่น..เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง..โบสถ์เป็นลักษณะโค้งเหมือนเรือ..เพื่อไปสู่นิพพาน..เป็นวัดหลวง..ห้ามพลาด..

วัดมหาธาตุ วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา เหมาะสำหรับผู้ต้องการเยี่ยมชมโบราณสถาน ศึกษาประวัติศาสตร์

วันปีใหม่ ด้วยสถานะการณ์โควิด-19 ผู้คนบางตา

ค่าเข้าคนไทย 10 บาทค่าเข้าต่างชาติ 50 บาทถูกมากเลย วันนี้มาไม่มีคนเลย อากาศดีด้วยด้านในร่มรื่น เดินเล่นได้สบายๆด้านในจะมีป้ายอธิบายส่วนแต่งๆ แต่ว่าป้ายอยู่ลึกเข้าไปตรงสนามหญ้า แล้วทีที่กั้นไม่ให้เข้าคนสายตาไม่ดีอ่านไม่เห็นแน่นอน อยากให้เอาป้ายคำอธิบายมาวางไว้ใกล้ๆทางเดินเพื่อให้คนได้อ่านส่วนอื่นนอกจากนี้คือคนมีเที่่ยวที่นี่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ เศษขยะเยอะมาก อยากให้มีการปรับที่จริงจัง เข้มงวด เพื่อให้คนมักง่ายที่ทิ้งไม่เป็นที่

เป็นโบราณสถานที่มีวัด หลายๆวัดมาอยู่ในคุ้มเดียวกัน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอันดับต้นๆของจังหวัดอยุธยา ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนโดยเฉพาะช่วงปี 2020 นี้จะมีเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากๆ

เป็นสถานที่ๆทุกคนควรแวะมาครับ

วัดมหาธาตุเป็นวัดเก่าแก่วัดนึงในอยุธยา เป็นวัดที่สวยงามที่คนนิยมไปถ่ายรูป และเช็คอิน การเดินทางสะดวกติดกับถนน และใกล้กรุงเทพฯ ค่าเข้า 10฿

โบราณ​สถาน​ สถาปัตยกรรม​ และอีกหลากหลาย​ ให้ค้นคว้าศึกษา​ และเป็นแหล่งหย่อนใจที่ดี

ตอนกลางคืนไลท์อัพ สวยๆ

เป็นโบราณสถานสมัยกรุงศรีอโยธยา

เป็นสถานที่​ที่คนไทยควรไปครั้งหนึ่งในชีวิตความเจริญรุ่งเรือง​ในอดีต

มหัศจรรย์เมืองเก่า พระนครศรีอยุธยา ต้องมาให้ได้ ที่นี่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์รักษาไว้อย่างดี ควรต้องมานะ

ไปงานลอยกระทง สีสันแห่งสายน้ำกลางคืนสวยมากค่ะ แสงไฟหลากสีที่ส่องขึ้นไปบนเจดีย์ แต่กลางวันยังไม่มีโอกาสได้ไป

เป็นวัดเก่าที่งดงาม เหมาะสำหรับถ่ายรูปและศึกษาประวัติศาสตร์

ประวิตของที่นี้สวยงามมากมาเที่ยวกันนะครับ

สวย​สง่า​ มีค่าเข้า10บาท​ ปิด18.00​ กลางคืนมืด​ ไม่มีไฟประดับ

คนที่ชอบโบราณสถานต้องมา

งดงาม สงบ ควรค่าแก่การรักษาไว้

ชื่นชอบเพราะเคยเป็นเด็กนักเรียนประถมโรงเรียนเทศบาล ๔ ซึ่งซุกซนตามวัยมุดลอดปิดแอบตามโบราณสถานพระปรางค์ กุฎชี

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของคนไทย ที่ลูกหลานไทยควรได้เรียนรู้ และภาคภูมิใจ

แหล่งเรียนรู้และประวัติศาสตร์ชาติไทยสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน

วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายและถูกทิ้งร้างลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2วัดมหาธาตุสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.1917 เสร็จ พ.ศ.1927

เมืองเก่าไม่มีคนเดินมากนักสายๆร้อนมาก

แลนด์มาร์คกรุงศรีฯ อันซีนไทยแลนด์ เศียรพระพุทธรูป ไม่ถ่ายไม่ได้

ช่วง มีค.64 เขาเปิดไฟตามโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวมาชมกันนะ

อากาศดีมากครับ ดีตรงวันนี้ชมฟรีไม่มีค่าเข้าชมโบราณสถาน

ปิดบริการ 16:30 นะครับ มาไม่ทันก็เดินรอบๆเอา สวยดีครับ

สงบเงียบลมพัดเย็นสบาย

สิ่งปลูกสร้างในอดีต เสียดายรอบวัดในเมืองอยุธยา ไม่สะอาด รถเยอะ ไม่มีความฟินเลย

วัดมหาธาตุสวยงามมากนะคะ

มาอยุธยา แล้วไม่มาวัดนี้ถือว่าผิดครับ

มีศิลปะทางวัฒนธรรม คงอยู่ เหมาะแก่การศึกษา มีใบหน้าพระในต้นไม้ แต่ที่จอดรถน้อย เสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท

ร่มรื่น มีสามล้อบริการ มีพื้นที่กว้างขวางและป้ายอธิบายหลายๆ อย่าง

โบราณสถานสวยงาม แต่แดดค่อนข้างแรง ค่าเข้าไม่แพงคนไทยคนละ 10 บาท ต่างชาติ 50 บาท ที่สวยงามที่สุดคงจะเป็นเศียรพระที่อยู่ในต้นไทร แปลกและสวยงามมาก

อากาศดีมากเหมาะสำหรับการถ่ายภาพมาก

วัดไทยอยุธยา ยังคงสภาพดีพอสมควร สถานที่กว้างขวาง มีมนต์ขลัง

วัดนี้ไม่มีพระอุโบสถ แต่สามารถมาถ่ายรูปกับโบราณสถานได้ค่ะ

มนต์ขลังเมืองเก่ามรดกโลก จินตนาการทุกอารมฌ์

อายุ60ปีเข้าชมฟรีครับ. ท่านที่จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปชม

พื้นที่กว้างใหญ่ ที่จอดรถน้อย มีรัานเครื่องดื่มอร่อย

ไปตอนแดดแรง ไม่ค่อยมีป้ายความรู้ เลยเดินแล้วงงๆเหมือนกันไปหมด

มีโบราณสถานขนาดใหญ่น่าตื่นตา และไฮไล้ค์สำคัญของที่นี่คือเศียรพระในต้นไม้ ชอบมาก

เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดนึง มีจุดสนใจที่เศียรพระถูกปกคลุมด้วยรากต้นโพธิ์ สิ่งก่อนสร้างส่วนมากเป็นอิฐ แต่สถานที่จอดรถจะน้อยมาก ต้องไปหาที่จอดตามริมถนนข้างทาง

อีกมุมหนึ่งของวัดที่ไม่มีใครสนใจ…บรรยากาศดีมาก

ดูมีมนต์ขลัง​ สมกับเป็นโบราณสถานอันทรงคุณค่า

มาวันธรรมดาคนน้อยมากครับ

เที่ยววัดมหาธาตุช่วงหน้าฝนอากาศเย็นสบายๆ บรรยากาศดี ร่มรื่นมากค่ะ

สวยงาม.. ควรอนุรักษ์ไว้อย่างยิ่ง

สวยงามครับ มาวันแดดออกพอดี

สถานที่ให้ความรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูก และทึ่งในความสามารถของคนในสมัยก่อน

สวยงามมีคุณค่า ในการอนุรักษ์

งดงามตามเรื่องราว...เรื่องเล่าเมืองเก่าชาวอยุธยา

สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สวยงามมาก

ช่วงนี้ยังไม่เปิดให้เข้า เดินรอบๆเอา

ไม่มีไรบรรยายต้องมาเอง ทุกอย่างโอเค

...วัดมหาธาตุ (พระนครศรีอยุธยา) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกที่ต่างชาติรู้จักกันมาก เศียรพระพุทธรูปในต้นโพธิ์ สิ่งมหัศจรรย์ Unseen Thailand ที่ต่างชาตินิยมมาเที่ยวชม บริเวณวัดมหาธาตุ เป็นซากโบราณสถานสำคัญที่ปรักหักพัง ให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาติไทย

สวยงามตามประวัติที่ยาวนาน

มีงานลอยกระทง ตรงบึงพระรามหลังวัดทุกปีครับ

เป็นสถานที่ยิ่งใหญ่อลังการ มาอยุธยาควรมาชมครับ มีโมเดลให้ดูว่าแต่เดิมเป็นอย่างไร แต่ผมคิดว่า ถ้าเราเดิมชมโบราณสถานซะก่อน แล้วค่อยมาดูโมเดล จะเห็นภาพความยิ่งใหญ่ในอดีตได้อย่างดีครับ

วัดเก่าแก่มาก ต้องไปดูสักครั้งครับ

อากาศดี ลมเย็น เหมาะกับการพักผ่อน

วัดสวย ร่มรื่น มีรถตุ๊กๆผ่าน 5 บาทเอง

วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ มีสิ่งที่โดดเด่น คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีใน รากไม้ โดยเศียรพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป และเป็นเศียรพระพุทธรูปเป็น ศิลปะอยุธยา วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความ งดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและ เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติพงศาวดารบางฉบับ กล่าวว่าวัดนี้สร้างในสมัยสมเด็ จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯให้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธาน ของวัดเมื่อพ.ศ.1927 พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะ แรก ของสมัยอยุธยาซึ่งได้รับอิทธิพลของปรางค์ขอมปนอยู่ ชั้นล่างก่อสร้างด้วย ศิลาแลงแต่ที่เสริมใหม่ ตอนบนเป็นอิฐถือปูน สมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้ทรงปฏิสังขรณ์พระปรางค์ใหม่ โดยเสริมให้สูงกว่าเดิมแต่ขณะนี้ ยอดพังลงมาเหลือเพียงชั้นมุขเท่านั้น จึงเป็นที่น่าเสียดายเพราะมีหลักฐานว่าเป็นปรางค์ที่มีขนาดใหญ่ มากและก่อสร้าง อย่างวิจิตรสวยงามมากเมื่อพ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้ขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ พบของ โบราณหลายชิ้นที่สำคัญ คือ ผอบศิลาภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงินนาก ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมนและทองคำ ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุ นำไปประดิษฐานไว้ที่ี่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาวัดมหาธาตุ หมายถึงวัดอันเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างขึ้นในสมัยขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่เข้าใจว่าการก่อสร้างเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระราเมศวรจารีตของการสร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่ เอาไว้ในเมือง ซึ่งถือสมมุติว่า พระเจดีย์นั้นเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุ และวัดนั้นถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ ทั้งมักจะมีชื่อว่า วัดมหาธาตุ หรือวัดพระศรีมหาธาตุ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรากฏโดยทั่วไปในทุกภูมิภาค จารีตดังกล่าวนี้จะ เริ่มในสมัยใดนั้นไม่ทราบได้ แต่หากจะพิจารณา เฉพาะ อาณาจักรอยุธยาจะเห็นได้ว่าธรรมเนียม ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สมัย่แรกๆ ทีเดียววัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่สุด วัดหนึ่งของ อาณาจักร ในฐานะที่เป็นตัวแทน ของพระพุทธเจ้า อีกทั้งหากจะพิจารณาดูสถานที่ตั้งก็จะเห็นว่าอยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวัง เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น วัดนี้จึงเป็นที่ประทับของสมเด็จ พระสังฆราช (ฝ่ายคามวาสี)มาตลอดจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา(ส่วนพระสังฆราชฝ่าย อรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดใหญ่ชัยมงคล หรือ สำนักวัดป่าแก้ว)สิ่งที่น่าสนใจในวัดมหาธาตุ อยุธยา1. พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่ได้เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุใน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบรูปเหล่านี้อาจ หมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกน กลางของจักรวาล2.เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก ซึ่งเจดีย์องค์นี้ จัดว่าเป็นเจดีย์ที่แปลกตา พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา3.วิหารที่ฐานชุกชี ของพระประธานในวิหารกรมศิลปากรพบว่ามีผู้ลักลอบขุดลงไปลึกถึง 2 เมตร จึงดำเนินการขุดต่อไปอีก 2 เมตร พบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ บรรจุแผ่นทองเบาๆรูปต่างๆ4.วิหารเล็ก วิหารเล็กแห่งนี้ มีรากไม้แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนัง รากไม้ส่วนหนึ่งได้ล้อมเศียรพระพุทธรูปไว้ธรรมดากรมศิลปากรจะต้อง ตัดต้นไม้ออกแต่ที่นี่ดูจะว่าเป็นที่ยกเว้น5.พระปรางค์ขนาด กลางภายในพระปรางค์ มีภาพจิตรกรรม เรือนแก้วซึ่งเป็นตอนหนึ่งในพุทธประวัติ6.ตำหนักพระสังฆราช บริเวณพื้นที่ว่างทางด้านทิศตะวันตก เป็นสถานที่ที่เป็นที่ตั้งพระตำหนักพระสังฆราช ราชทูตลังกาได้บอกไว้ว่า เป็นตำหนักที่สลักลวดลายปิดทอง มีม่านปักทอง พื้นปูพรมมีขวดปักดอกไม้เรียงราย เป็นแถวเพดานแขวนอัจกลับ (โคม) มีบังลังก์ 2 แห่ง

วัดมหาธาตุเป็นพระอารามหลวง ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ภาพเศียรพระทีถูกรากของต้นไม้โอบล้อมไว้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกภายในมีทารกปรักหักพังของโบราณสถาน โบราณวัตถุเป็นจํานวนมากที่ทําให้เห็นร่องรอยของความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาในอดีตบริเวณที่จอดรถด้นหน้ามีร้านกาแฟน่านั่ง ตกแต่งดีเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน

ซากปรักหักพังที่ยังคงเหลือไว้ให้เราได้ไปรำลึกถึงอดีตที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอยุธยา

เมืองไทยแลนด์ มีที่ดีที่สุดมากมาย

ไปดูสถานที่จริงนะ รูสึกฮึกเหิมยังไงบอกไม่ถูก