สถานที่เล็กๆ เงียบสงบสะอาดตา ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ มีวัตถุโบราณหายากให้ได้ชม
ไม่ใหญ่ มีให้ดูไม่มากนัก แต่เข้าฟรี จนท น่ารัก เอารถเข้าไปได้ แต่ที่จอดไม่มาก จอดที่ลานจอดวัดพนัญเชิงด้านนอกก้ได้แล้วเดินเข้าไป ป้ายจะอยู่แอบนิดๆ เป็นทางหินกรวดเข้าไป
ทำได้ดี มีจนท. คอยดูแล แม้จะเป็นแค่มินิมิวเซียม ทำได้น่าดู และ แสดงให้เห็นบริบทในสังคมระหว่างสยาม-ฮอลันดา ที่ไม่ใช่แค่การเดินไปดูซากอิฐซากหิน
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพิพิธภัณฑ์ แบบนี้ในบ้านเราจัดได้น่าสนใจมาก เกี่ยวกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองที่อยู่ใต้ระดับน้ำพิพิธภัณฑ์นี้ได้รับเงินสนับสนุนของประเทศ เนเธอร์แลนด์ไม่ใช่ของรัฐบาลไทยทางเข้าเล็กมากกกก (สถานที่ดี ๆ แต่คนมีอำนาจไม่ค่อยสนใจ อยากพัฒนา)แต่ด้านใน มีเรื่องราวมากมายจัดไว้อย่างน่าสนใจอยากให้มาดูกันนะคะไม่เสียค่าเข้าค่าาา
ที่นี่จำลองขึ้นมาเป็นบ้านสองชั้น แต่ละมุมเป็นที่เรียนรู้แบบบกระทัดรัด เป็นสถานที่เรียนรู้ ที่น่ารักมาก ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ไม่มาก แต่ข้อมูล ของจำลองและแต่ละอย่างที่อยู่ที่นี่กลับดึงดูดให้อยากค่อยๆสัมผัสบรรยากาศประวัติศาสตร์นานๆ ป้ายต่างๆทำดีนะ ส่วนตัวชอบ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ด้านล่าง มีcoffee shop เล็กๆ ที่สำคัญที่นี่ไม่เสียค่าเข้าด้วย
Baan Hollanda // The bright and beautifully curated Dutch House features an excellent exhibition of Thai-Dutch history alongside the excavated foundations of centuries-old Dutch buildings. The Dutch East India Company (VOC) arrived in Ayuthaya in 1604 and set up a trading post here, hoping to use Thailand (then Siam) as a gateway to China. Adjoining the museum is a charming clog-adorned cafe offering stroopwafels and other Dutch-themed snacks alongside Western and Thai-style coffees and tea.Baan Hollanda😍 ชาว “วีลันดา” มาทำการค้ากับอยุธยา ได้ยังไงน้าา.. 🙄 เค้าค้าอะไรกัน..🤔 มาหาคำตอบกันได้ที่นี่ค่าาา..😍😍😍ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของบริษัทชาวฮอลันดา.. ที่มาทำการค้ากับอยุธยา.. ในสมัยโบราณ.. ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ ให้เราได้เข้าชม ประวัติความเป็นมาค่าา..💖
เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชั้นล่างเป็นร้านกาแฟมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูป ชั้นบนเป็นส่วนจัดแสดง
บ้านฮอลันดา หรือ หมู่บ้านของชาววิลันดา (ชาวฮอลันดา) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2177 หรือ ปี ค.ศ. 1634 โดยตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาติดกับอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ ตำบลสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปัจจุบันได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านฮอลันดาขึ้นในบริเวณที่เป็นบ้านฮอลันดาเดิม เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและประเทศเนเธอร์แลนด์
เงียบ สงบ บรรยากาศดี มีสาระความรู้ ดูสบายๆ
สวยงามมากค่ะ บรรยากาศดี ติดแม่น้ำ กาแฟก็อร่อย มีมุมถ่ายรูปเยอะเลย เหมาะสำหรับพาครอบครัวไปเที่ยว กินกาแฟ ชมวิว กับบรรยากาศชิล ๆ ค่ะ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่แนะนำให้มาเที่ยวชมค่ะ
สถานที่สวยงาม ส่วนจัดการแสดงทำได้ดีมาก เหมาะแก่การมาเยี่ยมชม หาความรู้
ขับรถหลงค่ะ เห็นป้ายพอเลี้ยวจากถนนเข้ามาต้องสังเกตถนนเล็กๆ ทางซ้ายมือ ขับรถไปเรื่อยๆ ผ่านอู่ต่อเรือทางแคบๆ จนถึงหมู่บ้านค่ะ เป็นบริเวณที่ีเคยเป็นสถานีการค้าของชาวฮอลแลนด์ค่ะ อาจจะไม่ได้มีอะไรให้ดูมากนัก เห็นซากของอาคาร และอาคารที่ตั้งสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ เข้าไปศึกษา สอบถามประวัติได้ค่ะ
เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ขนาดเล็ก
สวย-อยู่ติดแม่น้ำครับ
สถานที่สะอาดสวยงาม ตกแต่งสไตล์ฮอลแลนต์ มีนิทรรศกาลอยู่ชั้นบน ด้านล่างเป็นคาเฟ่เล็กๆ
พิพิธภัณฑ์เล็กๆที่ทางเข้าลึกลับสักหน่อย แต่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของชาวดัตซ์ วิธีคิด วิธีทำการค้า บทบาทความสัมพันธ์ที่มีต่อสยาม ได้อย่างครบถ้วนและเข้าใจง่าย เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำหรับผู้สนใจประวัติศาตร์ ที่น่าแวะชม
ดีค่ะ ทำให้ทราบประวัติศาสตร์ในสมัยก่อน
ตอนนี้มีทางเข้าใหม่จะหายากสักหน่อย แต่พอเจอแล้วดีเลย เป็นเหมือนบ้าน 2 ชั้น ติดแม่น้ำ ข้างบนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประเทศไทย-ฮอลแลนด์สมัยก่อน มีการเก็บค่าเข้า แต่วันนี้ไม่ได้เข้าชมเพราะเคยมาแล้ว ด้านล่างมีมุมขายของที่ระลึกและร้านกาแฟ มีมุมให้ถ่ายรูป ขนมเค้กมะพร้าวอ่อนอร่อยมาก แป้งเค้กเนื้อเบาสลับชั้นด้วยครีม ด้านบนเป็นเนื้อมะพร้าวอ่อน รสชาติหวานกำลังดี ใครมาควรลอง เจ้าหน้าที่ก็ยิ้มแย้ม ต้อนรับดีปล. ห้องน้ำสะอาด
เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ สถานที่น่ารัก สวยงาม
ทำเป็นคาเฟ่ริมน้ำ น้าจะดีมาก
ร้านกาแฟเล็กๆตกแต่งน่ารัก บรรยากาศประเทศฮอลันดา ด้านบนเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม ด้านนอกติดริมแม่น้ำ เหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อน ชมวิว จิบกาแฟ อยู่เลยวัดพนัญเชิงมาไม่ไกล ทางเข้าหายากซักนิด
ถ่ายรูปภายนอกเพราะบ้านปิดช่วงโควิท
แหล่งเเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ระหว่างอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา กับประเทศฮอลันดา
หนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย ทุกชาติเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ทั้งสิ้น
แสดงนิทรรศการความสัมพันไทย ฮอลันดาประวัติศาสตร์ฮอลันดาในอยุธยา ข้างล่างมีร้านกาแฟติดแอ แต่ทางเข้าลึกลับหน่อย มาตามป้ายและ google map บอกเลยคับ ข้างๆเป็นอู่เรือ น่าสนใจมาก
ทางเข้าค่อนข้างคลุกคลักหน่อยแต่ก็ยังขับรถไปได้ไม่ลำบาก ดูสถานที่เก่าที่ถูกกรมศิลปอนุรักษ์ เพื่อศึกษาความเป็นมาของสถานที
ที่ตั้งชุมชนฮอลันดา และเป็นที่ตั้งบริษัท ค้าขายของชาวดัชเดิม
ที่นี่คือชอบ...มีประวัติความเป็นมาของขนมฝอยทองด้วย
งดงามและมีประวัติศาสตร์
มีพิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ด้านใน ไม่เสียค่าเข้า ภาพสวย อาคารสวย จัดแต่งดีค่ะ
นั่งสบาย สแนคอร่อย บรรยากาศดี
แวะพักพิงอิงกายหลังเท่ียววัด ต้องขอพักจิบกาแฟ อ่านพื้นเพชาวฮอลันดาในเมืองนี้ เย็นนี้ไปต่อจนอัสดง
ดีมาก.. ได้ความรู้และบรรยากาศดี
บรรยากาศแปลกตาดีค่ะ ทางเข้ามีเรือต่างๆเยอะเลย ส่วนด้านในเป็นตึกสามารถเข้าไปอ่านประวัติได้แต่เราว่าเรื่องราวความเป็นดูน้อยมากทั้งๆที่เป็นชนชาติที่มีความสำคัญ น่าจะมีการโปรโมทมากกว่านี้ค่ะ
ไม่เสียค่าเข้า ติดริมแม่น้ำ
น่าสนใจดี อยากให้มีสปอนเซอร์
ความเป็นมา.....
สถานที่ไม่ใหญ่ ติดริมน้ำ ไม่มีค่าเข้า
น่าสนใจมาก แนะนำคับ
สงบเงียบ ทางเข้าเปลี่ยวนิดนึง อาคารสวย
ก่อนถึงวัดพนัญเชิงนิดเดียว ที่จอดรถสะดวก ผ่านไปอย่าลืมแวะนะ
เป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา นอกจากวัด อยุธยายังมีอะไรให้ดูอีกเยอะ
ไม่เวิร์ค จริงๆ ดีเรื่องเดียวคือ เป็นสถานที่ดื่มกาแฟติดแอร์ที่ใกล้วัดพนัญเชิงที่สุด กาแฟ ธรรมดา วิวธรรมดา อาหารไม่มี เป็นร้านกึ่งพิพิธภัณฑ์ครับ ไม่เน้นขายกาแฟเลย เพิ่งเปิดโซนขายกาแฟมากกว่า รสชาติธรรมดาจึงเรียกว่าไม่อร่อยจึงจะถูกต้องเมื่อเทียบกับราคาน่ะ ตากแอร์พอได้ กินโค้กพอได้ ถ่ายรูปพอได้อาหารห้ามเลยดีกว่า กาแฟยังข้ามไปเลยอาหารคงช้าโคตร ผมตากแอร์นานไปหน่อย1ชม.ไฟฟ้าตัดสะงั้น!! 2ดาวพอ
บ้านฮอลันดา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว 1 ซึ่งไม่ค่อยมีผู้คน แวะเวียนเข้าไปเยือนมากนัก สถานีตั้งอยู่ใกล้กับวัดพนัญเชิง ติดอยู่กับคานต่อเรือ เข้ามาแล้วจะกลายเป็นถนนดิน เป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ชาวไทยกับชาวฮอลันดา ที่เริ่มตั้งแต่สมัยอดีต และในปัจจุบันก็ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีต่อกัน สถานที่แห่งนี้ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร เมื่อท่านเข้ามาแล้ว ภายในตัวอาคาร จะมี เครื่องดื่มจำหน่ายอยู่ที่ชั้น 1 ส่วนที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนนิทรรศการ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตั้งแต่ในอดีต มาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ เป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่งที่ควรจะแวะ เพื่อเยี่ยมชม เพื่อให้ได้ทราบถึงความเป็นมาของบรรพบุรุษ ของไทย
อากาศดีคะ.
เมื่อเทียบความน่าสนใจในสิ่งที่นำมาจัดแสดงนั้น หมู่บ้านฮอลันดาทำได้ดีที่สุดในสามหมู่บ้าน ตัวอาคารแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นร้านคาเฟ่ ชั้นบนเป็นชั้นจัดแสดง บรรยากาศดี ไม่เสียค่าเข้าชม บริเวณใกล้ๆกันมีซากโบราณสถานให้ชมด้วย ข้อเสียคือ หาทางเข้ายากมากกก หากไม่ใช่คนท้องถิ่นอาจจะหาไม่เจอ ป้ายทางเข้าขนาดเล็กมากเทียบเท่ากับนำกระดาษ A4 สองแผ่นติดกัน หากทำป้ายทางเข้าให้ขนาดใหญ่และสังเกตง่ายกว่านี้จะดีมาก ถนนทางเข้าค่อนข้างแคบและเล็ก ไม่เหมาะกับนำรถยนต์เข้าไป เดินเท้าหรือขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปจะดีกว่า ตัวอาคารไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทำให้อากาศค่อนข้างร้อนนิดหน่อย และไม่มีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว ทางเข้าใหม่จะอยู่บริเวณพื้นที่โล่งๆข้างวัดพนัญเชิงวรวิหาร ตรงที่มีรถบัสจอดเยอะๆ หากมาทางเรือจะสะดวกกว่าสามารถจอดเทียบท่าบริเวณพิพิธภัณฑ์ได้เลย เพราะทางเข้าจะหันหน้าออกไปทางแม่น้ำ
แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์
ส่วนตัวชอบที่นี้คะไม่วุ่นวาย มีประวัติการค้าไทยกับเนเธอร์แลนด์
ทางเข้าแห่งใหม่อบู่ติดกับลานจอดรถกลางแจ้งวัดพนัญเชิงวรวิหาร
เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์
สถานที่แสดงประวัติศาตร์คสามสัมพันธ์ไทย ฮอลแลนด์ อยู่ริมน้ำ บรรยากาศดี มีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมเลย ที่สำคัญอย่าลืมซื้อวาฟเฟิลชิ้นละ 25 บาทที่หน้าคาเฟ่ อร่อยมาก
สมเด็จพระราชินีนาทเบียทริกซ์แห่งเนเธอแลนด์และเจ้าชายวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ เจ้าชายแห่งออเรนจ์ ทรงเสด็จเยือนที่ตั้งของบ้านฮอลันดาตอนนั้นมีเพียงป้ายเท่านั้น ยังไม่มีอาคารบ้านฮอลันดาซึ่งกรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งโบราณแห่งนี้เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง ครบรอบ 400 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เนเธอแลนด์ เมื่อพ.ศ. 2547ส่วนที่เหลืออยู่นี้คือรากฐานของสถานีการค้าบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา (Dutch East India Companyหรือเรียกว่า VOC)ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จัดสร้างจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์และงบประมาณจากรัฐบาลเนเธอแลนด์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานของชาวฮอลันดาในสมัยอยุธยาสมัยก่อน อยุธยาถือเป็นจุดรวมศูนย์กลางการค้าขาย ใครอยากซื้อสินค้าจากไทย ก็ต้องมาซื้อที่อยุธยาเท่านั้น ถือเป็นพ่อค้าคนกลางชาวดัตช์เข้ามาในช่วงปลายสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงซื้อเพื่อนำไปขายต่อยังประเทศอื่นเช่นจีน ญี่ปุ่น และนำสินค้าจากประเทศต่างๆ กลับเข้ามาขายในไทย สินค้าของชาวดัตช์ถือว่าแปลก ถ้าใครอยากได้สินค้าแปลกๆต้องมาหาที่ตลาดน้ำบางกระจะ ในสมัยนั้นอยุธยามีกฏเกณฑ์เกี่ยวกับคนต่างชาติว่า ถ้าจะมาตั้งถิ่นฐานในไทย ต้องอยู่นอกเกาะเมืองเท่านั้น นอกจากจะสะดวกต่อการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงเรือ เรื่องความสะอาดเพราะจุดนี้จะสกปรกและมีหนู และยังมีเรื่องความมั่นคงอีกด้วยสมัยนั้นชาวโปรตุเกสได้เข้ามาเป็นชาติแรก ชาวฮอลันดาเข้ามาทีหลังชาวดัตช์มีความผูกพันธ์กับราชสำนักไทยเพราะต้องการเส้นสายในการผูกขาดสินค้า ช่วงที่ราชสำนักฯ เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน รายได้ขาดหาย สมเด็จพระนารายณ์จึงส่งเรือสำเภาไปขายของเองกับจีนและญี่ปุ่น ทำให้ชาวดัตช์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงเกิดกรณีพิพาทระหว่างดัตช์กับอยุธยาสมเด็จพระนารายณ์จึงทรงย้ายไปประทับที่ลพบุรีชั่วคราว เพราะไกลจากปากแม่น้ำ ไกลจากการรุกรานได้ง่ายทางเรือสินค้าที่ชาวดัตช์นำไปขายเช่น หนังปลากระเบน หนังกวาง ดีบุก ไม้ฝาง (ใช้ย้อมสี) ไม้กฤษณา(เครื่องหอม)เนื่องจากญี่ปุ่นมีฤดูการล่าสัตว์ได้สั้นเฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น ส่วนไทยสามารถล่าสัตว์ได้ตลอดทั้งปีหนังสัตว์มีความจำเป็นในการทำเครื่องนุ่มห่ม ใช้หุ้มเสื้อเกราะชั้นในเพื่อทำให้นุ่ม และพันด้ามดาบซามุไรเพื่อจะทำให้เหงื่อไม่ติดนอกจากนี้ชาวดัตช์ยังเขียนแผนที่อยุธยาได้ใกล้เคียงมาก แม้ในส่วนของพระราชวังที่ชาวต่างชาติไม่มีโอกาสเข้าไปในวังและถือเป็นแผนที่ที่สเกลดีที่สุดเพราะจัดทำด้วยวิธีนับก้าวเดินชาวดัตช์จะออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ พร้อมแผนที่ ลูกโลก กระดาษ ปากกา เพราะชอบทำแผนที่และจดบันทึกต่างๆเราได้รู้จัก มณีจันทร์ จากบันทึกของชาวดัตช์ มีการกล่าวถึง หม้ายหลวง หมายถึงชายาของกษัตริย์พระองค์ก่อน (สมเด็จพระณเรศวร)บ้านฮอลันดานี้ มี 2 ชั้น ชั้นบนจัดเป็นนิทรรศการณ์ เน้นสีส้ม หมายถึงราชวงศ์ออเรนจ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์มีประวัติความเป็นมา เรื่องราวต่างๆ ของความสัมพัธ์ระหว่าง 2 ประเทศซื้อบัตรชมจากด้านล่าง 50 บาท ด้านบนต้องเดินขึ้นบันไดสูงพอสมควร เดินขึ้นลำบากสำหรับผู้สูงอายุด้านล่างเป็นร้านขายเครื่องดื่ม อาหารว่าง ของที่ระลึกจัดแต่งภาพวาดลายน่ารักตามแบบชาวดัตช์ เครื่องดื่มและอาหารราคาไม่แพง มีบริการ wifiด้วยค่ะชานมเย็น 60 บาทชงได้เข้มข้นมาก หวาน มัน อร่อยมากค่ะทางเข้าจากถนนใหญ่ จะมีสายไฟไม่สูงมาก ถ้ารถบัส 2 ชั้น จะไม่สามารถเลี้ยวเข้ามาได้ค่ะ
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์โดยใช้พื้นที่ที่เคยเป็นสถานีการค้าบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งหลงเหลือแต่เพียงฐานรากโบราณสถานอาคารคลังสินค้าเดิม โดยกรมศิลปากรได้เข้ามาขุดแต่งในระหว่างปี พ.ศ. 2546-2548 และในปี พ.ศ. 2552-2553 ขุดพบเครื่องมือเครื่องใช้ อาทิ เครื่องกระเบื้องจีน เครื่องปั้นดินเผา กล้องสูบยาของดัตช์ และเหรียญเงินตราดัตช์บ้านฮอลันดา อาจเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและดัตช์ คือไม่เน้นโบราณวัตถุ แต่เป็นนิทรรศการที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์เรื่องราวของดัตช์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งดร.ธีรวัต ณ ป้อมเพชร ผู้ค้นคว้าและจัดทำเนื้อหานิทรรศการบอกว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายมากเพราะประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แต่จะนำเสนออย่างไรให้น่าสนใจอาคารจัดแสดงเป็นอาคารก่ออิฐสูงสองชั้นสีส้มสดใส สร้างใหม่โดยยึดรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของสถานีการค้าดัตช์ เท่าที่พอจะหาหลักฐานได้ แล้วเสร็จในปี 2554 โดยได้รับทุนสนับสนุนจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์และงบประมาณจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ส่วนที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดพนัญเชิง ซึ่งอยู่ติดกันส่วนจัดแสดงหลักอยู่บริเวณชั้นสอง ส่วนแรกเป็นส่วนนิทรรศการที่แนะนำให้รู้จักว่าชาวดัตช์คือใคร เหตุใดบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดาหรือวีโอซี(VOC) จึงมาทำการค้ากับอยุธยา การค้าขายในสมัยอยุธยาเป็นอย่างไร แล้วพวกดัตช์ใช้ชีวิตอย่างไรในอยุธยา จากนั้นเป็นส่วนจัดแสดงจำลองหลุมขุดค้นทางโบราณคดีที่เป็นสถานีการค้าดัตช์ และส่วนสุดท้ายเล่าการฉลองความสัมพันธ์ 400 ปี ระหว่างไทยและเนเธอร์แลนด์ส่วนที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นการเล่าเรื่องการค้าทางทะเลระหว่างเมืองท่าในเอเชียและบทบาทของฮอลันดา มีความรู้ที่น่าสนใจคือ จริงๆ แล้วพ่อค้าฮอลันดานำสินค้าของไทยไปขายต่อในภูมิภาคเอเชียด้วย ในนิทรรศการใช้สื่อเทคโนโลยีแบบinteractiveที่ผู้ชมสามารถกดปุ่มดูเส้นทางการค้าว่าแต่ละเส้นทางมีสินค้าใดที่ค้าขายระหว่างกัน พระเอกในนิทรรศการคือตัวอย่างสินค้าที่หาดูได้ยาก ที่นำมาให้ชม เช่น หนังปลากระเบนที่ส่งออกไปขายถึงญี่ปุ่น เพื่อนำด้ามจับดาบซามูไร หนังกวางที่มีความเบา ยืดหยุ่น และแกร่ง เหมาะสำหรับทำชิ้นส่วนชุดเกราะนักรบญี่ปุ่น ไม้ฝางที่มีคุณสมบัติสีแสงที่มีคุณภาพในการย้อมผ้า ไม้กฤษณามีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่นำไปผลิตน้ำมันหอม ดีบุกที่ใช้เป็นวัสดุบุด้านในกล่องชาเพื่อป้องกันความชื้น เป็นต้นส่วนจัดแสดงที่ว่าด้วยเรื่องว่าชาวดัตช์ดำรงชีวิตอย่างไรในกรุงศรีอยุธยา เป็นการนำเสนอที่มิได้เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ หากแต่มีเกร็ดที่น่าสนใจที่ลงลึกถึงชีวิตคน ซึ่งคนดัตช์ที่เข้ามาในกรุงศรีอยุธยานั้นสวมหมวกสามใบคือ เป็นทั้งพ่อค้า ข้าราชสำนัก และนักการทูต ซึ่งคนสำคัญที่เป็นตัวเชื่อมการค้าฮอลันดากับราชสำนักคือผู้หญิงมอญคนหนึ่งที่ชื่อออสุต หล่อนมีสามีเป็นหัวหน้าสถานทีการค้าชาวดัตช์ 2 คน และเป็นผู้ผูกขาดการขายเสบียงอาหารให้วีโอซี หรือเรื่องตัวแสบแห่งบ้านฮอลันดา คือคนฮอลันดาที่ชื่อบูเซ็ต ที่ก่อเรื่องทะเลาวิวาทและละเมิดกฎหมายสยาม เป็นต้นส่วนสุดท้ายเป็นเรื่องราวหลังเสียกรุงครั้งที่สอง คือหลัง ปี พ.ศ. 2310 ดัตช์ไม่ได้กลับมาทำการค้าของสยามอีกเลยเป็นเวลากว่านานกว่าครึ่งศตวรรษ การกลับมาอีกครั้งของชาวดัตช์อย่างเป็นทางการคือในปี พ.ศ. 2445 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่รัฐบาลอาณานิคมแห่งอินเดียตะวันออกส่งวิศวกรชลประทานชื่อ เย.ฮา. โฮมัน ฟัน เดอร์ ไฮเดอ มายังสยาม ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อการเกษตรในลุ่มน้ำภาคกลางของสยาม ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับดัตช์ทั้งระหว่างราชวงศ์กับราชวงศ์ รวมถึงการเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมก็ดำเนินเรื่อยมาจนปัจจุบันบริเวณชั้นล่างยังมีนิทรรศการชั่วคราวว่าด้วยเรื่องการจัดการน้ำของเนเธอร์แลนด์ และมีส่วนของร้านของขายที่ระลึกและคาเฟ่ เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนอิริยาบถสำหรับผู้เยี่ยมชม นอกจากนี้ผู้ชมสามารถเดินชมบริเวณด้านนอกอาคาร ที่เป็นส่วนขุดแต่งโบราณสถานที่เป็นสถานีการค้าเดิม ที่กรมศิลปากรขุดแต่งไว้เมื่อครั้งเฉลิมฉลอง 400 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์
เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แบบกระทัดรัด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดให้ชมได้ดีเป็นส่วนๆ มีเรือขึ้นคานไว้ และค่าเข้าชม....
สถานที่กำลังพอดีและข้างมีซากเรือที่เคยล่มจอดให้ชมยุ่ไม่ไกลแต่มองเห็นได้ชัดเจน สถานที่สะอาด พิพิธภันก้อกำลังดีเข้าใจง่ายด้วย
เป็นสถานที่ที่เป็นส่วนหนึ่งประวัติศาสตร์ด้านการค้ากับต่างประเทศของอยุธยา มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวการค้าระหว่างสยามกับฮอลันดาหรือเนเธอร์แลนด์ ความเหมือนกันในเรื่องการจัดการน้ำของเมือง จนอยุธยาได้เป็นมรดกโลก ส่วนหนึ่งมาจากความรู้ด้านการจัดการน้ำ และโบราณสถานที่สวยงาม
มีเรื่องราว บนภาพวาด ในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์ไม่ใหญ่แต่ก็น่าจะแวะไปซักครั้ง
ได้อ่านประวัติศาสตร์ ไทยการค้าขายกับเนเธอร์แลนด์เยี่ยมจริงๆ
ให้ความรู้ประวัติศาสตร์ดี แต่ทางเข้าไม่ค่อยสะดวก
สถานที่ไม่ใหญ่มากนัก มีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชม (เสียค่าเข้าชม) มีเครื่องดื่มให้บริการ ถ้าจะไปถ่ายรูปควรจะไปช่วงเย็นทางเข้ายังเป็นหินคลุก และหายากจากถนนใหญ่
มิวเซียมขนาดเล็ก ติดริมแม่น้ำ มีอาคารเก่าที่ได้รับการบูรณะ ชั้นล่างมีขนมของ Dutch และกาแฟให้ชิม มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปกับวัด หลากสี มีเรือโบราณด้านนอก และการจัดแสดงด้านบน เหมาะกับการไปนังพักตอนบ่ายที่อากาศร้อนหลังจากไปดูวัดในอยุธยา
ไม่ใหญ่แต่มีสไตล์ มีร้านกาแฟ ไม่เก็บค่าเข้าชม
เห็นคานเรือ สำหรับซ่อมเรือก่อนถึงบ้านฮอลันดา เป็นลานและมีป้ายบอกประวัติ
พิพิธภัณฑ์เล็กๆ มีร้านกาแฟน้อย
ชอบความเก่าแก่ของที่นี่
น่ารักดี กาแฟใช้ได้
อีกแหล่งศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์
ถ้าไม่ผิด น่าจะเป็นของเอกชน แต่ทำสวย น่าเที่ยวครับ
คนไม่ค่อยเยอะ กินน้ำกินขนมในห้องแอร์ นั่งเรื่อย ๆ สบายดี
บรรยากาศดี มีที่มา
เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมาก
ได้รู้ประวัติต่างๆความเป็นมาที่ไม่เคยรู้
เเมว
ใกล้บ้านฉันเลยจร้า
โทรมกว่าแต่ก่อนเยอะ กาแฟไม่อร่อย
บรรยากาศริมน้ำสวยๆ กาแฟอร่อย มีพิพิธภัณฑ์
เรียนรู้ประวัติศาสตร์กันเถอะ
ให้ความรู้มากมาย กาแฟอร่อยมาก
กาแฟรสชาติดี ดื่มด่ำบรรยากาศแบบฮอลันดา ชมวิวแม่น้ำ
ปิดบริการไปแล้ว
บรรยากาศดีครับ
ดีมาก ๆ ครับ