ตึกแดงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2461 โดย พ่อเลี้ยงหม่องตาอู (พนาสิทธิ์) จันทรวิโรจน์ และ แม่เลี้ยงเต่า จันทรวิโรจน์ ซึ่งเป็นลูกของหม่องยี่ บริบูรณ์ กับแม่เลี้ยงป้อม บริบูรณ์ เจ้าของตลาดบริบูรณ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อไว้ให้เช่า แต่เดิมห้องแรกนับจากด้านซ้ายมือ ผู้เช่าเป็นโรงเรียนสอนตัดเสื้อชื่อเปรมจิตต์ ห้องที่ 2 ผู้เช่าเปิดเป็นร้านขายผ้า ห้องที่ 3 เปิดเป็นร้านขายไข่ ต่อมาทั้ง 3 ห้องย้ายออก นายเต๊กเหม่น แซ่เอี๊ยบ จึงมาเช่าทั้ง 3 ห้องต่อ ทำกิจการขายยาแผนโบราณจวบจนปัจจุบันนายเต๊กเหม่น แซ่เอี๊ยบ (แปลว่าใบไม้) เป็นคนจีนโพ้นทะเล เข้ามาทำกิจการแพทย์จีนสมุนไพร ในพื้นที่ค้าขายย่านตลาดกองต้า ซึ่งปัจจุบันมีนายอรรถกฤต กาญจนรักษ์ เป็นแพทย์แผนจีนโบราณสืบทอดต่อจาก นายบุญส่ง กาญจนรักษ์ตึกแดง มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์และพักอาศัย ค.ส.ล.2 ชั้น จำนวน 7 คูหา หลังคาจั่วตัดแบบจีน มุงด้วยกระเบื้อง ชั้นล่าง ห้องแรกและห้องที่ 2 ประกอบกิจการขายยาแผนโบราณ ห้อง 3- 6 ค้าขายและพักอาศัย ห้องที่ 7 ทำเป็นร้านตัดผม หน้าอาคารมีประตูเปิดบานเฟี้ยมไม้ลูกฟักทึบ 8 บานต่อ 1 ชุดช่องเสา เหนือประตูมีช่องแสงแบบซุ้มโค้ง มีวงกบไม้ซอยแนวตั้งติดกระจกสี ด้านนอกติดเหล็กดัดซี่กันขโมย ทั้ง 7 ชุดคูหา เหนือประตูมีกันสาด ค.ส.ล. ยื่นออกมาจากตัวอาคารคลุมทางเดินหน้า-หลังอาคารตลอดทั้งหลัง มีคันทวยรับโครงสร้างพื้นกันสาดตกแต่งที่หัวเสาและรับพื้นกันสาดอีก 2 จุดต่อช่วงเสา เสาชั้นล่างเป็นเสา ค.ส.ล. พื้นภายในเทพื้น ค.ส.ล. ผิวปูกระเบื้อง ทำขึ้นใหม่ ภายในกั้นผนังระหว่างห้องคูหาด้วยผนังไม้ (ยกเว้นด้านข้างอาคารทั้ง 2 ด้าน ผนังก่ออิฐเต็มแผ่นหนาหลายชั้นฉาบปูนเรียบทาสี ) อาคารลึก 7.00 เมตร หลังอาคารมีประตูบานเปิดคู่ลูกฟักไม้ทึบมีช่องแสงติดกระจกสี ติดเหล็กแซ่กันขโมย คูหาละ 1 ชุด ด้านหลังจะเป็นห้องน้ำ-ส้วม แยกออกไปจากตัวอาคาร มีบันไดขึ้นชั้นบนเป็นไม้ แม่บันไดไม้ ลูกบันไดไม้และขั้นบันไดไม้ ราวบันไดไม้ซี่โปร่งมีมือจับเป็นไม้ ห้องชั้นล่างไม่มีฝ้าเพดาน โชว์โครงสร้างไม้ ผนังห้องบางส่วนประดับรูปภาพของผู้สร้างอาคารและบิดาผู้ให้กำเนิดวิชาแพทย์แผนโบราณสืบต่อกันมา ชั้น 2 โครงสร้างทั้งอาคารเป็นไม้ เสาไม้ คานไม้ ตงไม้ และพื้นปูด้วยไม้ (เสารอบอาคารจะเป็นเสา ค.ส.ล.โชว์หน้าเสาด้านนอก) ชั้นบนจะมีห้องนอนคูหาละ 1 ห้อง ไม่มีห้องน้ำต้องลงมาใช้ห้องน้ำในชั้นล่าง ผนังกันห้องระหว่างคูหาเป็นไม้ตีแนวตั้งทับซ้อนโครงเคร่าไม้ภายใน ฝ้าเพดานไม้ ผนังอาคารโดยรอบก่ออิฐเต็มแผ่นหนาฉาบปูนเรียบทาสีแดง ด้านหน้าและด้านหลังจะมีหน้าต่างบานเปิดคู่ลูกฟักไม้ทึบ 2 ชุด มีช่องแสงติดกระจกสี ติดเหล็กแซ่กันขโมย มีหลังคาเพิงกันสาดคลุมชุดหน้าต่างทุกชุดตกแต่งเชิงชายด้วยไม้ฉลุลาย ด้านข้างอาคารทั้ง 2 ด้าน จะมีหน้าต่างบานเปิดคู่ลูกฟักไม้ทึบ มีช่องแสงติดกระจกสี ติดเหล็กแซ่กันขโมย มีหลังคาเพิงกันสาดคลุมชุดหน้าต่างทุกชุดตกแต่งด้วยไม้ฉลุลาย ด้านละ 2 ชุด ผนังหน้าจั่วด้านข้างตกแต่งด้วยคิ้วปูนปั้นที่จั่ว คานและหัวเสา มีคันทวยค้ำยันรับส่วนของหลังคาปิดจั่วหัวและท้ายของอาคาร ฝ้าชายคาเป็นไม้สิ่งที่ขึ้นชื่อโดดเด่นเป็นพิเศษ คือ มีร้านขายยาจีนแผนโบราณ 2 คูหา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีกิจการค้าขายในย่านนี้ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเปิดเป็นร้านขายยาสมุนไพรที่เก่าแก่โบราณมาร่วมนับร้อยปี จะเห็นได้จากชั้นตู้ยาโบราณมีลิ้นชักใส่ยาเป็นช่อง ๆ ชั้นบนสุดตกแต่งด้วยไม้ฉลุลาย มีหีบใส่ยาที่ทำด้วยสังกะสีและหีบใส่ยาทรงกลม กระป๋องหรือ แบบโหลแก้ว ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์จ่ายยา มีปี๊บใส่ยาสมุนไพรโชว์ยาด้านหน้าเคาน์เตอร์ มีเครื่องชั่งยาโบราณและเครื่องชั่งยาสมัยใหม่ เถ้าแก่ยังใช้ระบบการคิดเงินด้วยลูกคิดโบราณอยู่ สวนกระแสกับยุคโลกาภิวัฒน์ ผนังอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นชั้นไม้สูง 4 ชั้นยกขาสูง มีปี๊บเก็บยาโบราณสำหรับเก็บตัวยาชนิดต่างเขียนชื่อติดหน้าปิ๊บไว้ มีตู้ยาโบราณเก็บยาอีก 2 ตู้ ร้านยาบุญส่ง เป็นที่ตั้งศูนย์รวมสมุนไพรไทย-จีน ทุกชนิด หนึ่งในลำปางและในภาคเหนือ ที่ยังคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิม ไม่มีระบบหน้าร้านออนไลน์ มีจุดยืนที่ชัดเจน ใครต้องการยาอะไรเกี่ยวกับทางด้านสมุนไพร มาที่นี่ได้ครบทุกอย่างและตัวเจ้าของเป็นผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์สืบทอดทางศาสตร์แขนงนี้มานานนับร้อยปี รู้จริงอย่างลึกซึ้งและปลอดภัย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สมุนไพรทุกชนิดต้องผ่านมือผู้เสาะหามืออาชีพที่ต้องไปถึงแหล่งของวัตถุดิบของยา การเก็บตัวยาสมุนไพรจะเห็นได้ว่าบรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่เก็บในกระป๋องหรือปิ๊บโบราณซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันความชื้น ป้องกันแมลง มีความคงทน และความเก่าแก่โบราณมาก