วิหารหลวง อยู่ในกลางเมือง แต่จะคับแคบไปนิด เป็นวัดที่คิดว่าสร้างในร.5-6 สถาปัตย์แบบยุโรป สวยงาม
ขอบคุณมากๆๆครับที่เรียกหมอโรจน์ครับ
ในจังหวัดราชบุรี นอกจากจะมีวัดเก่าแก่อายุราวพันปีที่สร้างมาแต่สมัยทวารวดีที่ขอมยังเรืองอำนาจ อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ยังมีวัดที่น่าสนใจอีกวัดหนึ่งสร้างสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ ๕ มีศิลปกรรมสวยงามและแปลกตากว่าวัดอื่นๆ มีศิลปะไทยผสมศิลปะตะวันตก ซึ่งเป็นที่นิยมกันในสมัยนั้น และมีตราสุริยมณฑล พระอาทิตย์ชักรถ ประดับเหมือนกับอีก ๔ วัดที่สร้างโดยบุคคลสำคัญคนเดียวกันวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียก วัดศรีสุริยวงศ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สังกัด คณะสงฆ์ธรรมยุต วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร ที่ตั้งเดิมเป็นที่ดินรกร้างใกล้ชุมชนตลาด ซึ่งเป็นที่ดินของสมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและสมุหพระกลาโหมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ท่านมีดำริว่าจะสร้างวัดให้เป็นวัดประจำตระกูลบุนนาค ซึ่งเป็นเวลาหลังจากท่านได้สร้างพระราชวังบนเขาสัตตนารถ และควบคุมดูแลการก่อสร้างวัดสัตตนารถปริวัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยสร้างวัดนี้ขึ้นด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวของท่านเอง ลงมือก่อสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๑๗ตราสุริยมณฑล เป็นตราที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระราชทานแก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) และในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้ทรงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานตราสุริยมณฑลแก่ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) บุตรชายคนโตของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ เป็นเครื่องหมายบังคับบัญชาสิทธิ์ขาดราชการแผ่นดิน และเป็นสามัญชนคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับพระราชทานพระราชอำนาจถึงขั้นสั่งประหารชีวิตคนได้ในการปฏิบัติราชการ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ได้ยึดตราสุริยมณฑลเป็นตราประจำตัว และได้นำไปดัดแปลงเป็นรูปพระอาทิตย์แบบฝรั่ง สำหรับใช้เป็นการส่วนตัว เช่นสร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือถาวรวัตถุต่างๆ จะประทับตราสุริยมณฑลแบบฝรั่งนี้กำกับไว้เสมอ ซึ่งพบได้ตามที่ต่างๆ เช่นวัดหลายวัดในจังหวัดราชบุรีที่ท่านสร้าง รวมทั้งบาตรพระ ถาดทองเหลือง ขันสาคร กาน้ำ ฯลฯ ที่ท่านถวายพระ ก็มีตราสุริยมณฑลติดอยู่ทุกชิ้นเป็นสัญลักษณ์จุดเด่นของวัดศรีสุริยวงศ์ก็คือ การผสมผสานศิลปกรรมไทยกับตะวันตกได้อย่างกลมกลืน ดูสวยงามแปลกตา พระอุโบสถเป็นศิลปะแบบโกธิค ไม่มีช่อฟ้าใบระกาเหมือนวัดพุทธทั่วไป บนหน้าบันประดับด้วยตราสุริยมณฑลรองรับด้วยช้างสามเศียร ขนาบสองข้างด้วยเศวตฉัตรเจ็ดชั้น ชายคารองรับด้วยเสากลม ระหว่างเสาแต่ละต้นเชื่อมต่อด้วย Arch ครึ่งวงกลมแบบโค้ง หน้าจั่วเหนือซุ้มหน้าต่างประดับลวดลายดวงดาวเปล่งรัศมี หน้าจั่วเหนือซุ้มประตูประดับลวดลายนกยูงในพระอาทิตย์ที่น่าชมอีกแห่งก็คือผนังโบสถ์ภายในทั้งสี่ด้าน ฉาบปูนวาดลวดลายเลียนหินอ่อนสีน้ำตาล เพราะในสมัยนั้นหินอ่อนต้องสั่งมาจากอิตาลี และมีราคาสูงมาก ท่านจึงดำริให้ช่างฉาบผนังด้วยปูน แล้วเซาะร่องให้เหมือนกับรอยต่อของแผ่นหินอ่อน ลงสีวาดลายให้เหมือนลายหินอ่อนได้อย่างสมจริง นับเป็นความคิดสร้างสรรค์ในงานช่างอย่างหนึ่งในยุคนั้น ส่วนเพดานแขวนโคมระย้าหรือแซนตาเลียร์จากยุโรปอย่างสวยงาม ให้ความสว่างไสวองค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย หน้าตักกว่าง ๑.๑๕ เมตร ลงรักปิดทอง พุทธลักษณะแบบรัตนโกสินทร์ บนผนังหลังองค์พระประธาน ประดับด้วยพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรูปของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ซึ่งเป็นภาพที่ใช้เทคนิคที่เรียกว่าพิมพ์หินวัดนี้จึงเป็นวัดที่น่าจะหาเวลาเข้าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งปลูกสร้างเเปลกตา
สงบร่มรื่นน่ามาพักผ่อนไหว้พระ และเจดีย์สีทองกลางวัด
วัดเก่าในกลางใจเมือง จ.ราชบุรี
เป็นที่ส่งแม่ขึ้นสวรรค์เมื่อ15ปีก่อน
เป็นวัดธรรมยุติ เจ้าอาวาสฯ ใจดีคุยเก่ง
ทำบุญทีวัดนี้ตลอด
สงบ สวยงาม ครับ
เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยเป็นวัดประจำตัวของเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์วงศ์หรือช่วง บุนนาค พระอุโบสถออกแบบไทยประยุกต์ (ไทย-ยุโรป) สังเกตุลักษณะเสา คล้ายเสาโรมัน และเป็นพระอุโบสถที่ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา
บรรยากาศดี
วัดเก่าแก่
สวดมนต์ข้ามปีครับ
วัดที่เคยบวชเรียนมาก่อน
เงียบสงบ..ไร้เชิงพาณิชย์
เป็นสถานที่ เก่าแก่ที่ดี
สถานที่นี้สงบมาก
จัดงานทางศาสนาดี
วัดเล็กๆแต่งดงาม
สะอาด เป็นระเบียบ แต่ที่จอดรถน้อย
วัดสวยงาม และสงบมาก
เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองราชบุรี
วัดสวยสะอาด
สงบ สะอาด
เป็นวัดสมัยโบราณ
สะอาดดี
เป็นวัดสายธรรมยุต
วัดสวยจ่ะ
วัดสวยงามค่ะ
สงบดี
ดี
สาธุครับ