ขับรถส่วนตัวจากกรุงเทพไปที่ บ้านอีต่อง-เหมืองปิล๊อก ประมาณ5-6 ชั่วโมงค่ะ สิ่งที่น่าห่วงสำหรับคนขับรถมาเที่ยวเองคือช่วงถนนจาก อำเภอทองผาภูมิมายังบ้านอีต่องนี่แหละ ตรงนี้คือถนนที่ไต่ขึ้นภูเขาขึ้นไป โดยรวมของถนน ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ชัน และโค้งน่ากลัวมาก แต่ความพีคมันอยู่ที่หลุมและบ่อบนถนนเป็นพันๆหลุมนี่แหละ ถ้าใครที่มาช่วงหน้าฝนแล้วเจอแจ็คพ็อตช่วงฝนตกพอดี ทั้งต้นไม้ล้มขวางถนน อันนี้คือคือความโหดของมันแหละ ดังนั้น แนะนำว่าให้ขับรถอย่างระมัดระวัง และใจเย็นๆ ค่อยๆขับเนอะ และอีกเรื่องที่ต้องบอกคือ แนะนำให้เติมน้ำมันให้เต็มถังที่อำเภอทองผาภูมิก่อนไต่เขา เพราะเมื่อเราเลยอำเภอและขึ้นเขามาแล้ว ด้านบนไม่มีปั้มน้ำมันค่ะข้างบนมีโฮมสเตย์ให้พักเยอะมาก และมีร้านอาหารจิ้มจุ่มหมูกะทะ ฟินสุดๆๆ เราไปช่วงหน้าฝนเลยไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ เพราะฝนตกและหมอกลงตลอดทั้งวัน ได้แต่นอนอยู่ที่บ้านพักค่ะ555555
เหมืองปิล๊อคหรือหมู่บ้านอีต่องเป็นดินแดนที่เคยรุ่งเรืองในอดีต อยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางผ่านเส้นทางคดเคี้ยวตามไหล่เขาหลายชั่วโมง แต่ก็คุ้มค่ากับเมืองเล็ก ๆ น่ารักแห่งนี้นะคะ โฮมสเตย์เรียงรายราคาไม่สูงจนเกินไป ร้านอาหารเล็ก ๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป รวมถึงของฝากจากพม่าที่หาซื้อกันได้ ณ หมู่บ้านแห่งนี้ด้วยค่ะ
เมื่อก่อนเป็นเหมืองเก่าปัจจุบัน เปิดเป็นแบบรีสอร์ทให้บุคคลทั่วไปเข้าไปพักได้ หมู่บ้านนี้อยู่บนภูเขา มีเมฆหมอกตลอดเวลา บรรยากาศดี ปกคลุมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ติดชายแดนพม่า มีทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทาง อยู่ในอำเภอทองผาภูมิ ทางเข้าลำบากสักนิด ควรเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนขึ้นFormerly an old mine It is now open as a resort for the general public to stay. This village is on the mountain. There is a fog all the time, the atmosphere is good, covered with various trees. Border Burma There are beautiful scenery along the way. In Thong Pha Phum District The entrance is a little difficult. Should fill the tank before going up.
ถ้าเป็นไปได้ควรจัดสรรเวลามาเที่ยวอย่ามาช่วงวันหยุดและเทศกาล..เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก..จะไม่เป็นตามความคาดหวังที่ปิล็อกของคุณ..ผมว่าความดิบ..ความธรรมชาติของหมู่บ้านมันลดลง..อาหารไม่หลากหลาย..ที่พักถ้าคุณอยากเงียบสงบควรจองพวกHomestay ด้านทางเข้าหรือกางเต้นแถวลาน สภ...ส่วนท่องเที่ยวช่วงโควิด เนินเสาธงปิด..จะมีแต่รถนำเที่ยวอุทยานทองผาภูมิ,น้ำตกจ็อกกระดิ่น,เนินช้างศึก,ชมเหมือง,วัดเหมืองปิล็อก, สะพานแขวนป้าย,.ปล.ใครที่เป็นคอกาแฟ ผมว่าน่าจะมีแค่ร้านKoKro cafe..ที่พอทดแทนได้ .มีมันบดอร่อยมากๆ..เจ้าของคุยกันเองมาก..ส่วนร้านเค้กในตำนานชื่อร้านชาวเหมืองเค้กปิล็อก อยู่ปากทางเข้า..มีกาแฟที่เค้าปลูกเองด้วย..
บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาแห่ง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต หลังจากตำนานอันรุ่งโรจน์ได้ปิดตัวลง คงไว้ซึ่งหมู่บ้านท่องเที่ยวยอดฮิต ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ เหมือนมีมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวผู้โหยหาธรรมชาติ เดินทางเข้ามาสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะได้พบกับภาพไอหมอกปกคลุมทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นภาพที่โรแมนติกงดงามมากจากตัวเมืองทองผาภูมิ เริ่มเข้าสู่ตำบลปิล๊อคผ่านเส้นทางที่ไปยังหมู่บ้านอีต่อง เป็นถนนที่เริ่มคดเคี้ยวในหุบเขา ช่วงแรกเป็นถนนลาดยางอย่างดี แต่พอผ่านไปสักพักจะได้พบกับถนนที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง บางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อที่ระยะทางค่อนข้างยาวพอสมควร ต้องขับรถอย่างระมัดระวังกันนิดนึง ก่อนเดินทางให้เติมน้ำมันมาให้พร้อม เพราะเส้นทางเป็นภูเขาไม่มีปั้มใดๆ ไปจนถึงหมู่บ้านการเดินทางไปยังหมู่บ้านอีต่องโดยรถยนต์ จากตัวเมืองกาญจนบุรี – อำเภอทองผาภูมิ 146 กิโลเมตร จากตัวอำเภอทองผาภูมิ – เหมืองปิล๊อก ประมาณ 70 กิโลเมตร เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) เส้นทางจะต่อกับเส้น 3272 เข้าอำเภอทองผาภูมิ วิ่งผ่านตัวอำเภอ (ตัวอำเภออยู่ทางขวา) เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านไร่-ปิล๊อก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางปิล๊อก จากจุดนี้จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมาประมาณ 13 กิโลเมตร มาถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง เหมืองสมศักดิ์ เนินช้างศึก เส้นทางนี้จะไปสุดทางที่หมู่บ้านอีต่องเส้นทางจากทองผาภูมิไปยังตำบลปิล๊อกคดเคี้ยวและถนนแคบเลนเดียว แต่ทางไม่ชันมาก รถทุกชนิดสามารถขับได้ แต่ถนนบางช่วงชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ เพื่อความปลอดภัยควรใช้ขับรถด้วยความเร็วต่ำและระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนโดยรถประจำทางมีรถโดยสารสีเหลืองทองผาภูมิ – อีต่อง จอดตรงตลาดทองผาภูมิ รถออกเวลาประมาณ 10.30 น. ค่าโดยสารคนละ 70 บาท(หากนั่งรถบขส. 999 จากกรุงเทพฯ – ด่านเจดีย์สามองค์ ต้องขึ้นรถเที่ยว 5.00 น.)– ออกจากหมู่บ้านอีต่อง มีสองเที่ยวคือ เวลาประมาณ 6.30 น. และ 7.30 น.
เมืองที่น่าหลงไหล
หมู่บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยพม่า ทางฝั่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีการทำเหมืองแร่มาแต่สมัยโบราณ โดยมีผู้ประกอบการทำเหมืองแร่หลายแห่งในหมู่บ้านแห่งนี้ซึ่งปัจจุบันนี้เหมืองแร่ได้ปิดตัวลงไป เหลือไว้เพียงสถานที่ท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านอีต่องเท่านั้น ซึ่งที่นี่ถือเป็นอันซีนไทยแลนด์ที่ซุกซ่อนอยู่หลังม่านหมอกของจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียวครับการเดินทางขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่องจากตัวเมืองกาญจนบุรีใช้เส้นทาง กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ โดยตลอดเส้นทางจะเป็นทางลาดยางอย่างดี แต่เมื่อมาถึงช่วงที่เป็นทางขึ้นเขาสู่หมู่บ้านอีต่อง ประมาณ 30 กิโลเมตรทางจะค่อนข้างอันตรายมีความแคบและถนนขรุขระเป็นบางช่วง ผู้ขับขี่รถขึ้นไปเองควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างสูง และต้องมีความชำนาญในการขับขี่ แต่ก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไปในการขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่องแม้เส้นทางอาจจะดูทุลักทุเลต้องผ่านเส้นทาง 399 โค้ง และใช้เวลานานมากจากตัวเมืองมาถึงบ้านอีต่อง แต่นักท่องเที่ยวทุกคนก็ต่างมีความตั้งใจที่จะเดินทางมาให้ถึงบ้านอีต่องให้ได้ เพราะเหตุใดที่นี่ถึงกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสิ่งแรกเลยที่เราจะสามารถสัมผัสได้ตลอดทางที่มาบ้านอีต่องนั่นก็คือธรรมชาติป่าไม้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์มากๆ ทุกพื้นที่ระหว่างขึ้นสู่บ้านอีต่องผ่าน 399 โค้งนั้นเต็มไปด้วยความเขียวขจีตัดกับหมอกสีขาวขุ่นๆ ที่ลอยอยู่เหนือพื้นถนนตลอดทางบ้านอีต่อง ที่เที่ยวกาญจนบุรีแห่งนี้จะมีที่พักให้บริการอยู่มากมาย โดยส่วนมากผู้คนนิยมที่จะไปพักกันบริเวณริมบ่อน้ำตรงกลางหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คประจำหมู่บ้านอีต่องเลยก็ว่าได้ บรรยากาศดีสุดๆตลอดวันเราจะได้เห็นสายหมอกไหลเวียนอยู่เหนือผืนน้ำ บางช่วงมีฝนตกลงมา และเมื่อฝนจางหายไปจะเหลือไว้เพียงความสดชื่นในแบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน มาพักผ่อนที่อีต่องจะรู้สึกได้ถึงโอโซนอย่างเต็มที่กหนึ่งจุดไฮไลท์ที่อยากจะแนะนำให้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูปก็คือบริเวณเหมืองปิล็อก ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเหมืองเก่า ปัจจุบันยังคงหลงเหลือ เครื่องมือทำเหมืองโบราณ และยานพาหนะที่ใช้ทำเหมืองไว้อยู่โดยรวมแล้วบ้านอีต่องแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาสัมผัสด้วยตาตนเองสักครั้งจริงๆ ครับ ธรรมชาติที่ยังคงดิบและสมบูรณ์ของที่นี่ อากาศที่บริสุทธิ์เย็นสบาย ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรโลเคชั่นสวยๆ ในการถ่ายภาพ รวมไปถึงสายหมอกที่โอบล้อมพร้อมปะทะกับทุกคนที่มาเยือน เป็นดินแดนในฝันที่ไม่ไกลเกินความตั้งใจของนักท่องเที่ยวทุกคนครับที่ตั้งบ้านอีต่อง : ตำบล ปิล็อก อำเภอ ทองผาภูมิ กาญจนบุรีการเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านอำเภอทองผาภูมิ ไปสู่หมู่บ้านอีต่อง ใช้เวลาประมาณ 3.30 จากตัวเมืองกาญจนบุรีเดินทางโดยรถส่วนตัว : จากขนส่งกาญจนบุรี ต่อรถประจำทาง กาญจนบุรี - ทองผาภูมิ มาลงที่ตลาดทองผาภูมิ จากนั้นต่อรถสองแถวจากตลาดทองผาภูมิมาลงที่บ้านอีต่องข้อควรระวัง : ทางขึ้นเขาสู่บ้านอีต่องมีความคับแคบและทางขรุขระ ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการขับรถ และที่บ้านอีต่องนั้นมีอาการเปลี่ยนแปลงบ่อยควรเตรียมร่มและเสื้อกันหนาวไปด้วย
หมู่บ้านเล็กๆ เงียบสงบ ผู้คนอัธยาศัยดี วันหยุดยาวจะมีคนมาท่องเที่ยวกันเยอะถนนทางเข้าหมู่บ้านทางคดเคี้ยว
เข้าไปเที่ยวช่วงหน้าฝน ต้นไม้สองข้างทางเป็นป่าเขียวขจีทางเข้ายังเป็นหลุมเยอะ ถนนยังไม่ค่อยดี ขับรถระมัดระวังเป็นพิเศษในหมู่บ้านอีต่องจะมีหมอกปกคลุมไปทั่ว บรรยากาศยามฝนปรอย อากาศเย็นๆ ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ช่างแสนโรแมนติก.ยามกลางวัน ชมหมอกขาว สลับกับฝนปรอย พกร่มไปกางสักคัน เดินจับมือกันท่ามกลางม่านหมอก.ในยามค่ำคืนที่ไม่มีหมอก เราสามารถมองเห็นเงาสะท้อนหมู่บ้านจากบึงน้ำอย่างชัดเจน.มีที่พัก โฮมสเตย์หลายที่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ มีครบเหมาะจะพาคู่รักมาดื่มด่ำบรรยากาศเงียบสงบ
มีเครื่องมือเก่าๆ ดูสภาพเหมืองสมัยนั้นบ้านอีต่อง เป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต เมื่อราวปี พ.ศ. 2483 เหมืองขุดแร่ดีบุกที่มีคนงานร่วม 600 คน จนราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ ผลจากการตัดราคาของแร่จากจีน ประมาณปี พ.ศ. 2527-2528 ความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ได้จบลง ปิล๊อกที่เคยรุ่งเรือง มีตลาดที่เฟื่องฟู เคยมีโรงภาพยนตร์ถึง 2 โรงก็เงียบเหงา เหมืองแร่ต่างๆ ที่นี่ทยอยปิดตัวลง คนงานเริ่มทยอยกลับบ้านแยกย้ายกันไป ปัจจุบันนี้รายได้หลักของหมู่บ้านอีต่องคือ การท่องเที่ยว ที่พักโฮมสเตย์
ไม่เคยมาที่นี่ เพิ่งมาครั้งแรก อ่านจากริวิวมา เค้าบอก 399 โค้ง 1000 หลุม เราก้อไม่เชื่อ พอมาเท่าไหร่แหละ ไม่ใช่ 1000 หลุมแหละ ต้อง 10,000 หลุม แต่เค้ากำลังทำทาง แล้วมาตอนฝนตก ขับรถต้องระวังมากๆๆ แต่วิวสวย หมอกหนา ข้างทางมีแต่หมอก
เป็นที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การเดินทางมากๆค่ะ มีโอกาศต้องไปซ้ำอีกแน่นอน
แนะนำครับเมืองในสายหมอกวิวสวย อากาศดีมากๆครับ
สนุกทุกโค้ง มันส์ทุกเนิน ระยอง-ปิล๊อก 682กิโล
ชอบที่นี่มากอากาศดีไปบ่อย
มาเก็บโอโซนค่ะ 😆 อากาศเย็น ชุ่มฉ่ำ เพราะฝนตกเกือบทั้งวัน หมอกหนามว๊าก ชีวิต slow life สุดๆ
บรรยากาศดี มีร้านขายของให้เดินตลอดทาง ราคาไม่แรง ถ่ายรูปสวย แต่จะหาที่จอดรถยากนิดนึง
ภายในมีเครื่องจักรทำเหมืองเก่าโชว์ระหว่างทางเดินเข้า โดยๆดูร่มรื่นมีน้ำบ่อเลี้ยงปลาสุภาพ(คราฟ) กับลูกอ๊อดหลายฝูงใหญ่...โตมาน่าจะเปนกบภูเขา
หมู่บ้านเล็กที่เงียบสงบ บรรยากาศดี ติดนิดเดียวไฟดับบ่อยคะ โดยรวมโอเคคะ มีโอกาสจะไปอีกคะ
บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวอิงธรรมชาติ
เดินไปเดินมาตัวเปียกเฉยๆได้เลยเพราะฝนมันตกตลอดเวลาสักพักเดี๋ยวก็หยุดสักพักเดี๋ยวก็ตกถ้าไม่ถือร่มไปมีเปียกตลอดทั้งตัว
ฟ้องด้วยภาพ 😚 ไปมาเมื่อ 19-20 ก.ย.2563
บรรยากาสดีมากกฝากกดติดตาม ถูกใจเพจ #ป่ะเที่ยวกับหมู
มาช่วงมรสุมฝนตกตลอดบรรยากาศดี นึกถึงหนังมหาลัยเหมืองแร่เลย มั่นใจว่าหลายคนมาเพราะโดนมุมกล้องหลอก55 ผมสนใจแลนสเคปเนินช้างศึกมากกว่าแต่เขาปิดไม่ให้กางเต้นท์ เลยต้องมานอนที่เหมือง โชคดีคนน้อย
พัฒนาจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ดี ผู้คนเป็นมิตร
อากาศดีมากเสียดายที่ฝนตก 🥰
คราคร่ำไปด้วยรถของนักท่องเที่ยวจอดเรียงราย จนแทบจะสวนทางกันไม่ได้ เสน่ห์ความเงียบสงบเดิม ๆ ของหมู่บ้านนี้ไม่หลงเหลือแล้วแต่ยังดีที่ว่าสภาพอากาศ และธรรมชาติยังคงอยู่ดี
สวยอากาศดีมาก แต่ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหล่นั่งรถ2แถวกับคนขับที่ชำนาญจะดีกว่าค่ะเพราะโค้งอันตรายเยอะมาก
อากาศดี วิวสวย สวยเหมือนภาพวาดเลย มาช่วงที่มีฝนปรอยๆ คือดีมากกก
ไม่เห็นมีอะไรมากมาย...ของกินแพง ถ้าจะมานอนค้าง แนะนำไปนอนที่อุยานทองผาภูดีกว่า
หมู่บ้านท่ามกลางสายหมอกเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา การเดินทางไกลพอสมควร ควรมีรถยนต์ส่วนตัว ขับข้ามเขามา หมู่บ้านบรรยากาศดีมาก มีหมอกตลอดในยามเช้า มีของฝากเยอะ ร้านอาหารไม่เยอะมาก แหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆมีน้ำตกกับจุดชมวิว โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าได้มานอนก็คงดี แต่ถ้าไปเช้าเย็นกลับอาจจะไม่คุ้มเท่าไรครับ
กว่าจะถึงอิต่องใช้เวลาขึ้นนานถนนไม่ดี
ดินแดนสายหมอก หมอกปกคลุมตลอดวันแต่อากาศไม่หนาว ถ้ามาในช่วงฤดูนี้ ระวังเรืองสุขภาพ เพราะอากาศจะชื้นมากตลอดวันการเดินทางมาที่นี่ แนะนำว่าควรจองที่พักให้ได้ก่อน เพราะช่วงฤดูที่มีหมอกคลุมต่ำ จะมีฝนตกตลอดวันร่วมด้วย การพักด้วยเต็นท์อาจไม่สะดวกนัก เพราะจะตัดไฟฟ้าหลังสี่ทุ่มมาที่นี่ช่วงฤดูร้อน จะเห็นวิวสวย ๆ สุดสายตา แต่อาจเจอหมอกที่มาจากควันไฟเดินทางด้วยรถโดยสาร จะมีรถสองแถวเดินทางมาที่นี่จาก อ.ทองผาภูมิ และเป็นช่วงเวลาที่กำหนดไว้ไม่ได้มีตลอดทั้งวัน
เป็นสถานที่ ที่ประทับใจมาก รู้สึกสงบและอบอุ่นมากๆค่ะ คุ้มค่ากับเส้นทางที่ค่อนข้างไกล (โดยส่วนตัว ) อากาสดีเหมาะแก่การพักผ่อนและชาร์ตพลังให้ชีวิต ความมีเวลาซัก 3 4 วันนะคะ
ธรรมชาติมากๆๆ อากาศเย็นสบาย สดชื่น มีธารน้ำตกเล็กๆๆปลาคราฟตัวใหญ่มาก
สัมผ้สบรรยากาศที่เย็นที่นี้ ไม่ต้องไปใกลถึงต่างแดน
เป็นเหมืองเก่า มีตำ
บรรยากาศดีครับเตอฝนตลอดเส้นทางขับรถมันส์ดี ไปถึงบรรยากาศดีสวยมากถึงจะเจอฝนกับหมอกเยอะไปหน่อย
เหมืองปิล็อก หนึ่งในสถานที่ที่ต้องแวะ ถ้าไปเที่ยวหมู่บ้านอีต่อง สถานที่ไม่ใหญ่มาก กระโดดเด่นด้วยสระน้ำ สวยใสมากๆ ปลาคราฟตัวใหญ่ๆ สระน้ำใสปิ๊ง มองเห็น พืชน้ำสวยงาม ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่
ตอนที่ไปไม่มีใครเลย เงียบสงบ ผู้คนน่ารักมาก บรรยากาศแดดร้อนแต่ลมพัดเย็นสบาย รอบหน้าจะมานอนที่นี่เลยน่าจะได้พักแบบธรรมชาติสุดๆ การเดินทางเส้นทางถนนไม่ค่อยดีเราขี่มอไซต์ไปกับแฟน 2 คน ทางที่ดีอย่าเดินทางตอนกลางคืน ชอบมากๆค่ะ
เมืองแห่งสายหมอก หมอกหนาตลอดวัน มีน้ำตก ที่พักตอนกลางคืนลมแรงมาก มีร้านกาแฟน่านั่ง ในสระน้ำมีปลาคร๊าฟด้วย มุมถ่ายรูปสวยๆมากมาย ผู้คนเป็นกันเอง เหมาะที่จะไปพักผ่อน คลายเครียด เส้นทางเข้าไปค่อนข้างลำบากเป็นช่วงๆ ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังน่ะครับ บรรยากาศเหมือนขับรถไปภาคเหนือ
บรรยากาศดีมากค่ะ หมู่บ้านเล็กๆน่ารักค่ะ
เป็นหมู่บ้านเล็กๆไม่ค่อยมีอะไร แค่มีตำนานการเป็นมาของเหมือง คนในชุมชนยังคงความเป็นตัวเองอยู่บ้าง อาหารจานเดียวที่นี่ค่อนข้างแพง ที่พักก็โอเคอยู่นะ แต่ว่าต้องจอดที่ลานจอดรถไม่สามารถจอดใกล้ที่พักได้ ส่วนตัวไปครั้งเดียวก็พอเพราะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ เส้นทางไปก็ลำบากสงสารรถ555
ล่าสุดถนนชำรุดเสียหายหลายจุด..รถเล็กควรพิจารณา
ผมมาฤดูฝน จึงไม่ได้เห็นสถานที่สวยๆ ควรจะจองที่พักก่อนมานะครับ นำประสบการณ์มาเล่าครับที่โรงเรียนก็พักได้นะครับ คนละ 200 ฿ นอนในห้องเรียน ห้องสมุด ไม่แนะนำกางเต็นท์หน้าฝนไม่คุ้มกันครับลมแรง ฝนด้วย ควรจะจองบ้านพักก่อนไปครับ เพราะผมเจอมาแล้วที่อีต่อง ที่พักเต็มหมด ฝนตกตลอดทั้ง 2 วัน ที่ผมไปเศร้ามาก คิดว่า เมื่อผมว่างอีกจะไปแก้แค้นที่ไม่ได้รูปสวยๆ แนะนำร้านโรตีในตลาดอีต่องครับ เช้าๆ ถ้าฝนไม่ตกออกไปตักบาตรด้วยนะครับ จะไปช่วงหน้าฝน เตรียมชุดกันฝน กับร่มใสๆมาด้วยนะครับถ่ายรูปสวยครับ
หมู่บ้านเล็กๆไม่ใหญ่มาก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับการพักผ่อน แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆเพราะว่าหากไม่เหมารถไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆจะไม่มีกิจกรรมอะไรในหมู่บ้านให้ทำเลย
บรรยกาศดี แต่ทางลำบาก
บรรยากาศดี..!! เงียบสงบ อาหารอร่อยทุกร้านน ประทับใจ💕
เป็นชุมชนของคนงานเหมืองมาก่อน แต่ปัจจุบันเหมืองได้ปิดตัวไปแล้ว จึงเปลี่ยนมาทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวแทน อากาศเย็นดีครับ ห้องพักเยอะเลย เดินเข้าไปในเหมืองมีบ่อปลาคราฟ น้ำใส มากก
บ้านอีต่อง เป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต เมื่อราวปี พ.ศ. 2483 เหมืองขุดแร่ดีบุกที่มีคนงานร่วม 600 คน จนราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ ผลจากการตัดราคาของแร่จากจีน ประมาณปี พ.ศ. 2527-2528 ความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ได้จบลง
บรรยากาศสดชื่นมาก
อากาศดีครับ แม้แต่ในช่วงเมษายน ก็เย็นสบายทั้งวัน โชคดีมากที่มาแล้วพบหมอกตลอดวัน อุณหภูมิประมาณ 20 - 24 องศา มีลมพัดตลอดเวลา ที่เหมืองยังมีอุปกรณ์ เครื่องจักรเก่าวางแสดงไว้ให้ชม ช่วงเช้าสามารถทำบุญตักบาตรได้ที่ตลาดใกล้ที่พัก
ไปครั้งล่าสุดเทศกาลหยุดยาว 3 วัน ไม่มีที่จอดรถเลย สถานที่สำหรับกางเต๊นท์ไม่ต้องพูดถึง ไปวันธรรมดา หนือวันหยุดที่ไม่ใช่เทศกาลดีกว่าครับ ชอบบรรยากาศ ปีที่แล้วก็ไป ปีนี้ไปอีก เห็นความเปลี่ยนแปลง ธรรมชาติโทรมเร็วมาก เพราะคนที่ขึ้นไป ขับรถกันเร็ว ทำให้เกิดฝุ่นไปเกาะต้นไม้ ทำลายธรรมชาติ เข้าป่าอย่าอวดสมรรถนะรถเลยรรับ สงสารสัตว์ป่า สงสารธรรมชาติบ้าง มันกำลังจะหมดไป ผมมาสายเที่ยวป่ารู้ดี ไปซ้ำแต่ละที่โทรมเร็วมาก
แนะนำว่าไม่ควรเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ในช่วงหน้าฝน เพราะทางขึ้นจะเป็นหลุม เป็นบ่อ อาจพบหมอกทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี เส้นทางช่วงที่ไปมีบางจุดกำลังปรับปรุงอยู่อาจดีขึ้นเรื่อยๆ หากพบหมอกจะมองไม่เห็นวิวรอบๆ เลย อาจต้องยอมเที่ยวหน้าร้อนหรือหน้าหนาว ที่นี่ใช้ไฟปั่นของหมู่บ้านที่มีจำกัด อาจมีบางช่วงที่ไฟดับ แต่ทางที่พักทุกที่จะมีเครื่องปั่นไฟของตัวเองอยู่แล้ว เมื่อไฟหมู่บ้านดับก็จะปั่นไฟใช้สำรองไปก่อนได้ แนะนำอาหารร้านครัวเจ้ณีย์ อร่อยถูกปากมาก
ไปมาเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 เส้นทางคดเคี้ยว โค้งเยอะ (399 โค้ง) แต่กระจกโค้งสำหรับดูรถที่สวนมาหลุดหายหมด เหลือแต่เสากับกรอบ ไม่สามารถเห็นรถสวนมาได้ ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังอย่างสูง บรรยากาศพอได้ อากาศกลางวันร้อนนิดหน่อย ส่วนกลางคืนแค่เย็นนิดๆ ไม่หนาว (หน้าร้อน) บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ที่กำลังก่อสร้างก็มี สรุปการไปครั้งนี้ ไม่คุ้มเหนื่อย
มาปีนเขาช้างเผือกต้องเริ่มเดินจาก เหมืองปิล๊อก มีตลาดของชุมชนควรเตรียมก่อนขึ้เขานะ เดินโหดพอควรแต่คนชอบก็ ลุยดิครับ
เหมืองปิล๊อก เป็นเหมืองดีบุกเก่า ที่ปิดตัวไปประมาณปี 2528 ประชากรดั้งเดิมคือแรงงานในเหมืองเก่า แล้วก็ค่อยๆมีผู้คนเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น เหมืองปิล๊อกเพิ่งเริ่มจะเป็นที่รู้จักในระยะ 3~4 ปี มานี่เองการเดินทางเข้ามาที่เหมืองปิล๊อก ห่างจากตัวอำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี ประมาณ 66 กิโลเมตร สภาพพื้นถนนเส้นทางนี้ ในระยะแรกๆกว่า 30 กิโลเมตร มีสภาพถนนลาดยางที่ดี หลังจากนั้น ก็เป็นช่วงที่ กำลังปรับปรุงซ่อมแซม และรอการปรับปรุง แต่ก็เป็นถนนลาดยาง ไม่ใช่ถนนฝุ่น สภาพการขับขี่รถ ถนนมีความคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ต้องใช้ทักษะการขับขี่พอสมควรบรรยากาศที่เหมืองปิล๊อก ยามเช้าในฤดูร้อน อุณหภูมิจะอยู่ ประมาณ 20~24 องศา ถือว่าเย็นสบาย เมื่อคืน สองทุ่มกว่าขับรถกลับที่พัก มีหมอกลงหนามากมาที่นี่ เหมืองปิล๊อก ไม่มีอะไรให้ท่องเที่ยวมากมายถ้าหากคุณมาเพื่อพักผ่อนจะดีกว่าเช้าๆอย่างนี้ไม่มีอะไรดีกว่านอนเล่นซุกซ่อนตัวใต้ผ้าห่มอย่ามาถามไถ่หาแอร์คอนดิชั่น นะ พัดลมก็เพียงพอแล้วมีเวลาวันสองวัน ไปนอนเล่นที่เหมืองปิล๊อกกัน
ที่จอดรถน้อย ไม่เพียงพอ ร้านอาหารร้านกาแฟมีให้เลือกเยอะ ที่พักก็เยอะเช่นกัน อากาศเย็นสบาย แต่กลางวันถ้าแดดออกจะร้อนแดด สถานที่ถ่ายรูปไม่เยอะ เหมาะกับมาพักสบายๆ ถนนแย่มาก
สวยมากถ้าได้ไปกับแฟนน่าว่าฟิน เอ้าลืมไปแฟนไม่มีไปกับเพื่อนก้อสุดยอด
เพราะยังมีบรรยากาศเก่าอยู่แต่เมื่อขึ้นไปถึงบนเขาชายแดนไทย-เมียนมาสวยเกินยรรยายครับอากาศเย็นสบายกลางคืนประมาณ 22 - 23 องศาครับ
เหมืองเก่า...
ธรรมชาติสวยงามอาหารราคามิตรภาพเสียอย่างเดียวถนนก่อนเข้าหมู่บ้านหลุมเพียบ
บรรยากาศดี ร่มรื่นสวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยว เงียบสงบ ไม่มีวัยรุ่นขี้เมาวุ่นวาย เหมาะกับการพาครอบครัวไปพักผ่อน คลื่นโทรศัพท์บางคลื่นใช้ไม่ได้ ใช้ได้แต่ค่ายเขียว แต่บ้านพักส่วนมากจะมีไวไฟให้ อาหารในหมู่บ้านมี2ร้านควรสั่งำว้ก่อนเพราะคนเยอะรอนาน
อากาศดีมากคับห้องพักก็ดี
สวยอากาศดีมากๆ
ขับรถมา ไม่ได้ง่ายเลยนะไกลพอสมควรจากกทม.ทางมานี่คือที่สุดแล้ว ลดเลี้ยวเคี้ยวโค้งฝนตกอีกนิดๆ แต่มาถึงก็คุ้มค่ามากมีหมอกปกคลุมหมู่บ้านและเหมืองอากาศเย็นสบายมากนักท่องเที่ยวทยอยมากันเรื่อยไปถ้าไม่ได้จองที่พัก อาจเจอที่พักเต็มได้เรามาช่วงหยุดปีใหม่ โชคดีที่มีห้องพักเหลือคนดูแลดีมาก มีข้าวต้มตอนเช้าให้กินลูกของเจ้าของเป็นหมอ เขาก็มาช่วยคุณแม่ดูแลคนเข้าพัก
อยากหยุดเวลาไว้ให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ไปตลอด❤❤
หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาไกล้ชายแดนไทย-พม่า เหมาะสำหรับไปพักผ่อนใช้ชีวิตช้าๆ ในวันหยุด บรรยากาศดีเงียบสงบ อากาศเย็นชื้นมีหมอกลงบ่อย มีจุดท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินเสาธง ช่องทางมิตรภาพ และจุดชมพระอาทิตย์ตกเนินช้างศึก ที่พักวิวดีๆหลายแห่งในช่วงปลายปีควรจองไว้ล่วงหน้าการเดินทางค่อนข้างไกล จากอำเภอทองผาภูมิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า (มีจุดชมวิวแวะพักรถระหว่างทาง) เส้นทางโค้งแคบ คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามไหล่เขา มองเห็นเนินสันเขาและหุบเขาลึกอยู่เบื้องล่าง อีกด้านเป็นหน้าผาสูงชันมีร่องรอยดินถล่ม บางช่วงถนนชำรุดคนขับรถต้องมีความชำนาญและคอยระมัดระวังด้วย
ตำนานของผู้แสวงหาความมั่งคั่ง เป็นแหล่งแร่ดีบุก วุลแฟรม เหมืองปิล็อกนี้เป็นแหล่งแร่เปลือกดินที่ยังคลุมสายแร่อยู่ จึงไม่มีการแผ่กว้างเป็นลานแร่เหมือนลานแร่ดีบุกทางภาคใต้ และมีอยู่เพียง ๓ แห่ง ได้แก่ เหมืองอีต่อง เหมืองอีปู่ และเหมืองผาแป ซึ่งเรียกรวมว่า หมู่เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ตำบลชายแดนพม่าบนเขาสูงกว่า 3,200 ฟุตจากระดับน้ำทะเลรัฐบาลได้จัดตั้งองค์การเพื่อรับซื้อแร่เหล่านั้นขึ้น คือ องค์การเหมืองแร่ ในรูปแบบของโครงการรับซื้อแร่ของรัฐ สังกัดกองโลหกิจ กระทรวงเกษตราธิการ เมื่อ 8 ธันวาคม 2482
ปิล๊อก มาจากคำว่า ผีหลอกเมืองในหมอกที่รอนักเดินทางเช่นคุณมาสัมผัส 😍
หมู่บ้านน่ารัก อากาศดี ชอบมากๆ
วัดนี้มี 2 เนินเขา เนินแรกมีเจดีย์สีทอง ระหว่างทางขึ้นจะมีรูปปั้นพระเดินลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ค่ะ อีกเนินจะมีพระปางนาคปรกองค์ใหญ่สีแดง สวยค่ะ
อากาศเย็นสบาย...หมอกลงเยอะ..ชิวๆกับทาง..399..โค้ง...สนุกค่ะ..ต้องลองมาดูนะคะแล้วจะรู้ว่า...เหมืองปิล็อก..มีดีไรบ้าง..
เมืองเล็กน่ารักในสายหมอก ยามเช้าและมื้อแลง
อากาศดีเย็นๆมีฝนตกพร่ำๆ
เงียบสงบ อากาศเย็นตลอดปี วิวสวยงามครับ
หมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางหุบเขา เดินทางจากทองผาภูมิ 399 โค้ง สงบ ติดชายแดน เหมาะกับการพักผ่อน
สวยงามมากทั้งธรรมชาติ และสถานที่โอกาศหน้าต้องมาอีก..ให้ได้..😍😚🥰
บรรยากาศดีอยู่ครับ
ยังสวยและมีเสน่ห์เหมือนเดิม แต่ทางขึ้นแย่มาก ไม่เข้าใจว่าบางช่วงดีแต่บางช่วงแย่ เพราะอะไร ตอนนี้คนเที่ยวเยอะเกินไป ที่จอดรถลำบาก กลัววันนึงจะหมดเสน่ห์ ถ้าไม่ควบคุมปริมาณคนขึ้น
ประทับใจคนพื้นที่ น้ำใจงามมากๆครับ
ท่องเที่ยวธรรมชาติ หลงไหลกับม่านหมอก บรรยากาศสบาย ๆ
บรรยากาศดีมากครับ สงบดี
อากาศดี เย็นสบาย แต่เสียดาย ว่าวันที่มา มีหมอกน้อย และที่พักข้างๆ กำลังก่อสร้าง
เหมือนเก่าชื่อปิล็อกหมู่บ้านอีต่องจังหวัดกาญจนบุรี
หมู่บ้านเล็กๆ เงียบสงบ ทางขึ้นต้องใช้ความระมัดระวังถ้าได้นอนค้างสักคืน จะดีมากครับ แนะนำเลยครับ
ระหว่างทางฝนตกทั้งวัน ถึงที่หมายแล้วก้ยังตก พอดีไปช่วงหน้าฝน บวกพายุเข้า
เหมาะแค่แวะถ่ายรูปตอนเช้าๆเท่านั้น**อย่าคาดหวังเยอะ เพราะของจริงไม่เหมือนที่ตามเพจเที่ยวต่างๆรีวิวให้ดูเลยไปมาวันอังคารที่ 25 ธ.ค. 61ทางไปหมู่บ้านโค้งเยอะมาก. เค้าบอก 399โค้ง(ไม่รู้จริงรึป่าว555) กินยาแก้เมารถไว้ก่อนก็ดีนะคะ 😅-หมู่บ้านอิต่องเป็นเมืองเล็กๆ เล็กมากๆๆ จะเบียดๆติดๆๆๆกัน-วันที่ไปไม่เจอหมอกเลย ไม่มีหมอกก็จบ เพราะจะไม่มีอะไรทำ-บางมุมจะไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น-ที่พักที่ดีหน่อยก็ราคาพันอัพนะคะ ไม่ถูกอย่างที่เค้าว่ากัน. ถ้าถูกหลักร้อยก็จะอับๆ. แนะนำนอนที่พักที่โรงเรียนจัดไว้ดีกว่า มีที่จอดรถด้วย-ใครพาร้องหมา🐶🐶 ไปด้วยส่วนใหญ่จะไม่ให้เข้าพักนะคะ ตัวเล็กๆก็ไม่ได้ แต่จะมีอยู่ที่นึงที่ให้หมานอนได้ แต่สภาพห้องไม่โอเคเลย ไม่มีหน้าต่าง มีแต่ที่ดูดระบายอากาศ+พัดลม เหมือนห้องเช่าคนงาน ห้องน้ำรวม. แนะนำให้นอนเต้นท์ดีกว่าเยอะ-ในหมู่บ้านจะมีวัด มีโรงเรียน มีพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ ติดๆกันหมด มีจุดกิมมิกเล็กๆคือสะพาน ที่เอาป้ายไม้เขียนชื่อไปแขวน-เหมาะแค่มาถ่ายรูปเช้าๆแค่นั้น เพราะไม่มีอะไรทำ ไม่มีเลย แนะนำให้นอนพักที่อื่น และแวะมาถ่ายรูปแค่นั้นจริงๆ-ที่จอดรถมีน้อยมากกกก. ยังไงขับเลยขึ้นไปจอดตรงโรงเรียนดีกว่าแล้วเดินลงมาที่หมู่บ้านเอาคะ ใกล้กันเลย-***อย่าคาดหวังเยอะ เพราะของจริงไม่เหมือนที่ตามเพจเที่ยวต่างๆรีวิวให้ดูเลย**คงไม่กลับไปเที่ยวซ้ำรอบสองอีก บรรยากาศแบบนี้ที่อื่นก็มี แถมไม่ต้องไปไกลและมีอย่างอื่นให้เที่ยวให้ทำมากกว่า
มีรถอุปกรณ์เก่าๆ ที่เคยใช้งาน มาตั้งโชว์ให้ชม
สวยงามตามท้องเรื่อง ฝนตกไม่หยุดเลย
วิวสวย เดินทางหลายร้อยโค้ง สนุกดีจร้าา (แอบเจ็บเอว😁)
วัดเหมืองปิล็อก (ตั้งอยู่สุดชายแดนตะวันตกระหว่างไทยกับพม่า บนขุนเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,800 เมตร สร้างตามศิลปะพม่า แต่ไม่สมบูรณ์นัก วัดนี้สร้างเมื่อ 50-60 ปีก่อน บรรยากาศในวัดเงียบสงบปลอดโปร่ง สบาย
บรรยากาศดี
มากี่ครั้งก็ชอบทุกครั้ง เส้นทางจากอ.ทองผาภูมิมาที่นี่ค่อนข้างลำบาก บางช่วงถนนพังมากถึงมากที่สุด รถเก๋งเดิมๆทุกรุ่นทุกยี่ห้อถ้าไม่โหลดต่ำ ติดสเกิร์ตมากไป คลานๆช้าๆ ผ่านได้ครับ แนะนำไม่ควรเข้าออกช่วงใกล้ค่ำอันตรายครับ