บรรยากาศวัดโดยรวมดีมากๆ ผู้คนไม่หนาแน่น วัดค่อนข้างสะอาด ที่จอดรถน้อยไปหน่อย พระพุทธรูป พระปรางสวยงาม ภายในโบสถ์สงบมากๆ สามารถนั่งสมาธิหรือนั่งผ่อนคลายได้ทั้งวัน

วัดสะอาดมากและเป็นระเบียบดีมากค่ะ

คนน้อยอาจจะเป็นวันธรรมดา ดีชอบ มีที่ให้อาหารปลาด้วย

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีพระปรางค์เป็นประธานของวัด ในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวัง และกรมขุนอิศรานุรักษ์ (เกศ) ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอารามวัดกษัตราเปลี่ยนชื่อเป็น วัดกษัตราธิราช ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสถานที่สำคัญภายในวัด คือ พระประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ปูนปั้น ฝีมือประณีตงดงาม ใบเสมาของพระอุโบสถเป็นใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง

งดงาม​ สะอาดมาก ท​ำ​บุญ​ จัดงานต่างๆงานบวช สะดวกครับ

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดโบราณ ปรากฏหลักฐานพบว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ วัดกษัตรา หรือ กษัตราราม หรือ กษัตราวาส ไม่ปรากฏหลักฐานว่า ใครเป็นผู้สร้าง แต่ชื่อของวัดทำให้สันนิษฐานว่า คงเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ทรงสร้าง วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดกษัตรา ซึ่งหมายความว่าเป็นวัดของพระมหากษัตริย์ หรือวัดของพระเจ้าแผ่นดิน มีปรากฏในแผ่นดินสมเด็จพระสุริยามรินทร์ ว่า แรม 14 ค่ำ เดือน 5 พม่าเอาปืนใหญ่มาตั้งที่วัดราชพฤกษ์และวัดกษัตราวาส ยิงเข้ามาในพระนคร ถูกบ้านเรือนราษฎรล้มตายจำนวนมาก วัดนี้คงถูกทำลายเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาจึงถูกทิ้งร้างเรื่อยมาครั้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ (ทองอิน) กรมพระราชบวรสถานภิมุข (กรมพระราชวังหลัง) ได้บูรณะวัดกษัตรา และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดกษัตราธิราช ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ (เกศ) ต้นราชสกุลอิศรางกูร ได้ปฏิสังขรณ์พระอาราม ในปี พ.ศ.2349 ให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา เป็นพระอารามหลวงลำดับที่ 9 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกวัดกษัตราธิราชเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ปัจจุบัน มีพระญาณไตรโลก (สุชาติ ฐานิสสะโร) เป็นเจ้าอาวาส นับได้ว่าเป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม ขนาดองค์พระสูง 2.99 เมตร ฐานกว้าง 2.09 เมตร ตั้งอยู่บนฐานชุกชี ในลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย ใบหน้าลักษณะรูปสี่เหลี่ยม เม็ดพระศกมีขนาดเล็ก เหนือจากพระอุษณีษะ คือ เกตุมาลาทำเป็นรัศมีเปลว องค์พระครองจีวรห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ชายจีวรยาวจรดพระนาภีปลายแยกออกเป็นเขี้ยวตะขาบ ต่อมามีการลงรักปิดทองประดับอย่างงดงาม ส่วนกลางฐานชุกชี ทำเป็นผ้าทิพย์ปั้นเป็นลายประเภทราชวัตร ประดับประจำยาม ปั้นเป็นลายก้านขดมีการออกลายเป็นสัตว์หิมพานต์ ด้านล่างปั้นเป็นลายกรวยเชิง ลักษณะคล้ายกับผ้าทิพย์สำหรับพระอุโบสถที่พระประธานประดิษฐานอยู่ มีขนาด 9 ห้อง กว้าง 22 เมตร ยาว 46 เมตร ผนังก่ออิฐเจาะช่องแสงแบบเสาลูกมะหวด ด้านหน้าพระอุโบสถมีบันไดขึ้น 2 ทาง ช่องกลางก่อเป็นซุ้มบัญชร ช่องหน้าต่าง ด้านหลังมีมุขเด็จ ทำเป็นบันไดขึ้น 3 ทาง ที่ประตูกลางของมุขเด็จ ด้านหลังก่อเป็นซุ้มกั้นห้องประดิษฐานพระพุทธปฏิมา ปางป่าเลไลยก์ ส่วนหลังคาพระอุโบสถช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ประกอบด้วยเครื่องไม้หลังคามุงด้วยกระเบื้องกาบู หรือกระเบื้องกาบกล้วยดินเผา หน้าบันทั้ง 2 ด้าน จำหลักลายดอกพุดตาน มีสาหร่ายรวงผึ้งคั่นสลับระหว่างเสา ลงรักปิดทองประดับกระจก มีคันทวย รองรับระหว่างชายคา ที่แกละสลักอย่างงดงาม สืบทอดรูปแบบมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาภายในพระอุโบสถเสากลมมีบัวที่หัวเสาเป็นแบบดอกบัวตูมจำนวน 6 คู่ รองรับเครื่องบน เพดานเขียนลายทองเป็นลายราชวัตร ดอกกลมและพุ่มข้าวบิณฑ์ สลับกันเป็นระยะบนพื้นสีแดง เพดานสลับไม้ลงรักปิดทองพื้นภายในพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลีที่รัชกาลที่ 5 พระราชทานแด่พระครูวินยานุวัติคุณ (ทรง ธัมมสิริโชติ) อดีตเจ้าอาวาส เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา หลังจากการก่อสร้างพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ

วัดนี้คนมาไหว้สักการะไม่เยอะ แต่เป็นวัดที่สวยงามและน่ามากราบไหว้วัดหนึ่งในอยุธยา เป็นหนึ่งในวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา

เป็นวัดโบราณ มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

ด้านหลังมีเจดีย์ด้วยนะครับมากราบแล้วอย่าลืมไปเดิน ๓ รอบ กลับมาที่นี่ ครั้งที่ ๒ ครั้งแรกไป เพราะหลวงพี่เล็กวัดท่าขนุนเทศน์ให้ลองไปดู มีความสงบมากมายในโบสถ์ แล้วได้บูชาธงสีเหลืองๆมาไว้ที่บ้าน พี่ที่ห้องวัตถุมงคลใจดีมาก ให้พระมาอีก ๓ องค์ กลับมาของขายดีเทน้ำเทท่า กลับไปถวายผ้าห่มหลวงพ่อแล้ว บูชาพระผงกลับมาอีกหลายองค์ พี่เค้าเล่าประสบการณ์การทำงาน เป็นประโยชน์อย่างมากเลยครับ คนอยู่วัดไม่ได้ธรรมดานะครับ แต่ละคน เก่งๆทั้งนั้น แต่ไม่ออกตัวเท่านั้นเอง วันหลังไปอีกก็ว่าจะหาของฝากไปฝากพี่คนนั้นครับ ขนาดลืมเงินทอนยังเดินมาให้ถึงรถ ผมก็ลืมด้วย คุยเพลิน คนวัดเขาไม่ได้อยากติดค้างอะไรใครครับ เขามีมากกว่าเราอีกครับ น้ำใจ น้ำคำในสังคมไทยหาได้ที่นี่นะ มาแล้วสบายใจ เราก็อยากกลับมาอีกบ่อยๆ

ที่กว้างขวาง ที่จอดรถสบาย มีหนึ่งอุโบสถ สองวิหารศักดิ์สิทธิ์ มีจิตอาสา(พี่จรูญ)บรรยายให้ความรู้

วัดยุ่ใกล้กับวัดท่าการ้องจึงแวะไหว้ เงียบสงบดี ที่จอดรถก็ขว้างขวาง แต่คนมากราบไหว้ไม่เยอะมากคับ

พอดีเกิดวันอาทิต ได้มาเจอพระประจำวันเกิด พอดี

เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่มีพระพุทธรูปเก่าแก่ สวยงาม สงบ ร่มเย็น

เป็นวัดไม่ใหญ่มากครับ มีพระประธานปางมารวิชัยนั่งบนฐานที่ปั้นรูปสิงหลแบกองค์พระ ตามคำเล่าของพี่ใจดีที่ยืนเล่าที่มาให้ฟังว่า ฐานที่รองรับด้วยสิงหลนี้คือบัลลังนั่งของกษัตริย์เท่านั้น วัดได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่3และรัชกาลที่5โดยเฉพาะหินอ่อนที่ปูพื้น คือหินอ่อนที่ ร.๕ทรงถวายให้แก่วัด พื้นที่ริมน้ำ มองเห็นอีกยอดเจดีย์สีทองเล็กน้องขององค์เจดีย์ศรีสุริโยไทยฝั่งเกาะอยุธยา ริมน้ำมีปลาตะเพียนสวยเพียบพร้อมสวนสวยๆเล็กๆน่านั่งครับ

วันนี้เดินทางมาที่จังหวัดอยุธยาได้แวะมากราบสักการะองค์พระปฏิมาที่วัดกษัตราธิราชวรวิหารและวิหารทั้งสองเป็นครั้งแรกถือว่าเป็นมงคลมากที่ได้เดินทางมาทาง สงบร่มรื่นเรียบร้อยอัตราสาธุสาธุ

มีปลาตะเพียนทองอยู่หลังวัด เย่อะและสวยมาก อาหารปลา 3 ถุง 20 บาท

ดีใจ​ที่​ได้​มา​กราบ​ครับ​

วัดสวยมาก สะอาดมาก ของขลังของบูชา ราคาไม่แพง ไฮไลค์ที่ควรไปคือให้อาหารปลาครับ ปลาเยอะมาก

วันนี้ไปถวายน้ำดื่มให้กับทางวัด พร้อมถวายที่ใส่เจลแบบเท้าเหยียบไว้ให้ทางวัดใช้งานเผื่อคนเข้ามากราบที่พระอุโบสถได้ใช้งานกัน

วัดกษัตราธิราช เป็นอีกหนึ่งวัดที่ห้ามพลาด ต้องมาไหว้พระให้ได้นะคะ #ฉันรักอยุธยา

วัดที่สวยและเก่าแก่วัดหนึ่งในอยุธยา

มาวันธรรมดาไม่มีคนสงบดีคะ..แต่ตะร้อนหน่อย

บรรยากาศดี แต่ช่วงวันหยุดรถค่อนข้างติด และ มีจุดให้อาหารเต่า และจุดให้อาหารปลา ลมค่อนข้างเย็นดี ที่ศาลาริมน้ำ และให้อาหารปลา

วัดกษัตราวรวิหารเป็นวัดที่มีอายุมายาวนานแล้วเป็นวัดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งติดกับแม่น้ำภายในมีภาพประกอบมากมายมีวิหารสามวิหารที่เป็นจุดสำคัญในการไปกราบสักการะบูชาถ้าไปช่วงเช้าๆจะถ่ายรูปออกมาได้สวยเพราะด้านหน้าวิหารจะหัน ไปทางทิศตะวันออกใครที่สนใจต้องลองแวะมาดูมาชมมาทำบุญมาสักการะกัน

วัดเก่าสมัยอยุธยา ที่ยังมีความงาม ทั้งสถาปัตย์ทั้งเก่าและใหม่ ไหว้สมเด็จพระพนรัตน์ หลวงปู่เทียม

สงบเงียบ ที่จอดรถเยอะ

วัดมีการจัดระเบียบไว้ดีมากค่ะ ร่มริ่นดี

วัดกษัตราธิราชวรวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม้น้ำตรงข้ามกับเจดีย์สุริโยทัยซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและผู้คนมาไหว้พระกันอย่างต่อเนื่องวัดนี้สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์อุปถัมภ์

ไหว้พระในโบสถ์สวยงามมาก

มาวันธรรมดาคนน้อยดีคะ วัดสวยดีคะ สงบ ลมพัดเย็นดี

ข้อมูลประวัติ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยาหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช บางท่านเรียก หลวงพ่อเทียม พระวิสุทธาจารเถร หรือหลวงปู่เทียม มีนามเดิมว่า เทียม หาเรือนศรี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2447 ณ ต.บ้านป้อม หมู่ 7 อ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายสุ่นและนางเลียบ อาชีพทำนา เริ่มต้นการศึกษาภาษาไทยกับพระภิกษุมอญและอาจารย์ปิ่น ที่วัดกษัตรา ควบคู่ไปกับการเรียนวิชาช่าง ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ได้เข้าพิธีอุปสมบท โดยมีพระครูวินยานุวัติคุณ เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช เป็นพระอุปัชฌาย์ ไปศึกษาปฏิบัติธรรม ณ สำนักเรียนวัดประดู่ทรงธรรมและวิชาที่สำนักอื่น จนถึงพรรษาที่ 9 ได้กลับมาอยู่ที่วัดกษัตราธิราช กระทั่ง พ.ศ.2487 เมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลงจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสหลวงปู่เทียมเป็นพระเกจิเก่าที่มีวิทยาคมและพุทธาคมสูง วัตถุมงคลของท่าน อาทิ ตะกรุดหลวงปู่เทียม หรือเหรียญวัตถุมงคล มีชื่อเสียงในด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย จนเป็นที่ประจักษ์แก่คณะศิษย์ที่ให้ความเลื่อมใสศรัทธาโดยเฉพาะ ตะกรุดมหาระงับ วัดกษัตราธิราช เป็นที่โด่งดังมาก หลวงปู่เทียมละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2522 สิริอายุ 75 ปี 55 พรรษา

วัดนี้มาหลายครั้งแล้ว ได้มางานบวชพระที่โบสถ์วัดนี้ เอกลักษณ์ คิอหลังคาโบสถ์ วิหาร มณฑป ศาลาการเปรียญ มีสีเดียวกัน เป็นสีทองอมเหลือง มองระยะไกล สวยงามมาก-วิหาร สร้างแบบจตุรมุข มีวิหารคู่อยู่หน้าโบสถ์ มองดูด้านข้างโบสถ์ จะแอ่นลงเล็กน้อย สวยงาม-หน้าวัดหันไปทางทิศตะวันออก ติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีศาลาริมน้ำสองศาลา มีอาคารโรงเรียนปริยัติธรรม อยู่ริมน้ำ-มีที่จอดรถสะดวก

เหมาแก่การทำบุญไหว้พระ ขอพร ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธกษัตราธิราช มีความงดงาม

สถานที่สงบ วิหารสวย มีให้ทำบุญทุกอย่าง หนังสือ หลังคา ข้าวสาร น้ำ ฯลฯ

วัดนี้มีรูปปั้นสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ผู้จารึกบทพาหุงมหาการุณิโก

วัดกว้างขวางติดริมน้ำ สงบ ร่มรื่น ที่จอดรถสะดวกสบาย

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดโบราณ ปรากฏหลักฐานพบว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ วัดกษัตรา หรือ กษัตราราม หรือ กษัตราวาส ไม่ปรากฏหลักฐานว่า ใครเป็นผู้สร้าง แต่ชื่อของวัดทำให้สันนิษฐานว่า คงเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ทรงสร้าง วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดกษัตรา ซึ่งหมายความว่าเป็นวัดของพระมหากษัตริย์ หรือวัดของพระเจ้าแผ่นดิน มีปรากฏในแผ่นดินสมเด็จพระสุริยามรินทร์ ว่า แรม 14 ค่ำ เดือน 5 พม่าเอาปืนใหญ่มาตั้งที่วัดราชพฤกษ์และวัดกษัตราวาส ยิงเข้ามาในพระนคร ถูกบ้านเรือนราษฎรล้มตายจำนวนมาก วัดนี้คงถูกทำลายเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาจึงถูกทิ้งร้างเรื่อยมา

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา นอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับวังหลังหรือวังสวนหลวง เดิมชื่อ วัดกษัตรา หรือ วัดกษัตรารามวัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีพระปรางค์เป็นประธานของวัด ในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวัง และกรมขุนอิศรานุรักษ์ (เกศ) ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอารามวัดกษัตราเปลี่ยนชื่อเป็น วัดกษัตราธิราช ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสถานที่สำคัญภายในวัด คือ พระประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ปูนปั้น ฝีมือประณีตงดงาม ใบเสมาของพระอุโบสถเป็นใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจงปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา พระสงฆ์ที่เป็นที่นับถือ คือพระเกจิอาจารย์หลวงปู่เทียม

วัดสวยสงบมีให้อาหารปลาด้วยนะ

สวยงามมากครับ

วัดบูรพกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาสร้าง สวยสง่าสมเป็นวัดหลวงแห่งกรุงศรีอยุธยา

วัดสงบเงียบ สวยงาม สักการะพระพนรัตนพระอาจารย์ในสมเด็จพระนเรศวร

เป็นอีกวัดหนึ่งของอยุธยาที่มีความสวยงาม

สวยงาม เงียบสงบ คนไม่เยอะ

มาไหว้พระ สาธุข ให้คนไม่ดีไปให้ไกลสุดหูสุดตา ให้คนได้มองเห็น ความเลวทราม ความตัวตนที่แท้ของคนคนนั้น สาธุ

16/1/2563 วัดที่3กับทริปทำบุญ9วัด

ไปแล้วรู้สึกสบายใจกราบพระให้อาหารปลา

ดี คนน้อย สงบ

ติดแม่น้ำอากาศดี เหมาะสำหรับการไปกราบไหว้บูชา ปางชนะมาร

เป็นวัดที่สวยงาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ

วัดที่ขึ้นชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก เข้ามา สงบ เรียบร้อย กราบพระ ทำบุญ อิ่มใจ

สวยงามมากๆ

วัดกว้างขวาง สะอาด ที่จอดรถสะดวกค่ะ

สถานที่สวยงามมีประวัติที่ดีงาม น่าไปชมและกราบไหว้บูชาครับ

สวยงามร่มรื่นมากคะ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้บูชามากมาย

เป็นสถาทที่ที่ดี เจ้าหน้าที่วัดดีคับ ให้ความรู้ด้วยแต่....คุณป้าคนที่ดูแลคนนึง มารยาทแย่ เหตุ มีคนใส่รองเท้าเลยเข้าไปตรงกลาง ทางเข้าโบส เนื่องจาก ป้ายถให้ถอดรองเท้ามันไม่มี คุณป้าแกบ่นด่าเสียงดัง พร้อมทั้งกยิบรองเท้าคนที่มาโยนออกไป ผมเห็นและได้ยินกับตัวเอง จากที่แฮปปี้ๆ ความรู้สึกหายไปเลยเข้าใจในส่วนป้า แต่ คุณป้าน่าจะเข้าใจเหตุที่เค้าใส่รองเท้าเลยเข้ามา แล้วแก้ไขโดยทำป้ายวางชัดเจนบอกกล่าวด้วยคำพูดที่ดีที่เหมาะสม แทนการด่ากร่นเสียงดัง วัดนี้จะน่ามาเที่ยว และมีความสุขสงบกายใจมากกว่านี้คับ ใก้ 3ดาว หัก 2 เพราะคุณป้าเลยนะคับ

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เดิมชื่อ วัดกษัตรา หรือ วัดกษัตราราม มีพระปรางค์เป็นประธานของวัด ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับวังหลังหรือวังสวนหลวงเป็นวัดโบราณ ออกจากเกาะเมือง ต้องข้ามสพานครับ อยู่ขวามือยังมีพระสงฆ์จำพรรษา (ที่อยุธยาบางวัดจะเป็นแค่โบราณสถาน)

เป็นวัดหลวง ราชวรวิหาร จะได้รับพระราชทานกฐินหลวงทุกปีท่านเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ไม่มีการวางกล่องรับบริจาคให้เห็นในทุกจุดให้รู้สึกลำบากใจ

ประทับใจมากๆ มีคนบรรยาย ทำให้รู้ประวัติของวัดได้ความรู้มากๆ

เป็นวัดทีสงบมีเรื่องราวที่ทำให้เกิดศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากขึ้นเห็นความสัมพันธ์ไทยกับศรีลังกาอย่างชัดเจนได้ที่นี้และควรไปต่อที่วัดธรรมารามโดยเดินไปหรือขับรถไปอีก800เมตรจะเข้าใจประวัติศาสตร์ทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น

ปลาตะเพียนขาวหางแดง ท่าน้ำวัดกษัตริยาราชวรวิหาร มาให้อาหารปลาที่นี่ สงบเงียบท่ามกลางสถาการณ์โควิท

วัดสวยงามร่มเย็นมากๆ อย่าลืมไปกราบนมัสการท่านสมเด็จพระพนรัต พระอาจารย์ของท่านสมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วยนะคะ สาธุค่ะ

กราบพระประธานที่วัดกษัตราธิราชวรวิหารค่ะ

สงบ สะอาด ภูมิทัศน์สวยงาม

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี ที่ได้รับการบูรณะหลายครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ อุโบสถประดิษฐานพระพุทธกษัตราธิราชซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้

สวย มีจุดให้ไหว้พระขอพรเยอะ

มีผู้เล่าประวัติได้เข้าใจ

วัดสวย สันนิษฐานว่าสร้างโดยกษัตริย์ มีวิหารหลวงพ่อโต พระปรางค์ วิหารพระ หนังสือสวดมนต์ที่ตัวโตอ่านชัดมาก ๆ

วัดไม่ใหญ่มากติดแม่น้ำ คนไม่พลุกพล่าน มีกิจกรรมธรรมบุญตามแต่ศรัทธาครับ

ตอนแรกขับรถผ่านไปแล้ว แต่ต้องวกกลับ เพราะเห็นจากอีกฝั่งของแม่น้ำ สวยมากค่ะ ที่นี่เป็นวัดเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เคยถูกเพลิงไหม้ในสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธกษัตราธิราช ประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย ภายในอุโบสถประดับด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี เดินเข้าไปต้องถอดรองเท้าค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะมีเสื่อ/พรมปูเดินตลอดแนวค่ะ

วัดนี้ห้ามพลาดได้ความรู้ทางประวัติดีมากสมกับชื่อวัดเลยคนบรรยายให้ความรู้ดีมาก

ชอบดอกไม้ที่นำมาถวายพระสวยมาก ๆ

ได้ทำบุญอย่างมีความสุขและอิ่มบุ

สะอาด เรียบร้อย สวยงาม สงบ

วัดสะอาด ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆครับ

วัดเก่าแก่แต่อยุธยา

นี่คือความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศสนา

ไหว้พระขอพร เพื่อศิริมงคล ในชีวิต

เป็นวัดที่สะอาด เงียบสงบ สมเป็นพุทธาวาส

มากราบนมัสการหลวงปู่เทียมวัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีพระปรางค์เป็นประธานของวัด ในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวัง และกรมขุนอิศรานุรักษ์ (เกศ) ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอารามวัดกษัตราเปลี่ยนชื่อเป็น วัดกษัตราธิราช ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสถานที่สำคัญภายในวัด คือ พระประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ปูนปั้น ฝีมือประณีตงดงาม ใบเสมาของพระอุโบสถเป็นใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจงปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา พระสงฆ์ที่เป็นที่นับถือ คือพระเกจิอาจารย์หลวงปู่เทียม

วัดที่ สะอาดสงบ บริการ alcohol สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงระบาดของ covid 19

เป็นวัดขนาดย่อมๆ มีโบสถ์วิหาร 3หลัง ไม่ใหญ่มาก แต่ได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพดี อยู่ติดแม่น้ำ แต่บริเวณวัดค่อนข้างร้อนเพราะต้นไม้น้อยและพื้นเป็นหินแกรนิต ทางวัดเอาเต็นท์มากางให้ก็พอช่วยได้บ้างแต่ก็บังวิหารจนหมดทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่สวย

วัดหนึ่งในอยุธยาที่เก่าแก่มานาน มีความร่มเย็น สงบดีกราบไหว้ทำบุญขอพรดีมีพระหลายๆองค์ให้กราบไหว้เป็นอีกวัดที่น่ามาเช็คอินครับ

มีพระพุทธกษัตราธิราชที่สวยงามมาก

ใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง

รู้สึกดีมากเลยได้มาทำบุญ

วัดสวย แต่ตอนนี้ปิดตามมาตรการโควิด

เป็นวัดดี ที่ควรเข้าไปนมัสการพระประธานในโบสน์ และกราบอัฐฐิเกจิที่ดีงอย่างเช่น หลวงพ่อเทียม เกจิที่เรียนวิชาสายวัดประดู่ในทรงธรรม

วัดเก่าแก่ แต่สวยงาม สะอาดมาก พระพุทธรูปในอุโบสถเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์ น่ากราบไหว้เป็นสิริมงคล มีวิทยากรเล่าประวัติให้ฟังด้วย

ที่สุด มาอยุธยา ขาดไม่ได้

สวย​ สะอาด​ ที่จอดรถสะดวก

ไปยกช้างเสี่ยงทาย มา2รอบได้ตามที่เสี่ยงทายไว้เป๊ะเลยครับ

วัดสวยงาม สะอาด

เงียบสงบดีครับ

มีพี่เจ้าหน้าที่ของวัดมาพูดเล่าประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของวัดให้ฟัง ทำให้มีความรู้สึกดีมากๆที่ได้มาวัดนี้

วัดทีสะอาดร่มเย็น

วัดที่ต้องมา

วัดแต่สมัยอยุธยา

สงบร่มรื่น สวยงามมากๆ

มาอยุธยาต้องได้ไหว้พระวัดไหนก็มีประวัติความศักดิ์สิทธิ์วัดสวย สงบร่มเย็น