เจดีย์สีทอง สวยเด่นเป็นสง่าติดแม่น้ำเจ้าพระยา ❤️
บูรพกษัตรีย์ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย คือสมเด็จย่าของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ท่านได้สายเลือดความห้าวหาญมาไม่น้อยจากเชื้อสายกษัตริย์ไทยที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญไม่น้อย สู้เพื่อแผ่นดินไทยไปกราบท่านให้รำลึกถึงพระคุณที่เสียสละชีวิตเลือดเนื้อความสุขแลกเพื่อรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างพวกเรามีความสุขสบาย อย่าลืมท่านไทยเรามีประวัติศาสตร์มายาวนาน เคยเรียนกันมั๊ยคะ
เจดีย์สวย งามสง่า ริมน้ำ ตรงข้ามร้านอาหาร บ้านอยุธยารมณ์
ความขลังมนต์ขลังยังมีอยู่และสถานทีสวยคะร่มรื่นมากๆ
เป็นสถานที่ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์มีพิธิภัณท์เรื่องราวในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ครั้งแรกที่ไปแนะนำถ้ามีจักรยานเอาไปด้วยจะดีมาก เดิน วิ่ง ปั่นเหมาะมากๆ ก่อนสัก7โมงเช้าไม่งั้นร้อน อนุสาวรีย์ท่านงดงามอลังการต้องมาสักการะนะคะ
ข้อมูลจากกรมศิลปากรระบุว่า พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “วัดสวนหลวงสบสวรรค์ ติดกับถนนอู่ทอง ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตกของเกาะเมืองพระราชพงศาวดารกล่าวว่า “เมื่อสมเด็จพระสุริโยทัยสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้า จึงได้เชิญพระศพสมเด็จพระสุริโยทัย ผู้เป็นพระอัครมเหสีมาไว้ ตำบลสวนหลวง…ครั้นกองทัพสมเด็จพระเจ้าหงสาวดียกไปแล้ว สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้า ได้แต่งการพระราชทานเพลิงศพพระสุริโยทัยเสร็จแล้ว สมเด็จพระมหาธรรมราชา ก็ถวายบังคมลากลับขึ้นไปยังเมืองพิษณุโลก ฝ่ายสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าให้สถาปนาที่พระราชทานเพลิงนั้น เป็นพระเจดีย์ วิหารเสร็จแล้ว ให้นามวัดสบสวรรค์สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ขณะนั้นเป็นตอนปลายแห่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องราววีรกรรมของสมเด็จพระสุริโยทัยที่ปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยานั้นคงทราบกันอยู่ในวงแคบ แต่สถานที่คือ “วัดสบสวรรค์” อันเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ของพระองค์นั้น ย่อมไม่มีผู้ใดรู้หรือเฉลียวใจว่าจะอยู่ที่ใดแน่ ดังนั้นเมื่อมีการตั้งกรมทหารมณฑลกรุงเก่าเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๙ จึงได้เลือกสถานที่ภายในกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ทำการก่อสร้าง จนกระทั่งสองปีให้หลังเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๑ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาประกอบพิธีสังเวยอดีตมหาราช ณ พะนครศรีอยุธยา ดังนั้น พระยาโบราณราชธานินทร์ ผู้ซึ่งรับราชการอยู่ที่พระนครศรีอยุธยาเป็นเวลานานจึงได้ศึกษาจาก เอกสารโบราณเกี่ยวกับภูมิสถานที่ภายในพระนครศรีอยุธยา และได้เรียบเรียงเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง สำคัญๆ ของกรุงศรีอยุธยาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในหนังสือชื่อ “อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยา” หนังสือ อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยาของพระยาโบราณราชธานินทร์ฉบับนี้ระบุว่า กรมทหารที่สร้างใหม่นั้นตั้ง ตรงบริเวณที่เคยเป็นสวนหลวง วังหลัง และวัดสบสวรรค์ นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ภายหลังต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว “เหล่าเสนาว่าทูลละอองธุลีพระบาทราชบริพาร…” จึงพร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์เทิดพระเกียรติสมเด็จพระสุริโยทัย และจารึกข้อความสดุดีวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ไว้ด้วยครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๗๒ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หนังสืออธิบายแผน ที่พระนครศรีอยุธยาของพระยาโบราณราชธานินทร์ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง เนื่องในงานพระเมรุท้องสนามหลวง พระวิมาดาเธอกรมพระสุทธาสินีนาถฯ ในหน้าที่ภาพถ่ายพระเจดีย์ระหว่างหน้า ๗๐-๗๑ มีคำ บรรยายใต้ภาพว่า “พระเจดีย์วัดสวนหลวงสบสวรรค์ ในรัชกาลที่ ๖ โปรดฯ ให้เรียกว่า “พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย”๒ การที่พระยาโบราณราชธานินทร์ ได้อ้างไว้ในหนังสือที่พิมพ์เป็นครั้งที่สองของท่านซึ่งเป็นเวลาที่ ท่านยังมีชีวิตอยู่ว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจาอยู่หัว โปรดให้เรียกเจดีย์องค์นี้ว่า “เจดีย์ศรีสุริโยทัย” จึงมีความหมายถึงการสถาปนาอนุสรณ์สถานของสมเด็จพระสุริโยทัยขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งจากองค์เจดีย์ที่ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวของอนุสรณ์สถานสมเด็จพระสุริโยทัย ซึ่งหลักฐานในพระราช พงศาวดารกล่าวว่า แต่เดิมอยู่ ณ วัดสวนหลวงสบสวรรค์นั้น มิได้มีหลักฐานยืนยันว่าจะต้องเป็นเจดีย์บรรจุ อัฐิสมเด็จพระสุริโยทัยด้วยหรือไม่ พระเจดีย์ศรีสุริโยทัยและภูมิสถาปัตย์โดยรอบมีเนื้อที่ทั้งหมด ๑๓ ไร่ ๓๘ ตารางวา ประกอบด้วยรั้วแบบย่อมุมสมัยอยุธยา สร้างเป็นกำแพงแก้วทึบเจาะช่องโปร่งใส่ มีโคมไฟประดับทุกๆ ๕ เมตร รั้วสูง ๑.๒๐ เมตร รั้วด้านหน้ายาว ๑๔๐ เมตร ด้านหลังยาว ๘๐ เมตร มีประตูทางเข้า ๒ ประตู อยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากประตูทางเข้าตรงมาสองข้างทางจะเป็นสวนหย่อมปลูกไม้ประดับ ถัดออกไปทางด้านซ้ายมือมีทางเดินปูด้วยอิฐบล็อกเรียงแบบก้างปลา ทั้ง ๒ ข้างของทางเดินจัดทำ เป็นสวนหย่อมตรงไปตามทางเดินนี้จะพบพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสององค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้พระราชทานนามพระเจดีย์องค์นี้ว่า “พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย”
พลังแรงมราก
อนุสรณ์สถานประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สวยงามคู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สงบมากค่ะ
ตัวอย่างของเจดีย์ย่อมุมไม้ 12