เนินช้างศึก อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของฝั่งไทยและฝั่งพม่าที่สวยงามทั้งชมพระอาทิทย์ตกที่สวยงาม สามารถมองเห็นหมู่บ้านอีต่อง ด้านล่างได้อย่างชัดเจน รับแสงอรุณยามเช้า สัมผัสอากาศหนาว และทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ ในช่วงทีทัศนวิสัยดี สามารถมองเห็นทะเลอันดามัน ฝั่งประเทศพม่าได้อีกด้วยฐานช้างศึก หรือ เนินช้างศึก บางคนเรียก ยอดดอยปิล็อก บ้างก็เรียก ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด. บริเวณจุดชมวิวเขาสูง (เนินช้างศึก) เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นฐานที่มั่นของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาถึงดินแดนแถบนี้ มาเยี่ยมเยือนอยู่มิขาด พลอยทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำการอยู่ มีเพื่อนคุยแก้เหงาได้เป็นอย่างดีการเดินทางโดยรถยนต์จากอำเภอเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ไปตามทางสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) ระยะทางประมาณ 146 กม. ผ่าน อ.ไทรโยค ไปเรื่อยจนถึงสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหมายเลข 3272 (หากเลี้ยวขวาจะไปอ.สังขละบุรี) หากไปด้วยรถโดยสารประจำทางในสถานีขนส่งเมืองกาญจน์ มีรถทองผาภูมิ-สังขละ ออกทุกๆ 40 นาที เวลา 6.00-18.20 น.จากอำเภอทองผาภูมิ ตรงไปยังเส้นทางเขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) แล้วเข้าไปทางบ้านไร่ 30 กม. จากบ้านไร่ไปอีกประมาณ 30 กม. (เส้นทาง 399 โค้ง) ก็จะถึงยังบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก เนินช้างศึกจะอยู่ซ้ายมือก่อนเข้าบ้านอีต่องราวๆ 1 กิโลเมตรมีป้ายบอกทางชัดเจน ทางเข้าเป็นทางลูกรังสลับถนนปูนเส้นทางสูงชัน (รถเก๋งพอขึ้นได้ในฤดูร้อนและฤดูหนาว) รถใช้ก๊าซ LPG ควรเติมให้เต็มถังที่ปั๊มก่อนถึงน้ำตกผาตาด จากเมืองกาญราวๆ 120 กิโล ปั๊มอยู่ฝั่งขวามือหรือจะเหมารถสองแถว มีรถสองแถวและรถกระบะให้เช่าเหมาพร้อมคนขับและน้ำมันรถ บริเวณสถานนีขนส่ง จ. กาญจนบุรี (นั่งได้ 8- 10 คน) ค่าบริการประมาณวันละ 800 – 1,500 บาท รวมน้ำมัน

ทางขึ้นอาจจะลำบากหน่อยช่วงน่าฝน แต่ถ้าไม่ขึ้นมา ถือว่ายังมาไม่ถึงนะครับ หลังจากฝ่าฟันทางลาดชั้นทั้งหลายมา และหลุมต่าง ๆ เมื่อได้ขึ้นมาแล้ว ท่านก็จะพบกับวิวที่คุ้มค่าที่สุด คุณจะลืมความเหนื่อยทุกอย่างไปในทันที จะได้รับอากาศที่สดชื่นและวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ขึ้นไปถือว่าพลาดอย่างมากเลย วิวที่ไกลจนเห็นทะเลอันดามันฝั่งพม่า ที่มองจากฝั่งประเทศไทย ไม่ได้หาดูง่ายๆนะครับ

แนะนำใช้รถชาวบ้าน มาคนละ 50 บาท ถนนแคบ และชัน พื้นไม่เรียบ อีกอย่าง เราไปเที่ยวแล้ว ช่วยกันอุดหนุนชาวบ้านนะคะ เขาจะได้มีให้เราเที่ยวไปนานๆ ดูได้ทั้งพระอาทิตย์ตก และ พระอาทิตย์ขึ้นเลย เป็นวิว 360องศา ถ้าไปหน้าฝน คงเห็นทะเลหมอกเป็นแน่แท้

ถ้าทำจุดชมวิวให้สวยกว่านี้ น่าจะทำให้น่าสนใจมากขึ้นค่ะ แนะนำให้ใช้รถท้องถิ่นขึ้นเนินช้างศึก...ปลอดภัยกว่าค่ะ

จุดชมวิวที่เราสามารถมองวิวรอบๆได้แบบ 360 องศา

🚩วิวสวยงามมากๆ..เหมาะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกดิน มีภูเขาที่สวยงาม แต่ถนนทางเข้าแย่มาก เป็นหลุมเป็นบ่อ รถเก๋งไม่แนะนำให้ขึ้นมาครับ จะมีรถนำเที่ยวของที่บ้านอีต่อง คนละ 50 บาท

ทิวทัศน์สวยงานลมพัดเย็นสะบาย ถ้าอากาศดีจะมองเห็นฝั่งพม่า แต่วันที่ไปหมอกควันเยอะมองไม่เห็น

เนินช้างศึกอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล​ 1,053 เมตร​เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์​ของไทยและฝั่งพม่าที่สวยงาม​ ชมพระอาทิตย์​ตกและขึ้นที่สวยงามมาก​ช่วงหน้าหนาว สัมผัสอากาศหนาวเย็นพร้อมทะเลหมอกที่สวยงาม​ และเนินช้างศึกจะเป็นจุดยุทธศาสตร์​จุดหนึ่ง​ของชายแดนไทยและพม่า​ เป็นฐานที่มั่นของตำรวจตระเวนชายแดน​

ผมไปมาปี 2563 บรรยากาศดีมากๆ วิวสวยมากๆ เต็ม 10 ให้ 100 เลยคับ ช่วงเช้าอากาศเย็นมาก ถูกใจชอบมากคับ แต่ทางเข้าค่อนข้างอันตรายนิดนึงไม่แนะนำให้เดินทางตอนกลางคืนเนื่องจากพื้นที่เป่นป่าเขาจึงไม่มีไฟส่องสว่าง

ทางขึ้นแบบเอารถขึ้นไปวิวดีตลอดทาง แต่อย่าขับเร็วมากเพราะพื้นที่มีแต่หลุมและเส้นทางไม่อำนวยปิ้กอัพยังไม่รอดเลย ขึ้นไปแล้วอย่าเอาอาหารขนมไปด้วยเพราะสุนัขเยอะ

จะไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ดันเจอลมกะหมอกซะงั้น ตลอดเส้นทางจะมีหลุมบ่อ แต่พอขึ้นไปบนสุด สวย อากาศดี

ตื่นตี5ขึ้นรถตี5ครึ่งมาคนละ50บาทไปกลับประมาณ2กม อยู่จนพระอาทิตย์ขึ้น อากาศหนาวมาก ควรเกียมเสื้อหนาว เสื้อกันลม รองเท้าผ้าใบ รึรองเท้าแตะแต่ใส่ถุงเท้าด้วย หมวกห้ามลืม ถุงมือด้วยยิ่งดี หนาวจนมือชา คนสูงวัยควรเตรียมให้พร้อมฮ่ะ เพราะอยู่บนเขาเป็นชม สงสาร ลมค่อยข้างแรงมากๆ แต่อากาศดี วิวสวยมากๆ ที่ตรงนี้อยู่แนวไทย-พม่า จะมองเห็นวิวทั้ง2ฝั่ง อยากให้มากันเพราะบางทีก็ปิด บางทีก็เปิด เพราะเป็นช่วงโควิด หลังจากนี้น่าจะโอเค

คืออ่านรีวิวจากที่อื่นมาเห็นคนไปกางเต้นท์ที่นี่เลยไปค่ะ แต่จริงๆเนินนี้เขาเปิดให้ชมวิวพระอาทิตย์อย่างเดียวนะคะ ไม่มีให้กางเต้นท์แล้ว พอดีจังหวะที่ขึ้นไปมันมืดแล้วเจ้าหน้าที่ก็เลยอนุโลมให้เข้าไปพักได้ รวมๆๆแล้วอากาศดีและก็วิวสวยมาก มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้ชัดมากเลย

อากาศดีทั้งปี โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาว หมอกจะเยอะมากๆ ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ ที่นี่เหมาะกับการเที่ยวตลอดทั้งปี

งามขนาดเน่อ ลมเย็น แดดบ่อฮ้อน มองเห็นบ้านอีต๋องข้างล่างด้วย ทางรถไม่ค่อยดีอาจมีปัญหากับรถที่ใต้ท้องเตี้ย

บรรยากกาศดีครับแต่ถ้าจะมากลางเต้นต้องหาสมอปกดีๆหน่อนและถุงนอนหรือผ้ห่มหนาๆหน่อยเพราะกลาวคืนหนาวมากแต่ช่วงนี้ทำใจหน่อยห้องน้ำเละเทะไม่มีน้ำให้ใช้

ที่2เวลาตี 5.30 ตอนเช้าเตรียมตัวขึ้นไปเนินช้างศึกเพื่อไปดูพระอาทิตขึ้น แอดนั่งรถรับส่งขึ้นไปคนละ 50 บาทอันนี้สามารถติดต่อกับที่พักได้เลยเขามีพาไปหลายที่อยู่แต่แอดเลือกไปที่เดียวเพราะทางขึ้นเนินช้างศึกแอดบอกคำเดียวเลยว่าโหดมากๆใครเอารถเล็กมาคือไม่เหมาะอย่าแรงเลยค้า!!!แต่จะบอกว่าคุ้มมากๆ เลยนะคะ

ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูมากนัก แต่ถ้ามาบ้านอีต่อง ก็ควรจะเช่าสองแถวคนละ 50 บาท ประมาณ 10 นาทีขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือตกครับ มีอนุสรณ์สถานของ พลเอก ตะวัน เรืองศรี และเห็นเนินเสาธง ชายแดนไทย-พม่าครับ

สวยงามมากกกก วิวทะเลหมอกยามเช้า ถึงจะมีฝนตกในช่วงวันที่ไปเที่ยว แต่ก็ได้สัมผัสวิวทะเลหมอกอันสวยงามของเนินช้างศึก แบบว่าต้องกลับไปซ้ำอีกอย่างแน่นอน เส้นทางไปเนินช้างศึก มีความแอดเวนเจอร์บ้าง ควรใช้บริการรถนำเที่ยวดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราและยานพาหนะ

จุดชมทะเลหมอกตอนเช้าและตอนเย็น บางวันอาจไม่มีหมอกให้เห็น ทางขึ้นทั้งชันและพังบางจุด รถไม่พร้อมไม่ควรขับขึ้นไป มีอีกทางเลือกคือใช้รถบริการจากหมู่บ้านอีต่อง ค่ารถคนละ50บาท

บรรยากาศสุดยอดเหมาะรับลมหนาวๆวิวสวยๆดูพระอาทิตขึ้นและตกเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกางเต้นต้องดีเพราะลมอย่างหนักห้องน้ำยังไม่ค่อยสะดวก

ยังคงคิดถึงเธอ..เปลี่ยนไปเพียงฤดูกาลA misty morning on the hills overlooking endless mountains.

เป็นสถานที่ ที่สวยงาม อากาศดีมาก เดินทางไม่ยากมาก คุ้มค้ากับการเดินทางขึ้นไปอย่างยิ่ง วิวสวย 360° แบบพาโนรามา ต้องไปเองถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างที่ผมบอกหรือไม่

วิวให้ห้าดาวเลย แต่ทางขึ้นไปดี เป็หลุมบ่อ ทางชัน

บรรยากาศดี รถเก่งขึ้นไม่ได้ ทางขึ้นหลุมเยอะแต่มีรถคอยบริการลมแรงมาก อากาศกำลังดี

วิวสวยมากๆค่ะ​ ไปช่วงต้นเดือน​ ธค​ ลมแรงมาก​ เย็นมากค่ะ​ บรรยากาศดี

วิวสวยมากกกกกกกกกกกก อากาศดี มีหมอกลอยมาเป็นระยะ สดชื่นสุดๆ มองเห็นวิวภูเขาเป็นชั้นๆ แต่ทางขึ้นไม่เหมาะกับรถเก๋งค่ะ ตอนไปทางค่อนข้างขรุขระในบางช่วง และมีหลุมใหญ่

ชอบๆๆไปเที่ยวปิล๊อกเช้าวันรุ่งขึ้นชวนพี่ๆ สายเทรลวิ่งขึ้นไปเนินช้างศึก..ขึ้นไปถึงฟินสุดๆๆๆหมอกเยอะมากกกก

ุ้ถ้าเก๋งเล็ก อย่าเสี่ยงเลย ฟอจูนเนอ+++ มอไซขึ้นได้ รถเกียร์ แต่สงสารรถเสีย 50บาทเถอะ ข้างบนลมแรง พกเสื้อหนาวมาเยอะๆ มาอีต่องแล้ว ก็ต้องขึ้นหละ

ขึ้นไปถึง ดูธรรมดา แต่ถ่ายภาพมาสวยสุดๆ ลมแรงมาก ตัวแทบปลิว ผมไม่ต้องพูดถึง

สวยมากครับบบ ไปลุยมาแล้วว เนินช้างศึก อยู่ก่อนถึง หมู่บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก ทองผาภูมิ ทางขับสนุกดีครับ มีหลุมมีบ่อค่อนข้างเยอะ รถเล็กก็ขึ้นได้นะ ถ้าไม่ค่อยกลัวรถพัง 555 เพราะหลุมเยอะมากกก บางหลุมก็ลึก วันขึ้นไปฝนตก หมอกหนาามากครับ วิวดีมากกก หากฟ้าเปิดจะสวยมาก อย่าลืมไปกันนะครับ

เกือบจะตื่นไม่ทันตอนเช้าซะแล้วต้องมาถ่ายรูปตอนเช้าอากาศดีครับแล้วก็สามารถมาถ่ายรูปสวยๆได้ตอนเช้าคนอาจจะไม่เยอะมากครับ

ทางขึ้นไปเนินช้างศึกมีทางลาดชัน คดเคี้ยวเหมาะสำหรับรถกระบะ 4WD หรือนั่งรถของผู้ให้บริการจะดีกว่า

เดินทาง จาก สมุทรปราการ 23.40 มาถึง เนินช้างศึก 05.30 ขึ้นมาเจอ บรรยากาศแบบนี้แล้วหายเหนื่อยครับ

อากาศดีหมอกหนาวิวสวย ทางขึ้นลงเขาธรรมชาติมาก..เละๆดี โดยจุดเด่นอยู่ที่ฐานปฏิบัติการช้างศึก กิจกรรมคือชมธรรมชาติถ่ายรูปวิวสวยๆ

แนะนำให้มาตอนเช้า วิวสวยมากอากาศดี เห็นได้ทั้งโซนพม่าและไทย ทางค่อนข้างวิบากนิดนึง สามารถ​จ้างรถสองแถวจากหมู่บ้านอีต่องขึ้นมาจะสะดวกกว่า

สถานที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะนั่งรถชาวบ้านขึ้นมาคนละ 50 บาท แต่รถเก๋งก็ขับขึ้นมาได้นะ ใจต้องถึงหน่อย เป็นทางลูกรัง แคบ หลุมเยอะข้างบนดีอากาศดี ทะเลหมอกเยอะ คงต้องมาลุ้นกันเองว่าจะเจอแบบไหน ฟุ้งไม่ฟุ้ง

ทิวทัศน์สวยงาม แต่ทางขึ้นค่อนข้างลำบากสำหรับรถเก๋ง เพราะมีหลุมน้ำขนาดใหญ่ค่อนข้างลึก แนะนำให้ใช้บริการถรับจ้างที่หมู่บ้านคนละแค่ 50 บาทเอง แต่คุ้มกว่าเอารถขึ้นเอง

สวยมากพระอาทิตย์ตกประมาณเวลา 18.00 น.

วันที่ขึ้นไป หมอกหนามาก มองไม่ค่อยเห็นวิว แต่ก็สวยไปอีกแบบค่ะ อากาศดีมาก ถ้าจะขึ้นไป แนะนำนั่งรถของชาวบ้าน เสียค่าขึ้นคนละ 50 บาทค่ะ แล้วเค้าจะรอจนเราถ่ายรูปเสร็จเลยค่ะ

อากาสดีมากหลงรักที่นี้ธรรมชาติบำบัด

เนินช้างศึก ทางรถขึ้นค่อนข้างขรุขระและชัน ถนนไม่ค่อยดี ทางแคบ แต่ข้างบนวิวดีค่ะ เป็นวิวเปิดโล่ง360° สามารถกางเตนท์ได้ มีห้องน้ำให้อาบและใช้ แต่ห้องน้ำค่อนข้างเก่า สุนัขเยอะมากๆ คนที่ชอบอาจจะถูกใจเพราะน้องๆน่ารักค่ะ แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบต้องคิดนิดนึงเพราะน้องเยอะมากจริงๆ ชอบมาขอขนมกิน เล่นได้ ถ้าไปช่วงเดือนมกรา-หน้าร้อนจะมองไม่เห็นวิวเขาเท่าไหร่เพราะควันเยอะมาก ถ้ามาช่วงหน้าฝนต้องลุ้นว่าหมอกจะลงมั้ย เพราะเคยไปหน้าฝนแล้วหมอกลงไม่เห็นอะไรเลยค่ะ แต่ถ้ามาเที่ยวช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็น เห็นวิวสวย แต่คนก็จะเยอะตาม สำหรับคนที่เดินทางรถสาธารณะไม่ได้เอารถมาเอง หรือไม่กล้าเอารถขึ้น สามารถติดต่อรถสองแถวเหลืองที่หมู่บ้านปิลอคได้นะคะ เค้ามีแพคเกจพาเที่ยว3-5ที่ในบริเวณนั้นค่ะ ลองติดต่อสอบถามที่หมู่บ้านปิลอคเลยค่ะ

สูงมากครับอากาศดี ถ้ามาวันฟ้าเปิดจะเห็นวิวโดยรอบเลยสวยมาก แต่ถ้าฟ้าปิดจะเป็นหมอกหนามากมองอะไรไม่เห็นเลยระยะการมองเห็นแค่ 100-200 เมตร เท่านั้น รถเล็กยังขึ้นมาลำบาก แนะนำรถสูงดีกว่าครับ หรือขึ้นมากับรถรับส่งจากในหมู่บ้านก็ได้ ไม่กี่บาทครับ

ทางลำบากนิดหน่อย..แต่เจอวิว หายเหนื่อยเลย

เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เหนื่อยมาก ร้อนเพราะแทบไม่มีไม้สูงให้อาศัยร่ม เราเลือกพกน้ำติดตัวตอนเดินขึ้นประมาณ 1.5 ลิตร รวมน้ำหนักกระเป๋าเกือบๆ 4 โล ที่เหลือจ้างลูกหาบ ตอนนี้ราคาลูกหาบอยูที่ 1500/30 โล ถือว่าแพงกว่าทุกรีวิวที่อ่านมาก่อนไป ก่อนหน้านี้เราไปภูกระดึงมาสองรอบ พอเทียบกันแล้วบอกได้เลยว่าอันนี้โหดกว่ามาก แต่ถึงอย่างไรเมื่อขึ้นไปแล้วต้องยอมรับเลยว่าคุ้มค่ามากๆ กลางคืนดาวเต็มฟ้าเห็นชัดเจนมากๆ ดีไม่แพ้ที่อื่นเลย ต้องไปสักครั้งในชีวิต เป็นสถามที่ที่พลาดไม่ได้ ลงจากเขามานอนพักที่บ้านอีต่องแวะเที่ยวน้ำตกจ๊อกกระดิ่นแบบชิวๆ ทริปนี้คุ้มค่าแน่นอน

วิวสวย... ใครชอบ วิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ แนะนำที่นี่ได้เลยครับ

เที่ยวเนินช้างศึก ยลแสงเช้า ชมทะเลหมอก ฐานช้างศึก หรือ เนินช้างศึก บางคนเรียก ยอดดอยปิล็อก บ้างก็เรียก ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด. บริเวณจุดชมวิวเขาสูง (เนินช้างศึก) เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นฐานที่มั่นของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาถึงดินแดนแถบนี้ มาเยี่ยมเยือนอยู่มิขาด จุดชมวิวนี้สามารถชมวิว ได้ 360 องศา ทั้งพระอาทิตย์ ขึ้น และตก โดยในช่วงฤดูร้อนจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกเหนือทะเลอันดามัน ฝั่งประเทศพม่าได้ แต่จะเห็นยากหน่อยในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากจะมีทะเลหมอกปกคลุม นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ได้ โดยสามารถกางเต็นท์บริเวณนอกฐานที่มั่นของตำรวจตะเวนชายแตน ใครอยากมีชมบรรยากาศทะเลหมอก ไม่ผิดหวังที่จะมาที่เหมือนยืนอยู่บนยอดดอยอินทนนท์เลยเชียว

เนินช้างศึก จุดชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยงาม ใครมาหมู่บ้านอิต่อง (ปิล็อก)​ ควรจะขึ้นมาชมนะจ๊ะ ค่ารถจากหมู่บ้านคนละ 50 บาท และควรมาสัก 4.30 น. เป็นต้นไป เพราะเขาจะได้พาไปหลายจุดแล้วมาจบที่พระอาทิตย์ตกพอดี แต่ถ้ารีบขึ้นมาไปก่อนก็ต้องรอพระอาทิตย์ตกอีกยาวนาน

ทางเข้ามาลำบากหน่อย แต่ดีตรงอากาศเย็นดี และลมแรงมาก

ว้าว....ไปทะเลหมอกสวยมากไปวิวทิวทัศน์สวย

เนินช้างศึกหรือยอดดอยปิล๊อก ตั้งอยู่ใน ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า เป็นที่ตั้งฐานของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สถานที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ได้ 360

ทางแย่กว่าแต่ก่อนมาก แต่รถตู้ธรรมดาๆก็ยังไปไหว บรรยากาศ อากาศดีไม่เคยเปลี่ยนครับ

เส้นทาง ขรุขระบ้าง ถนนพังไม่ได้ซ่อม รถเก๋งต้องค่อยๆขับ ชันนิดหน่อย แต่วิวสวย 360° เลย สามารถมองเห็นหมู่บ้านอีต่องจากมุมสูง กางเต็นทฺ์ได้ มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ มีหมาสีน้ำตาลเยอะเลย

หมอกหนาอากาศดีมากแต่ทางขึ้นลำบากมากๆแนะนำนั่งรถชาวบ้านขึ้นดีกว่าคนละ50บาทคุ้มค่าต่อชีวิตกับรถเรา

วิวสวยมากก..

หมอกเยอะ อากาศดี แนะนำให้มา และควรมารถท้องถิ่น รถปกติขึ้นไม่ได้หลุมเยอะและบางแห่งลึกเลย

ไปที่นี่ 3 ครั้งเจอหมอกฟุ้งจัดจนมองอะไรแทบไม่เห็น เสียดายถนนซีเมนต์ทางขึ้นไม่กี่ปีสภาพพังมาก ตอนนี้เลยต้องอาศัยรถในพื้นที่ ที่มีความชำนาญเส้นทางดีกว่า แต่ค่าบริการไม่แพงครับ

ครั้งหนึ่งในชีวิต มาปิล๊อกต้องขึ้นมาเนินช้างศึกให้ได้นะครับ ^^

ลมค่อนข้างแรงในตอนกลางคืน ที่นี่ไม่เสียค่าบริการกางเต้นท์ มีเพียงค่าบำรุงสถานที่และห้องน้ำที่นักท่องเที่ยวสามารถบริจาคได้ตามอัธยาศัย และที่สำคัญที่นี่ไม่มีเปิด ปิดเป็นกำหนดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปได้ตลอด บางที ขับทั้งคืนก็มี ใครที่พักอยู่ริมทาง ก็ทำใจไว้เลย ส่วนห้องน้ำ มีแยกส่วนชาย หญิง ห้องอาบน้ำแต่ละฝั่งมีเพียงห้องเดียว และ เนื่องจากเป็นสาธารณะสุดๆ ห้องน้ำจึงไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยทำความสะอาด นักท่องเที่ยวที่ไป จึงควรช่วยกันใช้ห้องน้ำอย่างมีวินัย รักษาความสะอาดกันด้วย

วิวสวยครับหมอกสวยมองเห็นหมู่บ้านปิล้อค

ทางขึ้นอาจจะไม่สดวก แต่พอถึงยอดเขาหายเหนื่อยเลย

อากาศดีมาก สูงชัน ถ้าจะเดินไปเองต้องใช้รถ แรงม้าสูงๆ มีรถบริการ อยู่ มีค่าใช้จ่าย.

พระอาทิตย์ตกดินสวยมากครับ..อากาศก็เย็นสบาย

ธรรมชาติงดงาม เดินขึ้นจากบ้านอีต่องประมาณ 1.2 กิโลเองครับ สบายๆ

หลังจากที่เดินเล่นพักผ่อน ที่ตลาดบ้านอีต่อง ก่อนที่จะเดินทางกลับ น่าจะได้ดู แวะเที่ยวชม เนินช้างศึกก่อน เลี้ยวออกมาจากเส้นทาง เข้าไป อีก 3~4 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางให้ เข้าไปก็จะเห็นสภาพเนินช้างศึกทางการหน่วยงานท้องถิ่นยังไม่ได้ มีป้ายบอกทาง ให้ชัดเจน แล้วก็น่าจะมีป้าย ชี้แจง บอกรายละเอียด ถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นมาอย่างไร มีนักท่องเที่ยว มากทีเดียวที่ให้ความสนใจแวะชม แต่ไม่มีอะไร บอกรายละเอียดได้ ป้ายบอกทางมีให้เห็น แต่ ไปถึงสถานที่ กับ ไม่ชัดเจนว่า บริเวณใดๆแน่ ที่เรียกว่า เนินช้างศึก คาดคิดว่า น่าจะกำลังปรับปรุง

สัมผัสลมหนาวบนเนินช้างศึก ชมพระอาทิตย์ขึ้น และ พระอาทิตย์ตกดิน ทิวทัศน์ Panorama 360 องศา สามารถขับรถยนต์ขึ้นไปได้ มีลานกางเต็นท์ เป็นที่ตั้งของหน่วยตำรวจตระเวนชายแดน และอุปกรณ์สื่อสารจานดาวเทียม สถานีวิทยุสื่อสาร นั่งรถ จากหมู่บ้าน เป็นรถโดยสารรับจ้าง คนละ 50 บาท ถ้าไม่อยากขับรถขึ้นไปเอง ขับรถ ไม่เก่งไม่ควรนำรถขึ้นไป ช่วงเทศกาล ที่จอดรถอาจจะไม่พอ ติดต่อขึ้นรถ ตอนเช้าหรือตอนเย็นได้ที่ร้าน mining Coffee นั่งจิบกาแฟกับปาท่องโก๋รอขึ้นรถได้ที่นี่ วันไหนโชคดีอาจเห็นทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นกลมโต มองเห็นหมู่บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก และทิวทัศน์โดยรอบ จากมุมสูง สวยงาม ประทับใจ บันทึกภาพไว้ เป็นความทรงจำ

เนินช้างศึก ถนนทางขึ้นเขาเป็นหลุมใหญ่มากๆ ควรใช้รถ4wd หรือใช้บริการรถรับ_ส่งในหมู่บ้าน ได้สร้างรายได้ให้ชาวบ้านด้วย ค่าโดยสารรถจากในหมู่บ้านมา คนละ 50.- เท่านั้นด้านบนมีจุดที่สามารถมองเห็นหมู่บ้าน และในวันฟ้าเปิดจะเห็นเขาช้างเผือกด้วย

บนเนินบรรยากาศดี วิวดี เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยงาม ทางขึ้นเป็นถนนปูนที่มีหลุมเยอะ มีบางช่วงเป็นถนนดินหลุมกว้าง ทางแคบแต่รถสวนกันได้ รถช่วงล่างต่ำไม่แนะนำให้ขึ้น

บรรยากาศดีมากก ถนนสุดยอดไปเลยวิวหลักล้านสุด ต้องไปตามกันนะค้ะ

เช้าๆ บรรยากาศสดชื่นมากๆ วิวสวย มองได้ไกลมากๆ 360° หลังฝนตกยิ่งหมอกหนา

เนินช้างศึก หรือ ยอดดอยปิล๊อก จุดยุทธศาสตร์ของชายแดนไทย-พม่า เป็นฐานของตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๓๕ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ ๓๖๐ องศา มีที่สำหรับกางเต็นท์ด้วย ไปหน้าเทศกาล รถเยอะ คนแน่นนิดนึง 😎 มีห้องน้ำค่ะ

ฐานปฏิบัติการช้างศึกเป็นฐานของ ตชด ที่135 มีอนุสรณ์สถานพลเอกตะวัน เรืองศรี มีบ้านพักเจ้าหน้าที่ ลานฮอลิคอปเตอร์ จุดชมวิวมุมสูงมองเห็นทั้งฝั่งไทยและพม่า ลมเย็นสบายข้อมูลเพิ่มเติม การเดินทางทางขึ้นรถไม่ต้องต้องใช้4wdก็ขึ้นได้ เป็นถนนคอนกรีตกับหิน บางช่วงช่วงหน้าฝนมีโคลนบ้าง ต้องระมัดระวังลื่น ควรขับขี่ควรใช้ความระมัดระวังกันด้วยครับช่วงหน้าฝนรถเก๋งหรือรถเตี้ยควรระวังเรื่องหลุมน้ำขนาดใหญ่และลึก***แนะนำ โปรดนำขยะกลับบ้านกันด้วยนะครับมาเมื่อ 25.11.2563มาเมื่อ 24, 25.9.2563มาเมื่อ 26.7.2562

วิวสวย บนรยากาศดี คุ้มค่าต้องมาอีกแน่ๆไปดูช่วงพระอาทิตย์ตกดิน สวยลมเย็นๆ

วันนี้มีหมอกหนา มองไม่ค่อยเห็นอะไรมาก

สวยงามมากอากาศดีบรรยากาศดีตอนเช้ามีทะเลหมอกให้ดูให้ถ่ายรูปด้วยสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบทั่งฝั่งไทยและฝั่งเมียร์มาหน้าฝนต้องปิคอัพเท่านั้นรถเก๋งหมดสิทธิ์ติดต่อรถขึ้นมากับทางหมู่บ้านหรือรีสร์อทค่ารถคนล่ะ50บาทเพราะถนนชันมีหลุดมีบ่อมีโคลนเป็นบางช่วงแต่ก็คุ้มค่าที่ได้ขึ้นมา

วิวสวยมาก 360° ขึ้นมาถึงห้าโมงเย็น ที่จอดรถแทบไม่มีแล้วต้องเบียดๆกัน คนเยอะมาก ลมพัดตลอดจนหนาวเลยดีจริงๆ อิจฉาคนกางเต้นท์บนนี้เลย ได้ชมดาวใกล้ชิดขุนเขากอด ชมอาทิตย์ตกหลังเขาที่งดงาม แต่ขึ้นมาแล้วอย่านำขยะขึ้นมากินแล้วช่วยนำกลับไปด้วยนะครับจะได้ไม่ทำลายบรรยากาศดีๆที่คนอื่นยังไม่ได้มาได้เห็น ชอบคอมเม้นผม ช่วยกดไลค์ให้ด้วยนะครับ55

บรรยากาศดีมากอากาศเย็นวิวสวยเเสงสุดท้ายปี2562ครับเห็นวิวหมู่บ้านอีต๋องด้วยนะครับ

-ขับรถขึ้นไปได้ ไม่ลำบากเลย-เหมาะจะนอนกางเต้นท์มาก แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่น้อยเลย ภูเขาโล้นๆ-มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำให้ แต่ไม่สะอาดเลย *ย้ำว่าไม่สะอาด เหม็น มืด-สัก8โมงเช้าแดดเริ่มร้อน เพราะไม่มีต้นไม้-วิวสวย เห็นรอบ360องศา-มีน้องหมา3-4 ตัว ไม่ดุเลย

อากาศดีมาก เห็นวิวและทะเลหมอกได้ช้ดเจน สามารถกางเต๊นท์ได้

อากาศดีลมพัดตลอด มีทะเลหมอก มองเห็นฝั่งพม่า รถขับขึ้นมาไม่ยากนัก แนะนำขับสี่

เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ทางขึ้นเขาจะลำบากหน่อย

ชอบบรรยากาศดี มีครบทั้งหมอก ฝน ลมสุดๆไปเลย....

อากาศดีมากมายสักครั่งต้องมาเยือน #สุดแดนตะวันตำ

หมอกระยะประชิด ทุกอณูของอากาศคือหมอก คือความเย็นจากหมอก ร่องรอยการสู้รบของทหารรักษาแนวเขตแดน ยังแจ่มชัด มีทั้งความเย็นของหมอก ร่องรอยที่ย้อนให้เราคิดถึงว่าสมัยก่อนนั้น ลำบากแค่ไหนกันแ กับการปกป้องการรุกเขตแดนจากเพื่อนบ้าน เรียนรู้ และจดจำภาพในวันวาน พร้อมทั้งสัมผัส หมอกจากธรรมชาติที่แท้ๆจริงๆ คุ้มแล้วจริงๆที่บากบั่นขึ้นมา ขอแค่ทุกคนช่วยกันรักษาสถานที่ด้วยก็พอนะค้ะ

หมอกแบบว่าฟินมากๆ ☁️😁

มีโอกาสได้มาช่วงเดือนเมษายน อากาศเย็นและลมแรงมาก ทิวทัศน์สวยงามสามารถชมได้แบบ 360 องศา เปิดให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์ได้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการกางเต็นท์ มีห้องน้ำให้แต่อาจไม่สะดวกสบายนัก สามารถขับรถขึ้นมาได้ ชมทะเลหมอกได้แม้แต่ในช่วงเย็น

วิวสวยของขุนเขา แสงพระทิตย์ก่อนตกดิน อากาศเย็นสบายดี วิวที่มองลงมาเห็นอีต่อง

สวยอากาศดีมากเหมาะกับการพักผ่อน

วิวใช้ได้ มารถคนละ50บาท

วิวสวยมาก ตอนเช้าอากาศหนาว แนะนำขึ้นรถของพื้นที่มาชม ถนนค่อนข้างลำบากสำหรับคนไม่ชินทาง

ขึ้นไปเป็นจุดชมวิวที่สามารถ มองได้ 360 องศา ลมแรงมากไม่มีต้นไม้ ถ้าเป็นช่วงกลางวันแดดออกร้อน ช่วงเช้าจะมีหมอก ทางเข้าเป็นลูกรังแดงมีหลุมเยอะประมาณ 400 เมตร หลังจากนั้นเป็นเทปูน ไปช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นถึงหนาว มีห้องน้ำบริการ

ลมแรงทั้งวันทั้งคืน อากาศเย็นถึงหนาว

เส้นทางเดินธรรมชาติ ขึ้นไปยังเนินช้างศึก ระยะทาง 1.2 กม. จากหมู่บ้านอีต่อง เดินไม่ยากมากนัก เป็นหินก้อนซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีป้ายบอก แต่เดินเลาะไปทางซ้ายมือซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัวเคยขับรถขึ้นไปเนินช้างศึกมาแล้ว เลยแวะเนินเขาลูกข้างๆ แทน ได้ภาพมุมสวยๆ แปลกไปจากเนินช้างศึกเยอะเลย

บรรยากาศดี เส้นทางโหดไปหน่อย

กลางวันอากาศเย็น25องศา วิวสวย

หมอกเยอะ วิวสวย แต่ทางขึ้นลำบากหน่อย

ได้เห็นความแตกต่างระหว่างผืนป่าฝั่งไทยกับฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน

บรรยากาศดี เห็นวิวสวยงามคะ

เนินช้างศึก เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ในเขตพรมแดนไทย-พม่า นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวที่เห็นทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา นักท่องเที่ยวขาลุย นิยมมากางเต็นท์กันมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว มีหมอกปกคลุมตามยอดเขา สวยงามมากเนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร มีบ้านพักเจ้าหน้าที่ ลาน ฮ. และจุดชมวิวในมุมสูง ฝั่งไทยจะเห็นจุดชมวิวเนินเสาธง และหมู่บ้านอีต่อง อยู่ในหุบเขาด้านล่าง ส่วนฝั่งพม่าจะเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน และผืนป่าเดียวกันกับไทยไกลออกไปสุดสายตา มีสถานีส่งก๊าซในฝั่งพม่าอยู่ไม่ไกลจากเขตชายแดน

ไปช่วงสงการนต์ ถ้ากลางวันร้อนมากค่ะ แต่พอตกดึก ตีสามโผล่หน้าออกจากเต้นนี่คือไม่เหนอะไรเลยนอกจากหมอก เช้าทะเลหมอกสวยมาก คนมาเยอะ มีรถรับจ้าง กางเต้นนอนได้ เวลาเช้าบนเนินช้างศึกนี่คือ... ที่สุดแล้วค่ะ