วัดเล็กๆ ก่อนถึงข้ามสะพาน ไปวัดสะแกฝากกดถูกใจ ติดตามเพจ #ป่ะเที่ยวกับหมู ด้วยนะคะ 🙏

หากคุณได้ไปกราบสักการะหลวงปู่ดู่วัดสะแกแล้ว อย่าลืมแวะวัดโกโรโกโส ซึ่งอยู่ติดกันมีเพียงแค่คลองกั้น ถึงแม้จะเป็นวัดเล็กๆ แต่มีความโบราณศักดิ์สิทธิ์ อายุราวสุโขทัย องค์พระประธานคือหลวงพ่อแก้วหรือหลวงพ่อดำ ตามที่ชาวบ้านเรียกวัดนี้ดูแล้วยังต้องการปัจจัยในการบูรณะอยู่หลายจุดพอสมควร ...

.. วัดโกโรโกโส ชื่อแปลก..แต่มีอยู่จริง พระเจ้าตากสินเคยเสด็จมาพักทัพและกราบขอพรตั้งอยู่ หมู่ที่ ๕ บ้านคลองข้าวเม่า ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา.... วัดโกโรโกโส เป็นชื่อวัดที่ถูกต้อง คนในท้องที่ส่วนใหญ่มักเรียกว่า “วัดสี่โอ” วัดโกโรโกโส เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ฝั่งข้าวเม่า ตรงข้ามกับคลองธนูวัดสะแกเป็นโบราณสถาน และโบราณวัตถุเป็นวัดสำคัญโบราณกาลอีกวัดหนึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยาคำว่า โกโรโกโส เป็นภาษาพูด หมายถึงไม่มั่นคง ต่ำต้อย เช่น กระท่อมโกโรโกโส คนโกโรโกโส เป็นต้น. มีวิหารเล็กๆหลังหนึ่งมีป้ายติดไว้บอกว่า หลวงพ่อแก้ว อายุประมาณไม่ได้ สร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย.. หลวงพ่อแก้ว” คือพระประธานในโบสถ์ องค์สีดำ แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าตากสินเคยกราบขอพรคราพักทัพ“ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระอุโบสถแห่งนี้ขอให้ข้าพระเจ้าได้กอบกู้เอกราชได้สำเร็จด้วยเทอญ เพื่อให้คนไทยได้มีที่อยู่ที่อาศัย”.. เมื่อพระเจ้าตากสินทำการสู้รบกอบกู้เอกราชได้สำเร็จท่านก็ไม่ลืมบุญคุณของพวกชาวบ้านท่านได้ทรงพระราชทานชื่อหมู่บ้านให้ ทางฝั่งคลองตำข้าวเม่าได้ทรงพระราชทานชื่อหมู่บ้านว่าหมู่บ้านคลอง-ข้าวเม่า และทางฝั่งตรงข้ามที่ทำธนูได้ทรงพระราชทานชื่อหมู่บ้านว่าบ้านธนู.. การเดินทางไปวัดก็ไม่ยากเลยสังเกตป้ายบอกทางไปวัดสะแก กับ อ.อุทัย ให้เลี้ยวซ้ายเลย....จากนั้นขับรถตามทางเข้าไปอีกประมาณ ๒-๓ กม. จะเจอวัดสะแก ให้เลี้ยวเข้าวัดสะแกแต่ให้ขับเลยวัดนี้ไป ขึ้นสะพานข้ามคลอง จะเจอวัดโกโรโกโส อยู่ทางขวามือ

ตามประวัติการสร้างวัดเล่าสืบกันมาว่า มีชาวจีนสองคน คือ “อาโกโร” และ “อาโกโส” (คนจีนแต้จิ๋วจะเรียกพี่สาวหรือน้องสาวของพ่อ เรียกว่า อาโก) ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นโดยมิได้ตั้งชื่อเสียงเรียงนาม ชาวบ้านที่รู้ว่าท่านทั้งสองสร้างวัดจึงพากันเรียกว่า “วัดอาโกโรอาโกโส” ต่อมาทางการขนานนามให้ว่า “วัดคลังทอง” แต่ชาวบ้านก็ยังนิยมเรียกกันต่อมาว่า วัดอาโกโรอาโกโส ครั้นนานวันเข้าก็หายกลายเป็น “วัดโกโรโกโส”ส่วนอีกตำนานหนึ่ง คือ เมื่อครั้งพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ พระยาตากเห็นว่าท่าจะไปไม่รอดแล้ว จึงรวบรวมไพร่พลฝ่ากองทัพพม่าออกมา แล้วล่องเรือมาตามลำน้ำทางทิศตะวันออกของกรุงศรีฯ พระยาตากและไพร่พลของท่านมาหยุดแวะพักที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ท่านสังเกตเห็นมีวัดตั้งอยู่ริมคลองจึงหยุดพักที่วัดแห่งนั้น

วัดโกโรโกโส หรือ วัดคลังทอง เป็นชื่อของวัดเดียวกันตั้งอยู่หมู่ ๕ บ้านคลองข้าวเม่า ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มี หลวงพ่อแก้ว” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ในวิหาร เดิมเศียรของท่านถูกพม่าตัดไปเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ ๒ต่อมา....... มีพระท่านเข้ามาบูรณะและหล่อเศียรให้ท่านใหม่แล้วนำมาประกอบเข้ากับองค์ท่าน จนเห็นเป็นอย่างปัจจุบัน

วัดเล็กๆ น่ารัก อยู่ในช่วงปรับปรุง ติดวัดวัดสะแก

เป็นวัดร้างหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยเศียรหลวงพ่อดำได้ถูกตัดไป ต่อมาได้รับการบูรณะและประดิษฐานอยู่ในวิหารซึ่งเป็นศาสนาสถานเพียงอย่างเดียวของวัด ปัจจุบันมีพระจำพรรษาอยู่เพียงองค์เดียว

พระพุทธรูปหลวงพ่อแก้วดำศักสิทธ์

หลวงพ่อเก่าแก่​ สมัยกรุงศรีอยุธยา​

ส่วนใหญ่จะขับรถผ่านกันข้ามสะพานวัดสะแกไแวะไหว้หลวงปู่ดู่เสร็จแล้วแวะมาไหว้หลวงพ่อดำแห่งวัดโกโรโกโสกันนิดนึงครับหลวงพ่อท่านศักดิ์สิทธิ์นะครับ

ใครอยู่ใกล้ลองแวะไป วัดเก่าสมัยโบราณมากค่ะ มีคนเล่าลือว่าเคยถูกล็อตเตอรี่มานักต่อนักแล้ว สาธุ

วัดเก่าแก่ติดกับวัดสะแกหลวงปู่ดู่ เดิมเป็นวัดชื่อเสียงสมัยอยุธยาเป็นราชธานี เดิมชื่อวัดคลังทอง

สาธุครับ องค์หลวงพ่อดำ

หลวงพ่อดำให้พร สมดังคำขอ

สาธุค่ะ

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาและผู้มีกำลังทรัพย์ทั้งหลายมาช่วยกันบริจาคเงินเพื่อบูรณะวัดโกโรโกโสกันเยอะๆนะคะเพื่อมีไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษากันค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้มาบริจาคค่ะ

รู้สึกดีและเป็นบุญมากครับ

หลวงพ่อดำศักดิ์สิทควรกราบไหว้

วัดโกโรโกโสเป็นที่พระเจ้าตากได้มาขอพรกับพระพุทธศักดิ์สิทธิ์สมัยสุโขทัย

ขอรองใช้ดูก่อนนะ แต่แผนที่ละเอียดดี

วัดเก่า ขาดการบูรณะยังไม่มีโบสถ์

น่าทำนุบำรุงรักษาครับ

กำลังปรับปรุง

กำลังปรับปรุงภายในวัดใหม่

🙏🙏🙏

สวยงาม