เป็นโรงงานแห่งเดียวในประเทศไทยและภาคใต้ที่เป็นตำนานแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรใต้ดิน(แร่ดีบุก) อันอุดมสมบูรณ์ของ ภูเก็ตและพังงานอกจากนี้ เจ้าของโรงงานยังใจดี มีเมตตา อนุญาติให้ ประชาชนเข้าไปยังท่าเรือด้านใน เพื่อตกปลาหารายได้ หรือพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งนับว่าหาได้ยากมากๆ ในภูเก็ตพื้นที่ส่วนใหญ่ในภูเก็ตไม่ว่าสถานที่ราชการ (ที่เอาไปให้เอกชนเช่า) หรือเอกชนเอง ล้วนเปลี่ยนไปเพื่อตอบสนองปัจจัยเงินในกระเป๋าเน้นรับนักท่องเที่ยวเป็นหลักก่อนโควิด-19 คนอยู่ภูเก็ตมักพูดกันเสมอว่า ติดทะเลแต่อาหารทะเลแพงเหมือนอยู่บนภูเขาปัจจุบันเมื่อมีโควิด-19 มาต้องปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป จึงจะเห็นได้ว่า การพัฒนาอะไร ควรทำควบคู่กันไปอย่าสุดโต่ง เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน(สมัยก่อน ภูเก็ตเคยคิดจัดทำโรงงานผลิตแร่ แทนทาลัม แต่ถูกมวลชน เผาทำลายโรงงานไป เกิดการจราจล ซึ่งหากตอนนั้นเจรจาหามาตราการควบคุมดูแลในการผลิตให้ดีปัจจุบัน ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจจากพิษ โควิด-19 คงไม่รุนแรงมาก เพราะมีช่องทางด้านอุตสาหกรรมมาช่วย)ตอนนี้ ในภูเก็ต ที่ดินส่วนใหญ่ กลายเป็นรีสอร์ท บ้านจัดสรร โดยนายทุน/คนรวยในภูเก็ต (บางรายไม่เคยอยู่ในพื้นที่มาก่อน) ที่มีแค่หยิบมือ ทั้งรุกที่ดินราชการ โกงที่ดินชาวบ้าน ที่ดินรอบขุมเหมืองหลายๆแห่ง ถูกออกโฉนดโดยร่วมมือกับข้าราชการฉ้อฉลชั่วช้าในพื้นที่
เป็นโรงงานถลุงแร่ดีบุกแห่งเดียวในประเทศไทย
เป็นโรงถลุงแร่ดีบุกแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังเปิดบริการอยู่