วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณ เดิมเรียกชื่อว่าวัดสะแก มามีตำนานเนื่องในพระราชพงศาวดาร เมื่อปีขาล จัตวาศก จุลศักราช ๑๑๔๔ พุทธศักราช ๒๓๒๕ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิด ราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครเขตด้านตะวันออก จดคลองซึ่งแยกจากคลองมหานาค ตอนเหนือสะพานโค้ง ผ่านไปทางวัดจักรวรรดิ ราชาวาส ปัจจุบันคลองนี้ถูกถมไปแล้วเขตวัดดานตะวันตก จดคลองโอ่งอ่างเขตวัดด้านเหนือ จดคลองมหานาคเขตวัดด้านใต้ มีคูวัดซึ่งขุดจากคลองโอ่งอ่าง เลียบเสนาสนะสงฆ์ไปจดกับคลลองด้านตะวันออก ปัจจุบันคูนี้ถูกถมไปแล้วพระราชทานนามใหม่วัดสระเกศเป็นวัดโบราณดังกล่าวข้างต้น มีข้อความปรากฏตามตำนานว่า เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่สมัยโบราณ สันนิษฐานว่าจะได้สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า “วัดสระแก” เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นวัดสระเกศเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๑ ตอนที่ได้สร้างกรุงเทพพระมหานครครั้งแรก มีปรากฏตามพระราชพงศาวดารว่า เมื่อจุลศักราช ๑๑๔๕ เบญจศก ตรงกับพุทธศักราช ๒๓๒๖ นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้โปรดให้ลงมือก่อสร้างพระนครรวมทั้งพระบรมมหาราชวัง และพระราชวังบวรสถานมงคล ได้รวมผู้คนให้ขุดคลองรอบเมืองตั้งแต่บางลำพูเรื่อยไปจนจดแม่น้ำด้านใต้ตอนเหนือวัดจักรวรรดิราชาวาส แล้วโปรดให้ขุดคลองหลอด และขุดคลองใหญ่เหนือวัดสระแกอีกคลองหนึ่ง พระราชทานนามว่าคลองมหานาค เพื่อเป็นที่สำหรับประชาชนชาวพระนคร ได้ลงประชุมเล่นเพลงและสักวาในเทศกาลฤดูน้ำเหมือนอย่างครั้งกรุงศรีอยุธยา และวัดสะแกนั้นเมื่อขุดคลองมหานาคแล้ว พระราชทานเปลี่ยนนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ”และทรงปฏิสังขรณ์วัดสระเกศทั้งพระอาราม ตั้งต้นแต่พระอุโบสถตลอดถึงเสนาสนะสงฆ์ แลขุดคลองรอบวัดด้วยข้อมูลบางส่วนจาก สมาคมนักเรียนเก่าวัดสระเกศ
ภายในวัดจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้ไปสักการะและกราบไหว้กัน ตั้งแต่เข้ามาในวัดเลย เราก็จะเจอกับ พระอุโบสถที่ประดิษฐานพระประธานปางสมาธิองค์ใหญ่ ผนังรอบๆ พระอุโบสถจะมีภาพจิตรกรรมที่เกี่ยวกับเทวดา ท้าวจตุโลกบาล ภาพพุทธประวัติตอนมารวิชัย ภาพทศชาติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ ภาพไตรภูมิ เป็นความสวยงามที่มองแล้วรู้สึกอิ่มเอง สบายใจมากเลย
ยอดบรรพตเหลืองทองอร่ามตาชวนนำพาให้มาถึงบุญวิถีแม้ได้มองคงต้องใจในธานีนครนี้มีธรรมประจำเมืองเดินขึ้นเขาทางบันไดผ่านพฤกษาเสียงแววมาพาชุ่มช่ำธารน้ำไหลยินเสนาะชำระจิตเศร้าหมองไปให้คงไว้จิตเบิกบานรื่นฤดีเมื่อถึงยอดเจอพระธาตุยกไหว้สาขอนำพาความมงคลปกเกศีช่วยให้ลูกตระหนักซึ่งการทำดีให้ชีวีมีกำลังคงยืนยงมองรอบๆสุริยนเหลือบขอบฟ้าแสงส่องมาต้องพระธาตุงามผ่องใสบรรยากาศมองโดยรอบช่างเพลินใจสุขฤทัยชมกรุงเทพฯสวยงดงาม#บันทึกสีเทา
🌡ก่อนเข้าวัดมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ📶ช่วงนี้คนไม่ค่อยเยอะ เดินขึ้นได้เรื่อยๆ บันไดถี่ แต่ไม่ชัน☕ระหว่างทางขึ้นจะมีร้านกาแฟบริการอยู่ ราคาสูงสุด60บาท❌👞เมื่อถึงฐานเจดีย์ไม่ต้องถอดรองเท้า สามารถใส่เข้าไปได้เลย เพราะทางขึ้นกับทางลงอยู่คนละด้าน💧ภายในฐานสามารถทำบุญขอพร และถวายสังฆทานได้ มีตู้ขายน้ำเปล่า น้ำผลไม้และน้ำอัดลมด้วยนะ💪ทางขึ้นไปที่ตัวเจดีย์ชัน แคบ เล็ก ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง🟨ทำบุญห่มผ้าไตร 100 บาท มีจุดบริการอยู่ด้านบนเลย วิวสวยมาก
วัดสะอาด ทางขึ้นเดินสะดวก ตีระฆังขึ้นไป ห้องน้ำเยอะดี ชาวพม่าวัยรุ่นชวนกันมาเข้าวัดเยอะมากๆๆ วัดสวยงาม มีพระบรมสารีริกธาตุของแท้แห่งพระพุทธเจ้าด้วย เป็นส่วนที่รับคืนมาจากชาวอังกฤษที่ไปขุดค้นพบหนึ่งในสถูปขนาดใหญ่ในอินเดีย จนพิสูจน์แลัวว่าเป็นพะอบบรรจุอัฐิของพระพุทธเจ้า ในหลวงรัชกาลที่5ได้รับคืนมา แล้วแบ่งเป็นสามส่วน 1.เก็บรักษาในวัง โดยในหลวงรัชกาลที่9 ได้ทรงแบ่งส่วนหนึ่งคืนกลับไปยังแผ่นดินแม่คืออินเดียเมื่อสัก20ปีก่อนนี้ ไปเก็บไว้ในวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชส่วน2. มอบให้ญี่ปุ่น ที่วัดในเมืองโอซาก้า..น่าจะใช่น่ะ ส่วนที่3. เก็บไว้บนยอดเจดีย์สีเหลืองวัดสระเกศชาวพุทธท่านใดว่าง น่าแวะไปกราบไห้วบูชาครับ สาธุ
ไปช่วงนี้ยังมีโควิดระบาดค่ะ คนค่อนข้างเยอะนะคะ เรียกว่าเบียดเลยค่ะ แนะนำไปวันธรรมดาจะดีกว่า ด้านในมีที่จอดรถพอควร ขับมาจอดฝั่งร้านนำทองค้าไม้ จะเจอทางเข้าวัดพอดีค่ะ ทางขึ้นด้านบนพระธาตุค่อนข้างชัน ระวังกันนิดนึงค่ะ ระหว่างทางขึ้นมีร้านกาแฟและเบเกอรี่ แต่ไม่ได้ลองชิมเพราะลูกค้าค่อนข้างแน่นร้าน เจ้าหน้าด้านบนไม่มีดูแลนะคะ มีเฉพาะตรงทางขึ้น ดูแลสวมหน้ากากกันด้วยค่ะ
มาถึงตอนเย็น เวลาทำวัตรเย็นค่ะ วันนี้วันพระ อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่มาสร้างบุญบารมีนะคะวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2325 และในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้างพระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องราวของวัดสระเกศ หรือในปัจจุบันที่เรารู้จักกันในนามวัดภูเขาทองนั้น ในอดีตเคยเป็นศูนย์รวมของแร้งนับพันอันเนื่องมาจากโรคห่าระบาดเมืองในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งการระบาดของโรคนี้ทำให้มีคนล้มตายหลายหมื่นคน แม้แต่แม่น้ำลำคลองก็ยังเต็มไปด้วยซากศพ ทำให้ใช้น้ำอาบกินไม่ได้เลย ด้วยเหตุโรคระบาดนี้ทำให้คนตายกันไม่รู้วันละกี่พัน จัดพิธีทำศพไม่ทัน จะเผาก็ไม่ทัน จะฝังก็ไม่ทันอีก.. ภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน “ก็กลายเป็นเมืองที่มีแต่คนตาย แทบจะทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยซากศพ” ซึ่งในอดีตวัดสระเกศเป็นจุดที่ทางการนำศพคนตายจากโรคห่า ศพไร้ญาติ และศพนักโทษมาทิ้งไว้ โดยขุดหลุมและเอาศพมากองรวมกัน ทำให้ที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยซากศพแทบทุกตารางนิ้ว และเกิดเป็นจุดศูนย์รวมของแร้งนับพันที่มาเกาะกินซากศพด้วยจำนวนศพมากมายที่ไม่สามารถเผาทำลายไหว จึงต้องใช้วิธีให้แร้งช่วยกำจัดศพให้ และสาเหตุที่ต้องเป็นวัดสระเกศก็เพราะ เมื่อสมัยก่อนมีกฎห้ามเผาศพกันในเมือง หากใครเสียชีวิตต้องนำไปเผานอกกำแพงเมือง และประตูเมืองที่สามารถนำศพผ่านได้ก็มีอยู่ประตูเดียว เรียกกันว่าประตูผี ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดสระเกศมากที่สุดนั่นเอง
โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมือง อยากมห้ทุกท่านได้มีโอกาสสักการะบูชา พระบรมสารีริกธาตุบนนอดภูเขาทองอันงดงาม
วันสระเกศ หรือรู้จักกันดีในชื่อภูเขาทอง การเดินทางมาถ้าโดยรถส่วนตัวจะสามารถหาที่จอดรถ บริเวณรอบๆ หรือตามจุดจอดของวัดใกล้ๆได้ หากมาเอง สามารถนั่งเรือโดยสารมาลองที่ แยกผ่านฟ้า โดยนั่งได้จาก BTS ลงสถานี ราชเทวี แล้วเดินมาขึ้นเรือที่ป้าย หัวช้างได้ ภูเขาทองสามารถเดินขึ้นบันได 344 ขั้นมีจุดพักกินกาแฟได้ระหว่างทาง เมื่อถึงด้านบนจะมี ทางขึ้นเล็กๆ ให้ขึ้นไปถึงยอดด้านบนได้
อยู่ก่อนเข้าไปทางขึ้นภูเขาทองด้านขวามือ ทางเข้าเล็กๆแคบๆถ้าไม่สังเกตดูก็อาจเดินเลยไปก็ได้ เป็นถ้ำที่จำลองมาจากถ้ำบามิยัน ที่ประเทศอัฟกานิสถาน ที่ได้ถูกพวกตอลีบานระเบิดทำลายเสียหาย ภายในถ้ำบามิยันได้ถูกนักภาษาศาสตร์ค้นพบ เศษคัมภีร์ใบลานทางพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้นำมาปะติดปะต่อกันจึงได้รู้ว่าเป็นคำสอนของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักฐานทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่มากเกือบๆสองพันปี ถ้ำบามิยัน และพระพุทธรูปยืนเสียหายมากไม่สามารถซ่อมแซมให้คืนสภาพกลับมาเหมือนเดิมได้ ซึ่งน่าเสียดายมาก มาก็เข้ายืนนิ่งๆดูนะ เป็นอะไรที่ดี
วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) อยู่นอกกำแพงเมือง ริมคลองมหานาค ตรงที่บรรจบกับคลองบางลำพู เดิมเป็นวัดเก่าชื่อว่า “วัดสะแก” ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระราชทานนามว่า”วัดสระเกศ” ส่วนเจดีย์ภูเขาทองนั้นเริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับพระราชทานนามว่า”บรมบรรพต” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่บูชาไว้ในพระบรมมหาราชวังและพระบรมสารีริกธาตุที่ทางรัฐบาลอังกฤษเมื่อครั้งยังปกครองประเทศอินเดียถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานในพระเจดีย์ภูเขาทองกำหนดให้มีงานนักขัตฤกษ์ฉลองพระเจดีย์ภูเขาทองและพระอารามหลวงวัดสระเกศ ระหว่างขึ้น 8-15 ค่ำ เดือน 12 เป็นประจำทุกปี บรมบรรพตหรือพระเจดีย์ภูเขาทองปัจจุบันมีขนาดสูงจากฐานถึงยอด 63.6 เมตร
สังเกตุให้ดี เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ใช่ เดินวนขึ้นบันไดไปจนถึงห้องหรือจะเรียกศาลาหรืออะไรก็ไม่รู้แล้วแต่จะเรียก จะมีที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ตรงกลาง แล้วก็มีบันไดให้เดินขึ้นไปจนถึงลานบนยอดเจดีย์อีก ซึ่งอยู่บนพระบรมสารีกธาตุอีกที นึกดูดีๆว่าเดินขึ้นไปเหมือนขึ้นไปเดินวนบนหัวพระพุทธเจ้าถึงแม้ตำแหน่งมันจะไม่ตรงเปะก็ตาม แต่พระธาตุอยู่ต่ำกว่าเท้าแน่นอน
วัดสระเกศเจดีย์บรรจุพระสารีริกธาตบนยอดพระเจดีย์
ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมีประวัติศาสตร์ของประเทศกราบสักการะพระพุทธรูปอยู่ในที่สูงของกรุงเทพฯมองเห็นวิวชัดเจน
เย็นสบาย สงบ สะอาด แนะนำเวลา 16.30 มี ทำวัตรเย็นที่โบสถ์ และเดินขึ้นภูเขาทอง มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศาสนาพุทธในประเทศไทยยาวนาน
สวยงามและน่าเยี่ยมชมเป็นที่สุด ข้างบนมีเจดีย์สีทองอร่าม ร่มรื่นมากๆเดินได้รอบๆ ห้องน้ำสะอาด ได้ทำบุญรอบวัดเลย
มาอยู่กรุงเทพก็นาน นั่งรถผ่านไปผ่านมาหลายปี จนวันเข้าพรรษา ปี2563 ได้มาที่ (วัดภูเขาทอง)ครั้งแรก รู้สึกประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสจะมาเยือนที่นี่อีก เพราะทำให้จิตใจสงบ☺️☺️
พระบรมบรรพตหรือภูเขาทองนมัสการพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบันไดไปประมาณ400ขั้นชมวิวได้360องศาลมเย็นมีวิหารหลวงพ่อดำ อยู่ตรงข้ามกับถนนราชดำเนินและวัดราชนัดดา
บรรยากาศดีสงบมาก คนไม่เยอะ คนน้อยมาก
เป็นวัดใจกลางเมือง ที่สวยขึ้นไปด้านบนมองเห็นวิวกทม.สวยมากๆ
วัดสวยงามมาก แดดร้อนไปนิดนึงเพราะไปช่วงเที่ยงวัน กว่าจะเดินไปถึงยอดภูเขาทองเล่นชะปวดขาเลยแต่ด้วยวิวระหว่างทางที่ขึ้น-ลงสวยมาก ทำให้หายเหนื่อย
สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา มีการจัดสถานที่เพื่อให้ความรู้ตลอดเส้นทางขึ้นด้านบน ด้านบนมีวิวสวยงาม เห็นวิวกรุงเทพในมุมกว้าง
สวยมาก อนุโมทนาบุญ มาทันก่อนปิด คือดีมากๆครับได้ขึ้นสวรรค์ด้วย
ทางขึ้นพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) บันได 344 ขั้นเตี้ย ๆ เลยไม่ได้รู้สึกว่าสูงเท่าไหร่ พาผู้ใหญ่ไปได้ ด้านบนสุด (ทางขึ้นสวรรค์) สามารถเห็นวิวกรุงเทพฯสวยงาม
วัดสระเกศ หรือ ภูเขาทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านเกาะรัตนโกสินทรงด้วยความสูงที่สูงกว่าตึกรามบ้านช่องที่ห้ามสร้างสูง ทำให้บนภูเขาสามารถชมวิว วัด วังได้สวยงามมาก แนะครับ
ไม่มีคำบรรยาย บอกได้แต่ว่า หากมีโอกาส ครั้งหนึ่งคุณต้องมา วัดพัฒนาทุกๆปี มิใช่เพียงแต่ได้ชมบรรยากาศเกาะรัตนโกสินทร์แล้ว ยังได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเมืองด้วย
ไหว้พระขอพรพระธาตุ และ ขอพรเรื่องขายที่ดินแนะนำครับ แถมวิวสวยด้วยครับ
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) เป็นวัดที่มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวเยอะ โดยเฉพาะชาวจีน ด้านบนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงมีผู้คนมาสักการะขอพรเป็นจำนวนมาก ทางเดินขึ้นภูเขาทองเป็นบรรไดปูนที่สร้างมาอย่างดี ด้านข้างมีเครื่องพ่นละอองน้ำทำให้ไม่ร้อน มีที่จอดรถรอบวัด มีห้องน้ำด้านล่างที่สะอาด อากาศด้านบนร้อนเพราะไม่มีที่บังแดด ด้านบนสามารถมองวิวรอบกรุงเทพฯ ได้ 360 องศา
สวย ร่มรื่น เหมาะแก่การพาพ่อแม่ไปทำบุญ
เป็นที่ที่สวย ตลอด 24 ชั่วโมง อากาศก็ดีต้นไม้เยอะ ของกินก็มีรอบๆวัด ครบจบในที่เดียว
วัดสะอาดเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลดีมาก ที่ไหว้พระและทำบุญมีหลากหลายแบบให้เลือกทำบุญได้ตามจิตศรัทธา มุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมากๆ ที่สำคัญห้องน้ำดีงามมาก
สะอาดสงบ ร่มเย็น มีความศักดิ์สิทธิ์ในแต่ละที่
บันไดสามร้อยขั้นสบ๊าย.. นั่งสบายเลย
ภูเขาทอง วัดสระเกศ อยู่ใกล้ท่าเรือผ่านฟ้า ใกล้กับวัดพระแก้ว พาหุรัด นั่งเรือ หรือนั่งรถเมล์ก็สะดวก แนะนำช่วงตอนเช้าตรู่ไม่เกิน 9 โมงเช้า และมาช่วงเย็นหลังจาก 5 โมงไปแล้ว อากาศจะเย็นสบายดี ควรนำเสื้อแขนยาวมาด้วยเพราะข้างบนภูเขาทอง ลมแรงมากวิว ทิวทัศน์ด้านบนสวยงามมากมองเห็นวิวกรุงเทพรอบๆได้หมด นอกจากนี้ด้านบนเป็นเจดีย์ภูเขาทอง หากใครอยากทำบุญ เขาก็มีถวายสังฆทาน ถวายผ้าไตร ด้านบน ด้วยเช
สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาก การเดินขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างช่างน่าตื่ยเต้นมากๆๆ
ขอให้เหตุการณ์บ้านเมืองสงบสุขเร็วๆ โรคโควิดหายไปจากประเทศไทยเร็วๆ จะได้ไปกราบไหว้ท่านอีกครั้ง
🙏🏻 สุขใจทุกครั้งที่ได้ไป แต่ครั้งนี้โชคดีมากกว่าทุกครั้ง เพราะได้ร่วมบุญกับคณะผู้นำบุญผ้าห่มพระธาตุ(จัดทุกวันอังคารสัปดาห์แรกของเดือน)
สวยงามมากน่าไปเที่ยวถ่ายรูป,ด้านบนเจดีย์ภูเขาทองมีบันไดเดินขึ้นไปสูงหลายขั้นเทียบกับตึกหลายชันทีทีเดียว,มองออกไปรอบหน้าต่างด้านบน,เห็นทิวทัศน์ในกรุวเทพมหานครหลายแห่ง,มีเจดีย์ภูเขาทองด้านบนสุด,มีพระบรมสารีริกธาตุ,ให้สักการะบูชา ชาวต่างชาติมาเที่ยวชมมากมาย,ทางขึ้นเจดีย์ภูเขาทองตลอดทางขึ้นตกแต่งอย่างสวยงาม.มีที่น่าสนใจอีกเยอะมาก .
ผมเคยขึ้นภูเขาทองหลายครั้ง ครั้งหลังสุดขึ้นเมื่อปี 2555 ไปในช่วงที่กำลังจัดงานวัดพอดี จึงได้ภาพงานวัดภูเขาทองมาเป็นที่ระลึกด้วย
โควิด ปิดไม่ให้ขึ้นชม
ภาพบรรยากาศตอนกลางคืนสวยมากครับ
ทำบุญ พร้อมชมวิวกรุงเทพแบบฟินๆ 360องศา ตกแต่งอย่างสวยงาม บนภูเขาทองมีพระบรมสารีริกธาตุ และยังเป็นหมุดสะดือประเทศอีกด้วย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาไม่ขาดสาย ใครที่มากรุงเทพฯ ครั้งแรกควรมาแวะสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล
สงบมีสมาธิทุกครั้งที่มา
ช่วงนี้ปิดครับ ปิดวันที่1 ก.ย. 2564จนถึงสิ้นเดือนครับ
ภูเขาทองสูงตระหง่านมองเห็นจากระยะไกล สามารถเดินขึ้นไปกราบพระบรมธาตุข้างบนในเจดีย์ได้ ข้างบนมองเห็นวิวได้ 360° ลมพัดเย็นมาก ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดินสวยงาม
สวยงดงามมากภายในยอดเจดีย์สูงสุดมีพระพุทธรูปปางต่างๆงดงามสวยมาก
สวยงาม ดูเด่นเป็นสง่า ได้ไปแล้วอยากไปบ่อย ๆ
ร่มรืนเย็นสบายอากาศดีค่ะ
สะดือเมือง กทม เดินขึ้นไปด้านบน มีพระบรมศารีริกธาตุ ด้านบนสุดเป็นเจดีย์ภูเขาทอง สามารถชมวิว 360 องศาของถนนราชดำเนินได้
วิวกรุงเทพ 360 องศาขึ้นมาด้านบน มองเห็นวิวเมืองสวยมาก อากาศดี
ไหว้พระขอพร พบเจอแต่สิ่งดีดี นะคะ
วัดที่อยู่ใกล้แต่ไปไม่ค่อยถึง แต่ไปแล้วตะลึง น่าทึ่ง และมีประวัติน่าสนใจ น่าไปไม่ควรพลาด กลางคืนน่าสะพรึง วิวทิวทัศน์ของกทมที่เห็นจากภูเขาทองก็สวยงามน่าสนใจ
เป็นวัดที่สวยมาก ใครที่ไม่เคยเห็นวิวมุมสูงของกรุงเทพให้ไปไหว้พระที่วัดภูเขาทอง ตลอดทางเดินขึ้นบันไดเราจะได้เห็นการจัดสวนที่ร่มรื่นและสงบเย็นแถมยังมีเปิดเสียงเทศธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ คุณจะได้ความสงบสุขใจกลับบ้านแน่นอน
วัดภูเขาทอง มีตักยาตรเทโว
บรรยายดีค่ะวิวสวยแต่เดินไกลนิดแต่คุ้มค่าค่ะ
วัดสระเกศ เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2325 มูลเหตุที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระราชทานเปลี่ยนชื่อวัดสะแก เป็นวัดสระเกศนี้ มีหลักฐานที่ควรอ้างถึงคือ พระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีข้อ 11 ว่ารับสั่งพระโองการ ตรัสวัดสะแกเรียกวัดสระเกศแล้วบูรณปฏิสังขรณ์ เห็นควร ที่ต้นทางเสด็จพระนครทรงพระราชวิจารณ์ไว้ว่าปฏิสังขรณ์วัดสะแกและเปลี่ยน ชื่อเป็น วัดสระเกศเอามากล่าวปนกับวัดโพธิ์เพราะเป็นต้นทางที่เสด็จเข้ามาพระนครมีคำ เล่า ๆ กันว่า เสด็จเข้าโขลนทวารสรงพระมุธาภิเษกตามประเพณีกลับจากทางไกลที่ วัดสะแก จึงเปลี่ยนนามว่า วัดสระเกศ
ควรหาโอกาสไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่ภูเขาทองห่มผ้าพระสักครั้งนึง
ทางวัดจัดระเบียบได้ดีเยี่ยม เงียบสงบเหมาะแก่การมาทำบุญ
สวยงามมีธรรมะตลอดทางสงบร่มรื่น
สวยงามร่มเย็นธรรมมะ
วันนี้เข้า-ยาก มีรั้วปิดกั้น+ทางสัญจรคับแคบ ไม่สะดวกสัญจร ไม่สวยงาม ในอดีตเมื่อปี2533 สถานที่นี้งดงาม กว้างขวาง สัญจรสะดวกดีกว่าวันนี้มากนัก
มันสวยงามมากครับ ใครมีโอกาสเดินทางก็ไปเเวะดึได้
ได้ไหว้พระ ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วยพร้อมกัน ขึ้นไปถึงด้านบนสุดเห็นวิวเมืองกรุงได้สวยๆ รองเท้าไม่ต้องถอดนะจ๊ะ ตอนลงต้องเดินวนลงอีกทางหนึ่ง ด้านบนมีร้านทางวัดขายเครื่องดื่ม ที่จอดรถมีได้หลายคันรอบโบสถ์ด้านล่างจ้า
เดินขึ้นภูเขาทอง..อากาศดีค่ะ..ได่ไหว้พระทำบุญ..วิวสวย
วิวด้านบนสวย
วัดสวยกลางกรุง
กราบสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาติมาจากกรุงกบิลพัสดิ์ ที่จุดสะดือเมือง กรุงเทพมหานคร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย ที่ชาวไทยเราควรมาสักการะทุกปีสาธุ สาธุ สาธุนิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ
สถานที่เงียบสงบ เดินขึ้นไปบนภูเขาทองนิดหน่อยจะเจอกับร้านกาแฟเล็กๆของวัด
วัดสระเกศภูเขาทอง พระบรมบรรพต องค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุงามตระการที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนภูเขาจำลองที่สูงที่สุดใน กทม.โดดเด่นตรึงตาชวนให้ผู้คนทั่วโลกที่ได้ยลยินและรู้จักอยากมาเคารพสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากนี้ยังมีสถานที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เคารพบูชา เช่นลานพระศรีมหาโพธ์ พระประธานในอุโบสถ พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร พระยืนสูงที่สุดในกทม. หลวงพ่อดุสิต หลวงพ่อดำ หลวงพ่อโต และศาลาพระคัมภีร์ 2000 ปี ศาลาการเปรียญ ลานกิจกรรมพระเจดีย์ทราย เจดีย์ข้าวสาร ให้ศึกษาและเที่ยวชม
ขอเชิญชวนครับมากราบไหว้องค์พระสารีริกธาตุเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับชีวิต
วัดที่สวยงาม
วัดสระเกศ วัดดังแห่งหนึ่ง ประชาชนชาวไทยต้องรู้จัก โดยเฉพาะ วัดนี้มีภูเขาทอง ขึ้นไปกราบพระ บนภูเขาทองได้ บรรยากาศ ทิวทัศน์สวยงาม แต่ต้องไปช่วงบ่ายๆ แดดร่มสักหน่อยน่าจะดี และเทศกาลที่ขาดไม่ได้คือ การลอยกระทง ที่ภูเขาทอง
มองคนละมุม..ที่มีความงดงาม
ประวัติแก้ไขวัดสระเกศ เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2325 มูลเหตุที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระราชทานเปลี่ยนชื่อวัดสะแก เป็นวัดสระเกศนี้ มีหลักฐานที่ควรอ้างถึงคือ พระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีข้อ 11 ว่ารับสั่งพระโองการ ตรัสวัดสะแกเรียกวัดสระเกศแล้วบูรณปฏิสังขรณ์ เห็นควร ที่ต้นทางเสด็จพระนครทรงพระราชวิจารณ์ไว้ว่าปฏิสังขรณ์วัดสะแกและเปลี่ยน ชื่อเป็น วัดสระเกศเอามากล่าวปนกับวัดโพธิ์เพราะเป็นต้นทางที่เสด็จเข้ามาพระนครมีคำ เล่า ๆ กันว่า เสด็จเข้าโขลนทวารสรงพระมุธาภิเษกตามประเพณีกลับจากทางไกลที่ วัดสะแก จึงเปลี่ยนนามว่า วัดสระเกศในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้างพระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานนามว่า “สุวรรณบรรพต” มีความสูง 77 เมตร บนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์ และพิสูจน์ได้ว่าเป็นของพระสมณโคดมซึ่งเป็นส่วนแบ่งของพระราชวงศ์ศากยราชเพราะมีคำจารึกอยู่ [2]
ชอบมากเลย....มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก เดินทางไม่ยาก
มาถึง กทม ต้องมานะ
ช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น เดินขึ้นไปคุ้มค่่าจริงๆ
ครั้งนี้ครั้งที่3ในช่วงโควิชจากช่วงวัยรุ่นและวัยทำงานไม่ได้ไปหลายปีร่วมอนุโมทนาบุญกันค่ะ
สวยงามครับ เสียดายยังไม่ได้ขึ้นไปข้างบน ถ้ามีเวลาจะไปใหม่ให้ได้ครับ ใครอยากไป ช่วงนี้คนน้อยดีครับ
พระอารามหลวง ที่สำคัญเเละเก่าเเก่ อยู่คู่กรุงรัตนโกสินต์ มาตั้งเเต่สมัยรัชกาลที่ 1
วัดสวย สะอาด ร่มรื่น ที่จอดรถสะดวกสบาย มีน้ำดื่มขายบนภูเขาทอง
มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
ไหว้พระ ทำบุญ บรรยากาศบริเวณวัดดีมาก ห้องน้ำสะอาดแนะนำให้มาช่วงบ่ายไปถึงช่วงเย็น
วัดสำคัญกลางกรุงที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของกรุงเทพ
บรรยากาศดี เดี๋ยวนี้เดินทางได้สะดวกขึ้น อยู่ไม่ไกลจาก Mrt สามยอด
วันนี้มีตำนานมากมายและมีพี่ที่วัดมีพิพิธภัณฑ์สามารถเดินชมได้ทั้งวัน
ตอนกลางคืนสวยมากๆ
เป็นอีกวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะเยอะมาก แต่ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนก่อน ภูเขาทองขึ้นได้ไม่เหนื่อย แต่เมื่อยขาหน่อย ใครปีชงแนะนำให้ไปช่วงวันที่ 1 ทางวัดจะมีให้ไหว้เพื่อแก้ชง ซึ่งดีมาก เราผ่านปีชงมาโดยไม่เจ็บหนัก ไม่เจออะไรแรงๆเท่าไหร่
พระเจดีย์วัดสระเกศ. สวยมากเลยครับ
สวยงามยิ่งนัก