มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมเป็นที่สงบมากครับ
สถานที่สัมปายะของผู้ปฏิบัติธรรม...ร่มรื่นด้วยต้นไม้
ที่สำนักวิปัสสนากรรมฐานฟื้นธรรมสถาพร ดีคะ ผีดุดี มีทั้งผี ทั้งเปรต ทั้งอสูรครบครัน เหมาะกับผู้ต้องการปฎิบัติคะ และหากจิตไม่แข็งกรุณาอย่าเข้าไปเชียวนะคะ ดุมากๆ จิตไม่แข็งพอ อาจถึงขั้นหัวใจวายเอาได้ง่ายๆ เหมาะกับผู้ปฎิบัติเพื่อละสังโยช 10 ประการ ทดสอบจิตดีคะ สถานที่สงบผู้คนไม่วุ่นวาย ต่างมิติก็แยะดีไม่เหงา กลางวันก็มาเยี่ยมมาเยื่อน ทำเอาสุนัขหอนกันระงม ชวนขนหัวลุกดี วันแรกที่ไปบวชและพักในกุฎิก็จะชวนขนหัวตั้งดี เพราะมีภาพของผู้สร้างสถานธรรมติดในที่พักแม่ชีเป็นภาพขาวดำ แล้วยิ่งมีหมาหอนผสมโลงด้วย โอ้โฮ คนจิตอ่อน หรือคนเป็นโรคหัวใจ ห้ามเด็ดขาดเลยนะคะ นี่ยังไม่เท่าไหร่นะคะ แค่ภาพ ผู้อุปการะ แต่พอกลางคืน ผู้มาเยียมมาเยื่อนไม่ได้เขิญ มานั่งข้างๆยิ้มหวานให้ หน้าเกือบติดกัน ดีนะที่ยิ้ม ถ้ามาแบบแหกอกควักไส้ ก็น่าคิด? นะ! แต่ยังไม่หมดผู้มาเยี่ยมมาเยื่อนนะคะ มายืนหน้าประตูกุฎิหมาก็หอนจ่อกุฎิกันเลยเหมือนหนังแม่นาคพระโขนงแบบนั้นเลย วันต่อมานี่ยิ่งเด็ดคะมาในสภาพคนก็ไม่ใช่สัตว์ก็ไม่เชิง ตาโตใหญ่ ผมบางๆตัวผอม หน้าไม่ใช่คน เหมือนสัตว์ ท่ายืนเหมือนกบยืนแต่ลักษณะเป็นคน อื่ม นะ รับทราบว่าทุกๆตัว ทุกๆตน ทุกๆดวงวิญญาณมีอยู่ในมิติที่ซ้อนกัน ดีที่หลวงพ่อวิบูลย์ท่านเป็นพระปฎิบัติพระลูกวัดก็ปฎิบัติกรรมฐาน อุทิศบุญ พลังบุญเสริม ได้มาก หลากหลายดวงวิญญาณที่วนเวียนมารับบุญ เก่าไปใหม่มาๆตามแสงแห่งพลังบุญ เป็นเรื่องอจินไตยคะ รู้ได้เฉพาะตน ใครปฎิบัติรู้เห็นได้กันเป็นเรื่องปกติ ใครอยากเห็นอยากรู้พ่อแม่ญาติพี่น้องตายแล้วไปไหน สบายดีไหม นั่งกรรมฐานแบบจริงๆจังๆทำจิตให้สบายนึกถึงพระพุทธเจ้า ภาวนาตามชอบ(พุธโธ) ไม่นานเกินรอคะขอบอก ท่านมาให้เห็นมาบอกให้รู้เลย ประสบกับตนเองมาแล้วเมื่อครั้งพ่อสุวิทย์ อินต๊ะเสียใหม่ๆ ทดสอบกันดูนะคะ ท่านมาบอกมาเล่าเรื่องโลกหลังความตาย และที่ๆจะไปเกิด ตั้งแต่นั้นก็เลยปฎิบัติมากขึ้นๆ เรื่องเล่ามุมเล็กที่สำนักปฎิบัติกรรมฐานฟิ้นธรรมสถาพร