สมัยโบราณเรียกวัดนี้ว่า “วัดเจ้าเชษฐ์” ที่มาเพี้ยนเป็นวัดวรเชษฐ์ สันนิษฐานว่าเป็นเพราะภายหลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระเอกาทศรถได้พระราชทานนามใหม่ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระบรมเชษฐาธิราช สภาพโบราณสถานยังคงมีพระปรางค์และเจดีย์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้โดดเด่นเป็นจุดสังเกตสำหรับผู้ผ่านไปมาวัดนี้ตามข้อมูลในประวัติศาสตร์บางแห่งระบุว่าเป็นวัดที่พระเทียรราชากับพรรคพวกได้ไปเสี่ยงเทียน กล่าวคือเมื่อขุนวรวงศาธิราชขึ้นครองแผ่นดิน ขุนพิเรนทรเทพและพรรคพวกได้วางแผนยึดอำนาจ จึงหาผู้ที่มีเชื้อพระวงศ์ที่สมควรขึ้นครองแผ่นดินซึ่งก็คือ “พระเทียรราชา” หรือ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ในเวลาต่อมา ซึ่งในขณะนั้นทรงผนวชอยู่ณวัดราชประดิษฐาน ต่างได้นัดหมายหารือกัน จากนั้นฝ่ายขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา และหลวงศรียศ ต่างต้องการขวัญกำลังใจในการกระทำการใหญ่นี้ จึงคิดทำการอธิษฐานเสี่ยงเทียนต่อพระพักตร์พระพุทธปฏิมากรให้ประจักษ์แจ้ง ว่าพระเฑียรราชา จะมีบุญบารมีหรือไม่ซึ่งต่างเลือกวัดวรเชษฐ์เป็นที่เสี่ยงเทียน (ในการเสี่ยงเทียนนี้บ้างก็ว่ากระทำกันที่วัดราชประดิษฐาน ซึ่งเป็นวัดที่พระเทียรราชาผนวชอยู่ แต่ไม่น่าจะใช่เพราะวันนี้อยู่ในเกาะเมืองใกล้หูใกล้ตาผู้คน ส่วนวัดป่าแก้วซึ่งก็คือวัดวรเชษฐ์เป็นวัดที่อยู่ไกลจากผู้คนอยู่นอกเกาะเมืองจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การทำการสำคัญ)
หนึ่งในสองวัดที่ถูกตั้งคำถามว่า เป็นสถานที่ใดกันแน่ที่เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องจากมีวัดวรเชษฐารามถึงสองแห่ง สถานที่เรียกว่า วัดวรเชษฐฯในเกาะ อีกวัดคือวัดวรเชษฐฯนอกเกาะ จนทุกวันนี้ ยังไม่มีข้อสรุปไม่ชัดเจน ได้แต่สมมติฐานถึงความเป็นไปได้ ตามหลักฐานที่น้อยนิดในพงศาวดารประวัติศาสตร์ ...นักประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะใช่วัดแห่งนี้
เป็นวัดที่สวยงามวัดนึง ไม่มีค่าเข้า และเป็นวัดสำคัญของพระนเรศวรมหาราชประวัติวัดวรเชษฐาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หรือ วัดวรเชษฐ์ เป็นพระอารามหลวงเก่า ที่ตั้งอยู่ภายในเกาะเมือง โดยอยู่ระหว่างวัดโลกยสุธาราม และวัดวรโพธิ์ สร้างขึ้นในรัชสมัย สมเด็จพระเอกาทศรถ เมื่อปี พ.ศ. 2136 เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพระเชษฐา ที่ได้สวรรคตลงขณะยกทัพไปเมืองตองอู โดยได้บรรจุพระบรมอัฐิไว้ภายในวัดวรเชษฐาราม ซึ่งเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเชษฐา เนื่องด้วยวัดวรเชษฐารามของอยุธยา มีอยู่สองแห่งด้วยกัน คือ ในเกาะเมืองและนอกเกาะเมือง ซึ่งก็มีความขัดแย้งกันอยู่ระหว่างพงศาวดารกับสถานที่ตั้ง แต่อย่างไรก็ตามวัดวรเชษฐารามแห่งนี้ (ในเกาะเมือง) ได้เคยมีผู้ลักลอบขุดกรุเจดีย์ประธานโดยได้พบผอบบรรจุอัฐิซึ่งมีพระพุทธรูปนาคปรกล้อม อันเป็นพระพุทธรูปประจำวันพระราชสมภพ (วันเสาร์) ของสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเป็นหลักฐานหนึ่งที่ทำให้เชื่อว่า วัดวรเชษฐารามแห่งนี้ น่าจะเป็นวัดที่สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิพระเชษฐาของพระองค์
แค่มองจากด้านนอกเขตวัดก็ให้ความรู้สึกสงบและร่มเย็นแม้ว่าจะมาที่วัดตอนบ่ายสองโมงกว่าๆก็ตาม จึงเลือกเข้าไปกราบพระในโบสถ์ก่อน ผนังด้านนอกมีร่องรอยการใช้ถ้วยชามขนาดต่างๆมาตกแต่ง หากย้อนกลับไปยุคนั้นคงจะเป็นโบสถ์ที่สวยงามมากทีเดียว กำลังจะเข้าไปในโบสถ์ก็ต้องแอบยิ้มเพราะองค์พระประทานท่านกำลังส่งยิ้มกลับมาเช่นกันแล้วจึงกราบขอพรท่าน กลับออกมาจากโบสถ์ที่ด้านข้างเป็นส่วนของวิหารมีพระประธานอยู่เช่นกัน และมีเจดีย์ขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังวิหาร สังเกตใบหน้าของท่านไม่ยิ้มเหมือนพระประธานในโบสถ์แต่กลับทำหน้าเคร่งขรึม ไม่มั่นใจว่าเป็นความตั้งใจของช่างหรืออย่างไรแต่โดยส่วนตัวแล้วชอบในความแตกต่างนี้และทำให้อยากรู้ถึงความเป็นมาของวัดแห่งนี้
เป็นวัดร้าง เก่าแก่ มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำบนฐานเตี้ยมีอุโบสถและวิหารอยู่ขนานกัน มีกำแพงแก้วล้อมรอบอาคารทั้งหมดเอาไว้ โดยล้อมรอบด้วยคูน้ำสันนิฐานว่าสร้างในสมัยพระเอกาทศรถ บ้างก็ว่าเป็นที่ถวายพระเพลิงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่าใช่ เพราะมีวัดวรเชษฐ์ถึงสองวัดด้วยกันคือวัดวรเชษฐารามในเมืองตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของวังโบราณ ส่วนอีกวัดหนึ่งชื่อวัดวรเชตุเทพบำรุงหรือวัดวรเชษฐ์นอกเมือง ซึ่งอยู่นอกเกาะเมือง คำให้การของขุนหลวงหาวัดระบุว่า สถานที่ถวายพระบรมศพคือบริเวณวัดสบสวรรค์ หาใช่วัดวรเชษฐ์ไม่ ซึ่งวันนี้เรานำเสนอวัดวรเชษฐารามในเมือง
🙏วัดวรเชษฐารามแห่งนี้ (ในเกาะเมือง) ได้เคยมีผู้ลักลอบขุดกรุเจดีย์ประธานโดยได้พบผอบบรรจุอัฐิซึ่งมีพระพุทธรูปนาคปรกล้อม อันเป็นพระพุทธรูปประจำวันพระราชสมภพ (วันเสาร์) ของสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเป็นหลักฐานหนึ่งที่ทำให้เชื่อว่า วัดวรเชษฐารามแห่งนี้ น่าจะเป็นวัดที่สมเด็จพระเอกาทศรถ โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิพระเชษฐาของพระองค์🤔ตอนแรกคิดว่าจะลบสองตัวนี้ดีมั้ย 😕 นะเหมือนรู้งานไม่ยอมขยับ 😅มาไหว้พระนอนที่วัดโลกยสุธาราม สถานที่ใกล้กัน อย่าลืมแวะ 🙇♂️
วัดวรเชษฐ์ โดยในกรุงศรีอยุธยามีวัดชื่อนี้อยู่ 2 แห่ง คือวัดวรเชษฐ์ (วัดวรเชต) นอกเกาะเมืองวัดวรเชษฐาราม (วัดวรเชษฐ์) ในเกาะเมืองแม้ในประวัติศาสตร์ จะไม่ปรากฏแน่ชัดว่าวัดใดคือวัดที่ถวายพระเพลิงพระเนรศวรมหาราช ทว่ากระแสในปัจจุบันเชื่อว่าเป็นวัดวรเชต นอกเกาะเมือง เนื่องจากมีพระปรางค์ที่ดูหรูหราอลังการ มีสถูปบรรจุอัฐิมากมาย อีกทั้งยังกินพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่า ส่วนวัดวรเชษฐารามมีเพียงเจดีย์เรียบง่ายและวัดมีขนาดเล็ก แต่นักวิชาการส่วนใหญ่กลับเห็นว่าสถานที่ถวายพระเพลิงน่าจะเป็นวัดวรเชษฐาราม ด้วยเหตุผล 3 ประการได้แก่เหตุผลที่ 1 พระปรางค์ประธาน วัดวรเชต นอกเกาะเมือง มีลักษณะเหมือนกับพระปรางค์วัดชัยวัฒนาราม วัดนี้จึงน่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททองเช่นเดียวกับวัดชัยวัฒนารามเหตุผลที่ 2 พระราชพงศาวดารทั้งฉบับบริติชเมียวเซียมและฉบับพันจันทนุมาศบันทึกไว้ตรงกันว่าสมเด็จพระเอกาทศรถทรงบำเพ็ญพระราชกุศลด้วยการสร้างวัดชื่อ ‘พระวรเชษฐารามมหาวิหาร’ ขึ้น จากชื่อที่จารึกไว้ ใกล้เคียงกับวัดเชษฐารามในเกาะเมืองมากกว่าวัดวรเชตนอกเกาะเมืองเหตุผลที่ 3 การจัดกระบวนแห่พระมหาพิชัยราชรถบรรจุพระศพพร้อมด้วยพระมหาบุษบกจากพระบรมมหาราชวัง ข้ามแม่น้ำไปวัดวรเชต นอกเกาะเมืองนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะในสมัยนั้นไม่มีสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำที่ใหญ่และแข็งแรงเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้งการเคลื่อนย้ายพระมหาพิชัยราชรถทางชลมารค (ทางน้ำ) ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อนดังนั้นวัดวรเชษฐาราม ในเกาะเมืองแห่งนี้ จึงเป็นวัดที่น่าจะเป็นที่ถวายพระเพลิงสมเด็จพระเนรศวรมหาราชมากที่สุด
สวย สะอาด กลิ่นพุทราไทย คลุ้งไปหมด
ททท.ไม่ให้ความสำคัญ ไม่ปรับปรุงบูรณะ ไม่สะอาด เสียดายคะ
เป็นอีกวัดที่สวยงามองค์พระประธานก็ดูงามมองแล้วสบายใจ
วัดเล็กที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่โดยรวม ถือว่าสวยครับ
วัดที่มีความสำคัญตามพงศาวดารพระเจ้าเอกาทศรถ.ว่าพระนเรศวรได้ถวายพระเพลิงพระศพที่วัดนี้แล้วคาดว่าพระอัฐิจะบรรจุอยู่ที่เจดีย์องค์ใดองค์หนึ่ง
พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาหลายฉบับกล่าวถึงวัดวรเชษฐาราม สรุปได้ความว่า เมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2418 ได้ทรงแต่งเมรุถวายพระเพลิงพระศพพระเชษฐาธิราช แล้วสร้างอุทิศพระราชกุศลถวายวัดหนึ่งชื่อวัดวรเชษฐ์ ทรงสร้างพระวิหาร พระพุทธรูป พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและหอพระธรรม
วัดโบราณที่คนร่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัดประวัติศาสตร์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา แต่แฝงไปด้วยมนต์ขลังของความศักดิ์สิทธิ์ ผ่านไปควรเข้าไปกราบไหว้สักครั้งเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต
นักวิชาการคิดว่าวัดนี้สร้างในสมัยพระเอกาทศรถซึ่งสร้างให้พระนเรศวรที่เป็นพี่ชายเหมือนกับชื่อวัดวรเชษฐารามที่แปลว่าพี่ชายที่เป็นที่รัก
น่าเช้าชม บรรยากาศเงียบสงบ
โบราณสถาน อยุธยาที่ ซ่อนตัวอยู่ ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ สถานที่จริงสวยงาม และ มีมุมถ่ายภาพสวยๆหลายจุด
โบราณสถานสมัยอยุธยา พระเจดีย์ประธานทรงระฆัง พระอุโบสถ พระวิหาร เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
วัดร้างที่ยังคงมีซากวิหาร และเจดีย์อยู่หลายจุด
ก่อนลงแข่งขัน สักตัว body tatto ว่าจะเข้าไปขอพรค่ะ
ยังคงสวยงามตราบเท่าวันนี้
พิกัดผิด ไม่ใช่ที่ตั้งวัด ต้องเลยวัดโลกยาสุธา ไปอีก500 เมตร
แหล่งวัตถุโบราณและมีพระนอน
ที่นี่มีพระประธานอยู่ในโบสเก่า
ควรมากราบพระเจ้าเสืออย่างยิ่งค่ะ
โบราณสถาน ที่น่าไป อย่างน้อยต้องไปกราบ
สวยงามมากๆ
ดูโบราณสถาน
ดูเงียบเหงา
ดีเยี่ยม
สาธุสาธุสาธุครับ
สาธุสาธุสาธุครับ
สาธุ
ดี
วัดวรเชษฐาราม
สาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ