มาทำบุญสูงบ้างชีวิตจะได้โชคดีตลอดไป สาธุขึ้นเขา3ครั้งส่วนภรรยาสารวัตรอ้อขึ้น9ครั้ง

มาที่นี่ไม่สามารถเอารถส่วนตัวขึ้นได้ จะมีรถบริการของทางวัดค่าขึ้น100บาทสามารถซื้อได้ที่วัดพลวงมีที่จอดรถไว้บริการแล้วเดินมาขึ้นรถของชาวบ้านที่เขาจัดเป็นคิว ทางขึ้นไปถือว่ายากพอสมควรต้องใช้ความสามารถและประสบการณ์ของเจ้าของพื้นที่ พาเราขึ้นไปยังจุดทางขึ้น แล้วเดินขึ้นไปอีกประมาณ1กิโลเมตร มีไม่เท้าสำหรับเดินไว้บริการ หากเดินขึ้นไม่ไหวจะมีสะเหรี่ยงให้นั่งขึ้นไป ค่าบริการคนละ400บาท อากาศด้านบนเย็นสบาย นักแสวงบุญแนะนำให้ไป ไปแล้วรู้สึกสบายใจ

ที่ซึ่งชาวพุทธขึ้นไปแสวงบุญนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา ต้องไปจอดรถที่วัดพลวงแล้วมาขึ้นรถโฟวีลที่คิวรถคนละ 100 ลงอีก100 ทางคดเคียวชันมากคนขับต้องชำนาญในเส้นทางเพราะต้องมีการสลับเลนระหว่างรถขึ้นและรถลงด้วยไม่ได้ขับชิดช้ายอย่างเดียว ถึงด้านบนแล้วต้องเดินขึ้นเขาอีกพอสมควรจึงถึงที่นมัสการรอยพระบาท ถ้าเดินไปถึงผ้าแดงจะมีทางลัดลงเขาไม่ต้องเดินกลับไป

สวยมากๆค่ะทางขึ้นลาดชันน่อยแต่ก้อสะดวกในการเดินทางมีเสลี่ยงแบกขึ้นด้วยนะค่ะ

คนค่อนข้างเยอะ ทางเดินขรุขระ ควรระมัดระวังในการเดิน ควรเตรียมน้ำและยาดมยาหอมให้พร้อม ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลย

ทางโหดที่สุดในโลก 8กิโล ของจริง กับทางเดินเท้า 1กิโล วัดความสามารถ สำหรับผู้กล้า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง

เสาร์อาทิตย์คนเยอะมาก เดินขึ้นเขาไม่เหงาเลย มีเพื่อนที่ไปจุดหมายเดียวกันเยอะดี

ความเลื่อมใส​เอาชนะความเหนื่อย​ยากลำบาก​ และนำพาทุกท่านไปพบกับความสุข​ ธรรมมะจัดสรร​นั้นมีอยุ่​ถ้าคุณ​เชื่อมั่น​ อนุโมทนา​บุญ​สาธุ​แด่ทุกท่าน​ด้วยครับ​ 🙏😃🤟🌹🌹🌹🌹

สวย ทางขึ้นสะดวก มีไฟนำทางตลอดทาง ยิ่งถ้าอยู่บนเขาตอนพระอาทิตย์ขึ้น จะสวยมากๆ

ได้มาครั้งแรกค่ะรู้สึกได้ว่าที่นี้ศักสิทธิ์มากค่ะการเดินขึ้นลงเขาใช้เวลา5ชั่วโมงนั่นคือคุณต้องมีความมานะความศรัมธาล้นเปี่ยมจึงได้มาถึงจุดผ้าแดงได้ มีโอกาสไปอีกแน่นอนค่ะ

ปีนี้ขึ้นเร็วกว่าปกติปลายเดือนมกราคมอากาศดี เหมาะแก่การมาทำบุญกันทั้งครอบครัว ด้านบนมีหมอกตลอดทาง ตอนนี้ด้านบนไม่มีของขายแล้วทำให้ระหว่างทางดูสะอาดเป็นธรรมชาติมาก ทางเดินมีการแก้ไขให้ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยมากขึ้น แสงสว่างมีตลอดทาง

ปีนี้เป็นอีกครั้งที่ได้มาสักการะพระพุทธบาทพลวง ณ เขาคิชกูฎ ทางวัดได้ปรับปรุงทางเดินให้ผู้แสวงบุญเดินง่ายขึ้น ระหว่างทางเดินเป็นบันไดไม้ สลับทางปูน ไม่มีทางลาดชันเหมือนก่อน ไม่ต้องกลัวลื่นสะดุดใดๆ ทางเดินมีวิวเทือกเขาและอากาศเย็นสบาย โดยส่วนตัวชอบเดินทางจากบ้านคือ กทม. ช่วงเช้า เริ่มออกจาก กทม. 7 โมงเช้าขึ้นทางด่วนบางโคล่ วิ่งเส้นบางนา ชลบุรี บูรพาวิถีลงที่สุดทางชลบุรี ระหว่างทางมีแวะปั้มเข้าห้องน้ำซื้อของกิน 2 ครั้ง วิ่งเส้นเลี่ยงเมืองชลบุรี เข้าแกลง ไปถึง 3 แยกระยอง มุ่งหน้าจันทบุรี ถนนทำดีมากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มเลน วิ่งสะดวก ใช้เวลาเดินทางไปถึงวัดกะทิงประมาณ 10 โมงกว่า จากนั้นก็หาข้าวกิน และเข้าห้องน้ำ พอเสร็จแล้วก็เดินมาทางหน้าวัดเพื่อต่อรถกระบะ ถ้าขึ้นจากวัดกะทิงคือจ่ายเลย 200 ขาขึ้น 100 ลง 100 ไม่ต้องเปลี่ยนรถเหมือนขึ้นที่วัดพลวงด้านใน มีค่าผ่านทางเข้าอุทยานคนไทย (ผู้ใหญ่ 20/เด็ก 10) พอลงรถเราเริ่มเดินขึ้นเขาเวลาเที่ยง เดินไปถ่ายรูป ชมวิวไปอากาศสบายๆ เดินชิลมากๆ ใช้เวลาเดินแค่ 30 นาที ก็ถึงพระพุทธบาท จากนั้นก็สักการะไหว้พระไปเรื่อยๆ ตอนนี้ด้านบนไม่มีขายของ มีน้ำให้ดื่มฟรี ทั้งน้ำชา น้ำเปล่า ทุกอย่างสะอาดมากกว่าแต่ก่อนมากๆ ทั้งห้องน้ำ ทางเดิน ทางวัดบริหารจัดการได้ดีมากคะ

มา12ปีต่อเนื่องค่ะ ทุกอย่างดีค่ะ สะอาดปลอดภัย จนท.ดูแลเป็นอย่างดี มากราบรอยพระพุทธบาทค่ะ ขอพรสมหวังทุกปีค่ะ

บรรยากาสการขึ้นเขาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทช่วงวันหยุด ผู้คนก็ยังเนืองแน่นตลอดและทยอยกันมาแบบไม่ขาดสายพลังศัทธาในพระพุทธศาสนาทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาจากต่างจั่งหวัดใกล้ไกล การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาแม้จะเหนื่อยและลำบากเพียงไรแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่มาย่อท้อเลยเด็กตัวเล็กๆกระโดดโลดโผนด้วยความตื่นเต้นวัยหนุ่มวัยสาวต่างก็ปีนป่ายด้วยความมุ่งมั่นแม้กระทั่งผู้เฒ่าผู้แก่ต่างก็ค่อยๆเดินขึ้นด้วยใจที่ที่หนักแน่นเปี่ยด้วยแรงศรัทธาเมื่อขึ้นสู่ยอดเขาแล้วสิ่งที่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้นั่นคือความสงบสุขของจิตใจอากาสที่เย็นเต็มไปด้วยสายหมอกสวยงามครับ

วันพระใหญ่ 20 มีนาคม 2562ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสี่(๔) ปีจอ มีโอกาสขึ้นเขาคิชฌกูฏ ทำบุญกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ก่อนปิดฤดูกาล 5เมษายน 2562 หนุ่มขึ้นกราบไหว้ประจำเกือบทุกปีๆนี้พิเศษต้องเดินต่อจากรอยพระพุทธบาทขึ้นเขาฯไปอีก 1 กิโลกว่าๆจะถึงจุดสูงสุด บนสกายวอร์คเพื่อเขียนขอพรบนผ้าแดงครับ***จะให้พรสมปารถนาเกินครึ่ง และพรที่ขออย่าให้เกินความเป็นไปได้ แค่หมั่นคิดมองทำในสิ่งดีตามกำลังที่จะทำได้แค่นั้นเอง หนุ่มถึงต้องไปเขาคิชฌกูฏเกือบทุกปีครับ***

ผมเริ่มที่วัดพลวงครับ ซึ้งปกติที่วัดนี้ก็จะมีการจัดงานมีรถรับส่ง มีตลาดทุกปี เราจะต้องซื้อตั๋วคนละ100บาท เพื่อขึ้นรถไปยังจุดขึ้นเขาบันไดขั้นแรก ก่อนขึ้นก็จะมี พระพุทธรูปและรูปปั้น ต่างๆให้สักการะ มีจุดบูชาดอกไม้ธูปเทียน มีพระแม่ธรณี เราต้องกราบไหว้ เพื่อขอพรก่อนจึงเดินขึ้นไป ในระหว่างทาง มีทั้ง แบบเดินขึ้น และเดินลง สลับกันไป คดเคี้ยว ไปตาม แนวเขา แนะนำให้ไปกลางคืน เพราะอากาศจะไม่ร้อน แต่จะไม่ค่อยเห็นวิว แต่ไปกลางวัน จะร้อน แต่วิว ดี ขาขึ้น ตอนขับรถขึ้นมาถนนชันมาก ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ควรเอาผ้าปิดจมูกกันฝุ่นไปด้วย เพราะฝุ้นเยอะมาก ตอนรถวิ่งสวนกัน

มาด้วยแรงศัทธา มากราบไหว้ขอพรการเดินทางสนุกมาก สักครั้งนึง ในชีวิตที่ต้องมา

- การเดินทางสะดวกครับ นั่งรถต่อเดียวถึงจุดเดินเลย ค่ารถ คนละ 100 บาท- มีค่าเข้าอุทยาน 20 บาท (ไม่รวมอยู่ในค่ารถ)- เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดิน- พกน้ำคนละขวด- ผ้าเช็ดหน้า- งดถุงพลาสติก

ด้านล่างเป็นลานกว้าง มีพระสีวลีอยู่และพระแม่ธรณี และมีสิ่งมงคลอีกหลายอย่างให้เราได้กราบไว้ขอพรก่อน เดินขึ้นไปยอดเขาคิชฌกูฏ และเป็นสถานีจอดรถของทุกคันที่มาส่ง ผู้ส่งโดยสาร ซึ่งทางวัดจะไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นมา ต้องนั้งรถรับส่งขึ้นมา หากมีดอกไม้ ธูป เทียน ให้ไหว้ให้หมดตรงนี้ จะไม่อนุญาตให้นำขึ้นไปด้านบน จะมีแต่ผ้าแดงอย่างเดียวที่ให้เอาขึ้น มีผูกแผ่นทอง ไป บริจากตามศรัทรา เอามาเขียน ชื่อ วัน เดือน ปีเกิด ลงไปแล้วเอาไปห้อยไว้ในจุดที่กำหนดให้ คนจะเยอะมากจุดนี้อาจจะต้องใจเย็นอย่ารีบ และอย่า ขวางคนอื่น ไหว้แล้วก็รีบออกมา คนเยอะ

ไปทุกปี ปีนี้ประทับใจในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ไปแสวงบุญ​อยากให้ทำดีๆแบบนี้ตลอดไป

เป็นสถานที่มีความขลังในตัวน่าเลื่อมใส

ขึ้นเขาตอนเช้าก็ดีเหมือนกันอากาศไม่ร้อนมากเย็นสบาย ข้างบนไม่ให้นำดอกไม้ธูปเทียนขึ้นแล้วนะครับและควรเตรียมน้ำดื่มและเสบียงนิดหน่อยขึ้นไปด้วยก็ดีนะครับใช้เวลาไม่นานเหมือนหลายๆปีก่อนแล้วโดยรวมดีขึ้นเยอะครับ แนะนำมาวันธรรมดาดีกว่าเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะครับ

เขาคิชฌกูฏ แนะนำ ให้ มาวันธรรมดา คนจะน้อยแต่ถ้าขึ้น เสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะมาก เพราะคนต่างจังหวัด มาสักการะ เป็นรถตู้ รถบัสขึ้นประมาณ ตี3 ถึง ประมาณ ตี5 ถึง 6 โมงเช้า เห็นบรรยากาศ พระอาทิตย์ขึ้น และ มีหมอก ตามทางเดิน เหมือน อยู่บนสวรรค์ จริงๆแนะนำให้ไหว้ขอพร เพียง 1 อย่าง เค้าบอกต่อกันว่า ศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จ ก็ ต้องกลับมาไหว้ อีกครั้งค่ะ ลองดูนะคะ

การเดินทางขึ้นเขานั้นจะมีรถบริการ นำส่งขึ้นไปบนเขาทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก ค่าบริการนำขึ้นก็ประมาณ 1-2 ร้อย ต่อคน จำตัวเลขนิ่งๆไม่ได้ เเต่คุ้มค่าครับเพราะเดินขึ้นเขาาลากเเน่ๆ เเต่ก็มีคนเลือกที่จะเกินขึ้นเขาครับเป็นสปิริตที่เเรงกล้ามากจริงๆ การเดินทางควรจะขึ้นตอนเช้าๆครับจะได้ไม่ร้อนเพราะต้องเผื่อเวลาเดินขึ้นเขาต่อ เพื่อไปกราบนมัสการรอยพระบาททางด้านบนเเละหากสนใจไปผาผ้าเเดง ก็ต้องเดินต่อเข้าไปอีกพอสมควร การเดินขึ้นเขาผมเเนะนำให้เป็นรองเท้าผ้าใบหุ้มส้นครับ จะช่วยเซฟขาในการเดินเพราะเนื่องจากมีไอนำ้ลงทำให้ทางเดินบางช่วงค่อนข้างลื่นครับ สำหรับใครที่เดินขึ้นเองไม่ไหวก็มีบริการเสลี่ยงเเบกหามขึ้นเขาครับ เเต่การเดินขึ้นก็ช่วยให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีครับ อากาศบนเขาดีมากเย็นสบาย สดชื่น อย่างไรอยากมให้ระวังเรื่องขยะที่ติดตัวขึ้นไปควรทิ้งให้เป็นที่เป็นทางนะครับ ไปไหว้กราบสักการะด้วยใจที่สะอาดก็อย่าไปทิ้งขยะให้เหลือเป็นร่องรอยความสกปรกเเก่พื้นที่ จะได้ครบทั้งสะอาดใจ สะอาดกาย สะอาดตา ครับปล.มีอาหารโรงเจเลี้ยงครับ สะอาด อร่อย ดีมากๆครับขออนุโมทนาสาธุเเก่บรรดาเจ้าหน้าที่เเละผู้ร่วมถวายเงินเเละข้าวสารอาหารเเห้งในการประกอบอารหารเเก่ศรัทธาญาติโยมที่เดินทางไปกราบสักการะครับ.

อิ่มบุญ..อิ่มบรรยากาศ..งดงามเหมือนไปเที่ยวเมืองเหนือ

การบริหารจัดการเรียบร้อยดี แม้จะมีคนจำนวนมาก พื้นที่เรียบร้อย

มาทุกปี พัฒนาดีขึ้นทุกปีค่ะทางเดินสะดวกเดินง่าย และสะอาดขึ้นทุกปีเลย

ได้มีวาสนา ขึ้นสักการะเขาคิชฌกูฏ ในครั้งที่ยังไม่เปิดให้ใครได้ขึ้น

จุดขึ้นลง รถของวัดพลวงและวัดกระทิง รถขนส่งเยอะมาก เดินระวังรถ คิวรถ ไม่ต่อแถว ไม่เป็นระเบียบ แซงกัน รถขับดี แต่ทางหวาดเสียว ทางชัน นักขับฝีมือครับ

ด้วยแรงแห่งศรัทธา ปรารถนาสิ่งใดสำเร็จดังหวัง

วันที่รีวิวคิอ 27 มค 2561 ผมขึ้นเขาคิชกูฏครั้งที่สอง (มาวักพลวงคนั้งที่สี่) ปีนี้สำหรับผู้จะขึ้นเขาขอแจ้งข้อมูลคร่าวๆดังนี้ จอดรถที่วัดพลวงนะครับ ที่จอดพอมีถามเจ้าหน้าที่เขา ถ้ามากลางวันอาจจะหาที่จอดยาก มีที่รับฝากครับ จ่ายตังค์ ค่ารถ คนละ100 ถึงลานพระสิวะลีเลย พระ แม่ชี เด็กเล็กฟรีคนชราไม่แน่ใจ ทางขึ้นชันมากนะครับ ขอพรพระก่อนขึ้นก็ดี(ตามความเชื่อ) ใครจะเดิน มีแรงก็เดิน ขึ้นรถมาได้ประมาณหนึ่งกิโลเมตร เจอด่านอุทยาน ค่าเข้า20ต่อคน เด็ก คนชราฟรี ดอกไม้ ธูปเทียนห้ามนำขึ้นจากลานพระสีวลีครับ ใครเอามาเยอะวางถวายที่ลานก่อนขึ้นเขานะครับ ถ้าเยอะเสียดายของ แผ่นทองกับพลอยนำขึ้นไปรอยพระพุทธบาทได้ อาหาร น้ำ จัดเตรียมขึ้นไปเองนะครับไม่มีขาย น้ำมีแบบตู้กดบริการบริเวณศาลารอรถข้างลานพระสีวะลี มีบริการเสลี่ยงหามขึ้นนะครับค่าบริการขึ้น1000ลง1000 สำหรับผู้สนใจซื้อพริกไทย ถามหลายๆร้านนะครับ บางร้านพริกไทยดำกิโลกรัมละ 350 บางร้าน500บาท ร้านอยู่ตรงข้ามรถขึ้นเขาราคาถูกดี ลอตเตอรี่ขายกันเกินราคานะครับ

ปี 2562 เขาเปิดถึงวันที่ 5 เมษายนนี้นะครับ ข้างบนอนุญาติให้นำของขึ้นไปได้แค่พลอยกับผ้าแดงเท่านั้น ส่วนดอกไม้ธูปเทียนห้ามจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตรงทางเดินขึ้น

การบริหารจัดการของคณะกรรมการวัดและ อุทยาน โดยรวม ดีมาก สะอาด สะดวก ปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวกทุกจุด

แสวงบุญในแบบผจญภัย​แต่ได้ความรู้สึกที่ดีๆต่อใจ✍️✍️

การจัดระเบียบบนเขา ดีมากคับ เดินง่าย ไม่อันตรายมาก และตั้งแต่มีการออกระเบียบว่า ห้ามนำดอกไม้ ธูป ไปโปรยหรือปักตามรายทาง ห้ามร้านค้าขึ้นไปขายของ เมื่อสองปีก่อน บนยอดเขาคิชฌกูฏ ดีคับ เห็นด้วย ช่วยรักษาสภาพผืนป่าและธรรมชาติได้ดีมาก (แต่ต้องเดินอย่างมีสติและระมัดระวังด้วยคับ เพราะบางช่วง อาจเจอรากไม้ หรือ ทางบันไดทรุดตัว และน้ำขังบางจุด เพราะน้ำค้าง หรือฝนตกในบางที ทำให้ทางเดินลื่นบ้าง แต่โดยรวม ถือว่าดีคับ)

จุดขึ้นเขาคิชกูฎ จะเป็นจุดที่รถมาส่งจากคิวรถ 2 คิวคือวัดกระทิงและวังพลวงเราเลือกวัดกระทิงใช้เวลานานกว่าวัดพลวงนิดหน่อยเพราะอยู่ไกลกว่า ค่าขึ้นลงเขาจุดนี้ค่าใช้จ่สยคนละ200บาท จ่ายไปเถอะระยะทาง 9กิโล เป็นระยะที่ไกลและชันมากและพอตอนนี้เป็นการขึ้นรถต่อเดียว ทำให้เราหมดโอกาสที่จะได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงจุดจอดนถขั้นที่ 1ไปเลยการที่เราขึ้นรถจากวัดกระทิง. ทางวัดจะให้ป้ายห้อยคอแทนคูปองรถ เมื่อเราเดินลงเขามาก็ต้องเอาป้ายห้อยคอไปเปลี่ยนเป็นคูปอง ซึ่งคูปองจะเขีบนคิวที่จะได้ขึ้นรถลงเขาเท่าที่ไปก็รอไม่นานเพราะมีการตีรถเปล่าขึ้นมารับลูกค้าตลอด

ต้องใช้ความมุ่งมั่นเพื่อให้ได้ไปสักการะสถาณที่นี้

เดี๋ยวนี้การเดินทางขึ้นเขาสะดวกขึ้นมาก มีรถรับส่งตามจุดขึ้นรถเพียงพอ ทั้งวัดพลวง กับวัดกระทิง ทำให้รอไม่นาน

ขับรถไปจอดที่ลาดจอดรถ จากนั้นต้องขึ้นเข้าด้วยรถโดยสารเท่านั้น แล้วเดินขึ้นบันไดต่อไปประมาณครึ่ง-1 ชั่วโมง (หรือนั่งคานหามรับจ้างได้ถ้าไม่อยากเดิน) ระหว่างทางอากาศเย็นสบาย. ต้องนำน้ำดื่มติดตัวไปเพราะข้างบนเขาไม่มีน้ำขาย.

มึรถขึ้นลงสองจุด ที่วัดกระทิงตีตั๋วไปกลับ 200 บาท อีกที่ วัดพลวง ขาขึ้น 100 บาท ขาลง 100 บาท สามารถเดินขึ้นจากข้างล่างไปใช้เวลาประมาณ 6-8 ชม.

จอดรถที่วัดกระทิง จ่ายค่ารถขาขึ้น-ขาลง 200 บาท จ่ายค่าเข้าอุทยาน 20 บาท แนะนำให้ขึ้นก่อนเช้าซัก ตี3-4 ขึ้นถึงยอดเขาจะเช้าพอดี ได้ชมหมอกและอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า แถมไม่ร้อนตอนตอนขึ้น-ลงเขา 1 ปีเปิด 2 เดือน มาขอพร,มาเที่ยวกันครับ

ทิฟเดินแสวงบุญกราบรอยพระพุธทบาทระหว่างที่เดินนั้นสำผัสได้ถึงความล้าในการเดินเเต่อากาศก็สดชื่นเย็นสบายเราก็มุ่งมั่นเพื่อที่จะไปให้ถึงระหว่างทางก็เดินบ้างนั่งพักบ้างแต่เราก็ไปถึง

เดินทางมาเขาคิชฌกูฏครั้งแรกกับ ขส.มก. สะดวกดี บริการดี กะว่าจะมาอีกปีหน้ามากันทั้งหมด11คันรถ ไม่ช้านะการจัดการเค้าดีแวะเขาสุกิมกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงก่อนขี้นเขาคิชฌกูฏด้วยมีแต่คนถามว่าจะเดินขึ้นเขาไหวมั๊ย บอกเลยว่าไม่ยากเท่าไหร่นั่งรถขื้นเขาก็สนุกดีเขาคิชฌกูฏแปลว่า นกแร้งกระพือปีก

เป็น​จุดที่เริ่มต้นเดินขึ้นเขาประมาน1กิโลฯได้มีช่วงลาดชัน​ เเละลานกว้าง​ มีที่พักเหนื่อยตลอดทาง​ มีห้องน้ำหลายช่วงสบายมากครับพอใกล้ถีงยอดเขามีทั้งชาให้จิบ​ น้ำมะตูม... บรรยากาศ​ดีอย่าบอกไครเย็นสบายไม่ร้อนเลย​ ยิ่งจุดที่ต้องเดินขึ้นไปผ้าเเดงลมเย็นดีมาก

จุดขึ้นลงรถรับส่ง จัดได้เป็นระเบียบ ขึ้นมาตอนตีสาม คนเยอะมาก แต่ไม่มีปัญหาการหารถ ค่ารถจากวัดกระทิง ไปกลับ 200บาท รวมค่าผ่านทาง อช แล้ว ขากลับให้เอาบัตรไปแลกบัตรคิวรถก่อน

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกคนมาด้วยใจและแรงศรัทธา

ดีครับ.. อช.คิชกูฏ​ ชาวบ้าน ผู้ให้บริการ แม่ค้า น่ารักทุกคน เส้นทางดี

ขึ้นเมื่อ 23/2/2562เวลา 8:16 เริ่มเดินขึ้น ถึง 9:15 นาทีเดิมมาเรื่อยๆ แวะทำบุญตามทางมีที่นั้งพัก มีชา กาแฟบริการมียาดมแจกด้วยครับ

การ​ขึ้นไป​สักการะ​รอย​พระ​พุทธ​บาท​บน​ยอด​เขา​คิชกูฎ​หนึ่ง​ปี​มี​เพียง​3​เดือน​ คนเยอะเดินขึ้น​เขา​ตลอด​24ชม.​ ศักดิ์สิทธิ์มาก​

ครั้งแรกที่ขี้นครับ เป็นการทดสอบสุขภาพของเราได้ดีเลยว่าเรายังอยู่ต่อได้อีกนาน

สถานที่ที่ควรไปสักครั้งต่อปี รอยพระพุทธบาท สาธุๆๆคะ

สุดยอดแห่งการเดืนทางเพื่อไปแสวงบุญและรวมทั้งการท่องเที่ยวไปด้วยการเดินทางที่แสนจะต้องจดจำไปนานแสนนานกับ102โค้งอันตรายและระหว่างทางขึ้นจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้สักการะตลอดการเดินทางครับ

ไปมา 3 ครั้งแล้วค่ะ สามารถเดินไปได้ จากจุดด้านข้าง กลางวันก็ไปได้ค่ะ แต่อากาศร้อน แนะนำเดินกลางคืนค่ะ นั่งรถไป เสียค่ารถคนละ 100 แล้วก็เดินต่อไป เค้างดดอกไม้ธูปเทียนด้านบน แต่ไหว้ได้สำหรับจุดแรกเท่านั้น แนะนำให้ซื้อธูปเทียนจากบ้าน จะดีกว่าค่ะ ราคาถูกกว่า ค่อยมาซื้อผ้าแดง กับพลอยที่นี่เอาค่ะ เคยซื้อ ธูป เทียน ดอกไม้ พลอย ผ้าแดง หมดไป 300 กว่า

กราบสักการะ รอยพระพุทธบาท เพื่อความเป็นศิริมงคลกับชีวิต

ต้องมาสักการะรอยพระพุทธบาทให้ได้สักครั้ง

ผมขึ้นรถที่จุดวัดพลวงค่าขึ้นเขา100ลงอีก100ดีครับ บรรยากาศดีมากบนยอดเขา มีห้องน้ำ เป็นระยะ มีจุดพักตามทางตลอด

แนะนำมา ตามรอยพระพุทธบาท เสริมดวงให้ชีวิต คิดสิ่งใดสมหวัง ขาขึ้นมาจะมีหวาดเสียวนิดนึง

สนุกมากๆครับแต่เหนื่อยพอสมควร

28/2/62 มาวันธรรมดาตอนกลางคืนอากาศเย็นสบายดี เดินขึ้นเขาไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร มีหมอกลงตลอดเวลา ยิ่งสูงยิ่งดึกหมอกยิ่งหนา ฟ้าเปิดเป็นพัก ๆ ขึ้นมาทุกปีครับ

เหนื่อยแต่ก็คุ้ม แนะนำให้เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนไปนะครับและไปช่วงเที่ยงคืนจะไม่ร้อนมากแต่ถ้าต้องการดูวิวก็ต้องไปกลางวันครับ

ปีนี้เปิด5 กุมภาถึง5เมษานะค่ะ,รีบๆไปกันนะค่ะ

ตอนนี้ทางเดินสะดวกขึ้นมากโชคดีตอนขึ้นไปหบังฝนตกช่วงเย็น อากาศดีมา

มาถึงคืนเสาร์ได้คิวขึ้นเขาวันอาทิตย์ประมาณ10โมง คนเยอะมากมาย แนะนำถ้ามามาวันธรรมดาดีกว่า เราได้กลับถึงบ้านสี่ทุ่มวันอาทิตย์ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ลาล่วงหน้าเลยวันจันทร์

เป็นครั้งแรกที่ได้ขึเนไปที่เขาคิชฌกูฏแห่งนี้อากาศก้อดีสวยมากและอิ่มบุญที่ได้ขึ้นไปไม่มีความรู้สึกว่าเหนื่อยหรือว่าเมื่อย

ธรรมชาติสุดๆกับการทำบุญที่มีความสุข

ดีมากครั้งหนึ่งในชีวิตได้ไปอย่างที่ตั้งใจไว้ บรรยากาศดีคนเยอะ

เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยค่ะ ได้มีโอกาสทำบุญ สักการะรอยพระพุทธบาท เป็นการขึ้นเขาครั้งแรก ที่เดินทางระยะไกลมาก ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ท้าทายกับการขึ้นรถกระบะ ผู้คนหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย

อากาศดีมาก ถ้าไปวันหยุดคนจะเยอะมาก มีค่าบริการรถขึ้นเขา 100 บาท ลงเขา 100 บาท ค่าเข้าอุทยาน 20 บาท

การจัดการทางวัดค่อนข้างดีมากแต่คนมามากจริง เบียดเสียดกัน ไม่ค่อยได้แวะทำบุญไหว้พระเท่าไหร่

ประทับใจ โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นเขาแนวผจญภัยครับ อากาศเย็นเหมือนอยู่สรวงสวรรคครับ ทางขึ้น มี 2 สถานี รถโดยสาร 1).วัดกระทิง มีที่นอนฟรี ก่อนขึ้นเขาครับ ส่วนสถานีจอดรถขึ้นอีกวัดอยู่ใกล้ทางขึ้น

เเคนเดินขึ้น หนักเหมือนกัน ครับ มาที่นี่ เเค่เดินข้างบนอย่างเหนื่อยเเล้ว

ไปวันธรรมดา คนไม่เยอะ เดินไปพักไป ขอพรได้ 1 ข้อเท่านั้นนะคะ ระหว่างทางมีให้ร่วมทำบุญตลอดค่ะ^^

ทางเดินค่อนข้างชันและเดินยากสักหน่อย แต่พอขึ้นถึงรอยพระพุทธบาทอากาศดีมาก สมกับที่เดินจนเหนื่อย ไปแล้วต้องไปให้ถึงผ้าแดงนะ

แนะนำเอาขวดน้ำขึ้นไปคนละ2ขวดเล็ก เพราะตามทางไม่มีน้ำขายเหมือนสมัยก่อน ดอกไม้ไม่มีขายเอาขึ้นไปไม่ได้โดนจุดสกัด ไม่ต้องนำไปครับ

เป็นสถานที่​ควรไปสักการะ​บูชา​กับสิ่งมหัศจรรย์​ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้ง​อดีต พร้อมกับชื่นชมธรรมชาติ​ของไม้นานาพันธุ์​ระหว่างการเดินทาง

โดยรวม การเปิดขึ้นจะคนเยอะอยู่เเล้วค่ะ เเต่พอฝนตกทำให้ทางขึ้น ลงเป็นโคลน ลื่นมาก ส่วนใหญ่คนอายุมากลื่นค่ะ อันตรายหน่อยค่ะ ถ้าใครจะไปเเนะนำให้ใส่รองเท้าที่ไม่ลื่นเเละยึดเกาะดีหน่อยนะคะ

ไปสัมผัสสักครั้งนึงแล้ว จะเข้าใจ ว่าเป็นเช่นไร

ช่วงนี้คนเยอะมาก ทางอุทยานก็พยายามบริการอย่างดีที่สุด

บางความรู้สึก ต้องไปสัมผัสเองเที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้

เคยไปตั้งแต่ปี 2014 , 2015 , 2016 , 2017 ไปอีกที 2019 เปลี่ยนไปเยอะ ผ้าแดงก็เปลี่ยนจุด ระยะทางที่จะไปผ้าแดงสั้นมาก จุดที่จะไปขอโชคจากเจ้าแม่ตะเคียนก็หาย จุดชมวิวบนก้อนหินยักษ์ก็หาย ตัดจบอยู่ที่จุดบาตรพระอานนท์ทำเป็นจุดผ้าแดงเฉยเลย ทำให้รู้สึกเหมือนไปไม่ถึงผ้าแดง

ได้มากราบรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฎอีกครั้งหนี่ง บรรยากาศร่มรื่นด้วยแมกไม้ อากาศเย็นสบาย อิ่มเอมใจ ได้ทำบุญด้วย ขอบคุณครับ

ชอบคะ เป็นเหมือนด่านทดสอบแรงศรัทธา ทางขึ้นลำบาก ชัน และไกล แต่พอขึ้นไปถึง จะเกิดความภูมิใจที่สามารถทำได้

เขาคิชฌกูฏ เปิดฤดูให้ขึ้นไปสักการะ รอยพระพุทธบาท ผู้คนมากมายครับ เลือกช่วงเวลาวันธรรมดาเดินทางไปดีที่สุดครับ

อากาศดีไหว้พระขอพรเขาคิชณกูฏ

ขอพรได้1ข้อต่อปีนะครับ

ทางเดินขึ้นเขาไปกราบพระพุทธบาท ไปกลับประมาณ3km เจรียมตัวให้พร้อม

น่าสนุก.. ไม่ร้อนมาก.ขึ้นตอนเช้าดีมาก..

น่าประทับใจมากมีโอกาสขึ้นใหม่ๆอีกครั้งครับ รู้สึกสบายใจ

เป็นที่ๆทุกคนต้องมา

เดินทางไปกับ ข.ส.ม.ก.ไหว้พระขี้นเขาคิชฌกูฎเดินจนขาเปลี้ยแต่ก็ถึงเป้าหมายไหว้รอยพระพุทธไม่น่าเชื่อเดินไปถึงจุดหมายปลายฝันคือผ้าแดงต่อจากนั้นได้ไปวัดเขาสุกริมทำบุญไหว้พระที่วัดถึงกับหมดแรงเดินสงสัยต้องยกธงขาวอยู่กับบ้านแต่สนุกและมีความสุขการเที่ยวเดินทสงกับ ข.ส.ม.กขอขอบคุณกับสิ่งดีๆที่มอบให้.ขอให้มีความสุขครับ.

จากลานพระศิวลี ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปเป็นระยะทางประมาณ 1.2 ก.ม. ถึงจะถึงรอยพระพุทธบาท

ก็คือตื่นเต้น..เพราะไม่เคยไปแต่ใจก็อยากไปกราบส้การะ.สักครั้ง.และก็มีโอกาสได้ไป.รู้สึกสุขใจและปลาบปลื้มมากที่สุด.ที่ไปถึงจุดที่สุงที่สุดที่ใครๆอยากไป....

คนเยอะมากครับตอนดึกๆ แนะนำขึ้นช่วงเย็นๆ คนน้อย

15 มี.ค.61 เวลา 06.20 น.นั่งรถออฟโหลดมันมาก 07.00 น. เดินจากจุดเดินที่1 ถึงจุดที่9เสื้อผ้าเปิยกครึ่งตัว พักรอคณะ...

จากที่เคยได้ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขา คิชฌกูฏ ในทุกๆปี ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นตลอด ทั้งการขึ้นรถกระบะที่ไม่ต้องเสียเวลาต่อรถกลางทาง ทั้งทางเดินขึ้นเขาตอนกลางคืน สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนเยอะ มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลและบริการได้ดีมาก รวมๆแล้วก็ยังเป็นอีกที่ ที่ต้องมาทุกปีครับ

เยี่ยมมากครับ เหนื่อยนะ แต่อิ่มบุญ แถมอากาศดีงาม

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธใน 1 ปี เปิดให้ขึ้น 60 วัน เท่านั้น

คนเยอะมากๆตลอดทั้งวัน อากาศดีแต่เริ่มเป็นวัดในเชิงธุรกิจขึ้นทุกวัน

ปรับปรุงสถานทีดีทุกปีครับ มีโอกาสอยากให้มาทดสอบความเหนื่อยล่า ความลำบาก ผ่านจุดนี้ไปำด้คุณก้อหายจะเหนื่อย

คนพลุกพล่าน ไม่ค่อยมีระเบียบ ถึง จนท จะพยายามทำให้ดีขนาดไหน ก็ดูแลลำบาก